วงการหวยสะท้านสะเทือนทั้งประเทศ "แรมโบ้-บิ๊กโจ๊ก"เปิดศึกบุกถ้ำ‘มังกรฟ้า’ค้นรังใหญ่สาขาเมือง-เลย ส่อโยงขบวนการหวยแพง พบหมุนเวียนงวดละ 100 ล้าน
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 25 มีนาคม 2565 ที่สำนักงานใหญ่ เลขที่ 24 ม.2 ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี หรือแรมโบ้อีสานประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคาและ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. รองประธาน พล.ต.ต.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบช.ภ.1 ร่วมกับ พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผอ.สนง.สลากกินแบ่งรัฐบาล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นตามหมายค้นศาลอาญาที่บริษัท มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่ จำกัด สำนักงานใหญ่ เพื่อตรวจสอบเป้าหมายผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติกรรมในการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาเกินกว่าที่กำหนด
ทั้งนี้จากการสืบสวนเบื้องต้นทราบว่าได้มีแอพพลิเคชั่นและเว็บไซต์ของมังกรฟ้า ซึ่งเชื่อว่าดําเนินการโดย บริษัท มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่ จํากัด มีนายพชรล์ เมสสิยาห์พร อายุ 29 ปี เป็นกรรมการผู้จัดการ ประกอบกิจการโดยนําสลากกินแบ่งรัฐบาล มาสแกนเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และมีการเปิดรับตัวแทนผู้ค้ารายย่อย ทั้งผู้ที่มีโควตาสลากอยู่แล้วนำสลากมาสแกนเข้าระบบ และผู้ที่ไม่มีโควตาสลากมาซื้อสลากเพื่อขายต่อให้กับลูกค้า ซึ่งตัวลูกค้าจะต้องลงทะเบียนในระบบด้วยเช่นกัน เมื่อกดซื้อสลากระบบจะนำไปที่หน้าร้านของตัวแทน ซึ่งจะมีการเสนอขายสลากเกินราคา โดยเริ่มต้นที่ใบละ105 บาท
สลากที่มีการเสนอขายในระบบนั้น จะมีการปิดบังบาร์โค้ดของสลาก ทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลของจริงหรือไม่ อีกทั้งรูปแบบการเสนอขายสลากกินแบ่งรัฐบาลดังกล่าว ไม่ใช่การจําหน่ายแบบปลีกโดยตรงให้กับประชาชน จึงไม่ตรงตามเงื่อนไขในการจําหน่ายสลาก ทำให้สลากมีราคาสูงกว่าที่กำหนด สร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชน
ทั้งนี้ ได้มีการปฏิบัติการเข้าตรวจค้นตามหมายค้นของศาลอาญาลงวันที่ 23 มีนาคม 2565 รวมทั้งหมด 2 จุดใน 2 จังหวัด ได้แก่ 1. บริษัท มังกรฟ้า ล็อตเตอรี่ จำกัด และ บริษัท มังกรฟ้าแม่พลอย ครัวอยู่ศรี จำกัด เลขที่ 24 ม.2ต.อ้อมเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี และ 2. บริษัท มังกรฟ้าฯ สาขาเมืองเลย เลขที่ 68/13-14 ถ.เลย-เชียงคาน ต.กุดป่อง อ.เมืองเลย จ.เลย
สำหรับการเข้าตรวจค้นทั้ง 2 จุดในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ได้เข้าทำการตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาลที่มีการเก็บรักษาไว้ในสำนักงานทั้ง 2 จุด ว่าเป็นสลากกินแบ่งรัฐบาลของจริงหรือไม่ อยู่ในโควตาการจัดสรรให้กับผู้ค้ารายย่อยโดยถูกต้องหรือไม่ และตรวจสอบสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ได้สแกนเก็บไว้ในฐานข้อมูลว่ามีการเสนอขายสลากเกินราคาหรือไม่ และสลากที่สแกนนั้นมีสลากกินแบ่งตัวจริงรองรับไว้ด้วยหรือไม่
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้สืบเนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสลากกินแบ่งรัฐบาลเกินราคา ได้เล็งเห็นปัญหาที่ประชาชนประสบกับการขายสลากเกินราคา จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาดังกล่าวขึ้น โดย ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ตน ในฐานะรองประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาฯ และหัวหน้าชุดปฏิบัติการพิเศษฯ เข้าตรวจสอบเป้าหมายผู้ค้าคนกลางที่มีพฤติการณ์ขายสลากเกินราคา เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนโดยด่วน
สำหรับวันนี้ได้มีการปฏิบัติการเข้าตรวจค้น 2 จุด ตรวจพบสลากกินแบ่งรัฐบาลมากกว่า 2 ล้านฉบับ ซึ่งนำมาเสนอขายในเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นของมังกรฟ้า ในราคาเริ่มต้นฉบับละ105 บาท ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด จากการตรวจสอบเบื้องต้นมีเงินหมุนเวียนอยู่ในระบบดังกล่าวกว่า 100 ล้านบาทต่องวด หากพบว่าผู้ได้รับการจัดสรรโควตามีส่วนร่วมในแพลตฟอร์มดังกล่าวต้องถูกเพิกถอนโควตาดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดการแทรกแซงกลไกราคาและผลกระทบต่อประชาชน
“จากการสอบสวนพบว่าบริษัทดังกล่าวมีการนำสลากกินแบ่งรัฐบาลมาสแกนขึ้นจำหน่ายบนแพลตฟอร์มของตัวเองจำหน่ายเกินกว่าราคาที่กฎหมายกำหนดใบละ 105 บาท 90 บาท การเข้ามาตรวจสอบในวันนี้เป็นเพียงแค่การเข้ามาตรวจสอบหาหลักฐานเพิ่มเติมในการดำเนินคดี ส่วนเรื่องสลากที่บริษัทดังกล่าวเปิดให้ประชาชนเข้ามาจองทางออนไลน์นั้น หากเราตรวจสอบแล้วพบว่าสลากที่เปิดให้จองไม่มีอยู่จริงจะเข้าข่ายหลอกลวงประชาชน และต้องดูว่าบริษัทได้รับอนุญาตให้เป็นตัวแทนจำหน่ายถูกต้องหรือไม่ หากไม่ได้รับอนุญาตก็ต้องดูว่าจะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.การพนันหรือไม่ ในเรื่องของการรับกินรับจ่ายต่อไป ต้องขอเวลาตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว
ด้านนายเสกสกล กล่าวว่า ตามกฎหมายแล้ว ในเรื่องของสัญญา ห้ามปล่อยช่วง เช่นถ้าใครได้ทำสัญญากับชาวบ้านแล้วคุณต้องขายเอง ในราคา 80 บาท ห้ามขายช่วง ห้ามขายยกเล่ม ซึ่งมีความผิดทันที ส่วนผู้รับมาขายต่อ ก็มีความผิดเช่นเดียวกัน คงต้องบอกว่าทางเรารักษาผลประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชนส่วนใหญ่ บางคนบอกว่าทำไมถึงมาจับกุมพ่อค้ารายย่อย ซึ่งจริงๆ ทางเรายังไม่เคยจับรายย่อยเลยแม้แต่รายเดียว ตอนนี้เรากำลังทำให้เห็นแล้วว่าเราดำเนินการ ตามที่พี่น้องประชาชนได้ร้องเรียนมา แต่ในขณะเดียวกันพี่น้องประชาชนเองต้องให้ความร่วมมือ ด้วย ตอนนี้ได้มอบหน้าที่ให้ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้มอบอำนาจท่าน ส่งตำรวจทุกพื้นที่เฝ้าที่ไปรษณีย์ ซึ่งมีปัญหา มีนายทุนยี่ปั๊ว เอาลายเซ็นไปรับที่ไปรษณีย์ก็ให้มาเลย ไม่มีการตรวจสอบ ลายเซ็นไม่ตรวจสอบลายมือใครเลย อยากมารับแทนก็มารับได้เลยอย่างนี้ไม่ได้ต้องตั้งกติกาใหม่
"วิธีการรับเจ้าตัวต้องมารับเองถ้าใครมารับไม่ได้ต้องบอกว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ไม่งั้นรับใบมอบอำนาจไปขนกันหน้าไปรษณีย์ เป็นพันเป็นหมื่นเล่ม คราวที่แล้วจับที่จังหวัดเลย กรณีนี้เป็นต้น ทำกันเป็นขบวนการ หลังจากจับกุมไปแล้วเจ้าตัวมารับเองก็ให้ตาม ต่อพบว่าไปขายอยู่ใต้ต้นมะขามมีนายทุนมารับช่วงต่อไปอีก ตอนนี้ไม่ได้ยกเลิกอะไรทางกองสลากกำลังตรวจ มีชื่อจริงหรือเปล่าเป็นคน จนหรือไม่ มีคุณสมบัติครบถ้วนหรือเปล่า ไม่ใช่คนมีฐานะหรือคนเป็นข้าราชการก็จะไม่ได้โควต้าด้วย ตอนนี้อยู่ระหว่างพิสูจน์ตัวตนว่าไอ้รายชื่อทั้งหมดที่มีอยู่ ขณะนี้ 1 แสนกว่าชื่อ หรือว่าที่เข้ามาจองใหม่ ที่จะเพิ่มจำนวนให้ครบ 2 แสนชื่อต้องมีตัวตนที่แท้จริง เป็นคนยากคนจนจริงและขาย 80 บาทจริง จะได้โควต้าหรือได้สิทธิ์แล้ว ได้ 5 เล่มแบบเสรีแล้ว ถ้ามาฝากขายก็จะขายให้ อันนี้เป็นแนวคิด ในขณะเดียวกัน ทางสมาคมมูลนิธิที่ได้ไป ถ้าสมาคมไหน ที่เดือดร้อนจริงมูลนิธิที่เป็นคนพิการจริงสมาชิกที่เอาไปดูแลและขายไม่เกินราคาจริงเราจะไม่แตะถ้าสมาคมไหน เป็นคนตาดีแล้วไปจดเป็นคนตาบอด เราก็ต้องตรวจสอบแล้วยกเลิกโควต้าไป เพื่อยอดเหล่านั้นมาให้สมาคมกับมูลนิธิที่เขาดูแลผู้พิการและคนยากคนจนจริง"นายเสกสกล กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี