อีกหนึ่งคดีที่เป็นข่าวน่าสนใจของประชาชนคงไม่พ้นกรณีเสี่ยแป้ง หรือ เชาวลิต ทองด้วง ที่หลบหนีการคุมขังและอยู่ระหว่างการติดตามตัว
อย่างไรก็ตามในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีกระแสข่าวถึงการถูกดำเนินคดีที่ไม่เป็นธรรม ผู้เขียนจึงขอมา เล่าในรายละเอียดเกี่ยวกับการรื้อฟื้นคดีอาญาซึ่งมีกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่สำคัญคือ พระราชบัญญัติการรื้อฟื้นคดีอาญาขึ้นพิจารณาใหม่ 2526
โดยในกฎหมายดังกล่าวมาตรา 5 วางหลังเอาไว้ว่า “คดีใดที่ตัดสินให้บุคคลรับโทษไปแล้ว อาจมีการร้องขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นพิจารณาใหม่” เมื่อมีเหตุดังต่อไปนี้
1. เมื่อพยานในคดีเบิกความเท็จ
2. เมื่อพยานเอกสารหรือวัตถุพยานที่ใช้ในคดีเป็นของปลอมหรือเป็นเท็จ
3. เมื่อมีพยานหลักฐานใหม่
ซึ่งในกรณีตามข้อ 1 และข้อ 2 นั้นหากมีการดำเนินคดีหรือสามารถพิสูจน์ได้ว่า พยานบุคคลรวมถึงพยานเอกสารส่วนหนึ่งส่วนใดเป็นเท็จ และเป็นเท็จในข้อสาระสำคัญในคดีแล้ว ภายหลังหากผู้มีส่วนได้เสียหรือ ผู้ที่มีสิทธิ์และอำนาจในการยื่นร้องขอให้ศาลพิจารณาคดีใหม่แล้วอาจมีโอกาสที่ทำให้ผลคดีเปลี่ยนแปลงไปได้
ส่วนกรณีตามข้อ 3 นั้น ในข้อเท็จจริงและแนวทางปฏิบัตินั้นค่อนข้างจะมีโอกาสเป็นใบน้อยไปได้น้อยเนื่องจาก อย่างไรก็ตามพยานหลักฐานที่อ้างว่าเกิดขึ้นใหม่นั้นแล้วส่วนมากจะมีอยู่แล้วในขณะที่พิจารณาคดี
ผู้มีสิทธิ์และมีอำนาจยื่นคำร้องขอให้ศาลพิจารณาพิพากษาคดีใหม่ ได้แก่ บุคคลที่ต้องรับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุด หรือจำเลยนั่นเอง ผู้แทนโดยชอบธรรม หรือ ผู้อนุบาลของบุคคลผู้ต้องรับโทษอาญาโดยคำพิพากษาถึงที่สุดนั้นผู้จัดการ หรือ ผู้แทนอื่นของนิติบุคคลกรณีผู้ต้องรับโทษอาญา ผู้บุพการี ผู้สืบสันดานสามีหรือภริยาของบุคคลผู้ต้องรับโทษอาญา ในกรณีที่บุคคลนั้นถึงแก่ความตายก่อนที่จะมีการยื่นคำร้อง พนักงานอัยการ ในกรณีที่พนักงานอัยการมิได้เป็นโจทก์ในคดีเดิม
อย่างไรก็ตามการรื้อฟื้นคดีใหม่นั้น ในหลักการอาจจะเห็นว่ามีโอกาสที่จะรื้อฟื้นคดีใหม่ได้หากสามารถพิสูจน์เกี่ยวกับการเบิกความเท็จ ของพยาน หรือพิสูจน์เกี่ยวกับพยานหลักฐานเท็จ อย่างไรก็ตามในทางปฏิบัติจริงก็ยังมีอุปสรรคหลายประการ อาทิ พยานหลักฐานที่จะมานำสืบเกี่ยวกับการเบิกความเท็จหรือพยานหลักฐานเท็จนั้นมีน้ำหนักเพียงใด นอกจากนี้ยังต้องพิจารณาต่อไปว่าประเด็นที่เป็นเท็จนั้นเป็นสาระสำคัญแห่งคดีหรือไม่ จึงทำให้การรื้อฟื้นคดีนั้นมีโอกาสยากในทางปฏิบัติและเกิดประเด็นปัญหาทางสังคมเกี่ยวกับการไม่รับความเป็นธรรมอยู่เรื่อยมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี