ประเด็นการร้องเรียนมรรยาททนายความของคุณชูวิทย์ คงเป็นที่น่าสนใจของประชาชนในช่วงนี้ ในตอนนี้ผู้เขียนจึงขอเขียนสรุปถึงกรอบของข้อบังคับมรรยาททนายความโดยย่อ ว่าผู้ประกอบวิชาชีพทนายความนั้นมีข้อห้ามหรือข้อควรระมัดระวังสำคัญคืออะไรบ้าง โดยข้อบังคับ มรรยาททนายความแบ่งเป็นหมวดหมู่สำคัญดังนี้

หมวด 2 มรรยาทต่อศาลและในศาล ในหมวดนี้จะกำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับ การปฏิบัติหน้าที่ของทนายความต่อศาลและในศาล รวมถึง การปฏิบัติหน้าที่การแสดงพยานหลักฐานต่อศาลด้วย อาทิ ห้ามทำเอกสารหรือหลักฐานเท็จ การสนับสนุนให้ลูกความเบิกความเท็จ เป็นต้น

หมวด 3 มรรยาทต่อตัวความ ในหมวดนี้จะเป็นข้อบังคับ หมวดที่สำคัญและมักจะเป็นประเด็นข้อพิพาทร้องเรียน มรรยาททนายความเป็นหลัก

โดยมีสาระสำคัญ เช่น ห้ามยุยงส่งเสริมให้มีการฟ้องร้องคดีที่หามูลไม่ได้ ห้ามใช้กลอุบายและอวดอ้างให้ผู้มอบคดีให้ว่าต่างแก้ต่าง ห้ามเปิดเผยความลับกับลูกความ ห้ามปฏิบัติหน้าที่ ที่ทำให้เสื่อมเสียประโยชน์ของลูกความ เช่น ขาดนัด ห้ามกรณีได้รับข้อมูลจากลูกความฝ่ายหนึ่งและนำไปช่วยคู่ความอีกฝ่ายหนึ่ง  ห้ามฉ้อโกง ยักยอก หรือหน่วงเหนี่ยวเงินของลูกความเป็นต้น 

หมวด 4 มรรยาทต่อทนายความด้วยกันและประชาชนผู้มีอรรถคดี ในหมวดนี้ได้กำหนดไว้ ทั้งการดำรงตนและการประกอบวิชาชีพเพื่อไม่ให้เกิดการโฆษณาหรือการแย่งคดีในลักษณะที่ทำให้เสื่อมเสียในวิชาชีพเช่น ห้ามแย่งหรือกระทำในลักษณะประมูลคดีในคดีที่มีทนายความว่าต่างแก้ต่างอยู่แล้ว ห้ามประกาศโฆษณาอัตราค่าว่าความรวมทั้งห้ามประกาศโฆษณาในทำนองรับดำเนินการโดยไม่เรียกร้องค่าว่าความ ห้ามโฆษณาโอ้อวด ห้ามมีนายหน้าหาคดี รวมถึงห้ามประกอบวิชาชีพดำเนินธุรกิจหรือประพฤติตนอันเป็นการฝ่าฝืนศีลธรรมอันดีหรือเสื่อมเสียศักดิ์ศรีกิตติคุณของทนายความ

โดยโทษกรณีประพฤติผิดมรรยาททนายความข้างต้น ของทนายความนั้นมีดังนี้ 1.ภาคทัณฑ์ 2.ห้ามทำการเป็นทนายความมีกำหนดไม่เกิน 3 ปี 3.ลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ

ผู้ที่มีอำนาจพิจารณา โทษดังกล่าวนั้นคือคณะกรรมการมรรยาททนายความโดยจะพิจารณาจากความรุนแรงของสิ่งที่ทนายความกระทำผิดมรรยาททนายความ เช่นในอดีตที่ผ่านมาหากทนายความประพฤติผิดในเรื่องของเงิน เช่น ยักยอกเงินของลูกความหรือหลอกลวงเงินจากลูกความนั้นมักจะมีโทษร้ายแรงคือ ห้ามเป็นทนายความหรือลบชื่อออกจากทะเบียนทนายความ