ปภ.ตั้งวอร์รูม
รับมือพายุ‘วิภา’
ฝนถล่มทั่วไทย
ย้ำ4จว.เฝ้าระวัง
“ภูมิธรรม”ยันสั่ง ปภ.ตั้งวอร์รูม รับมือพายุ “วิภา” 24 ชม.ด้าน ปภ.แจ้งเตือน 4 จังหวัดภาคเหนือ เฝ้าระวังถึง 24 กรกฎาคมนี้ ด้านกรมอุตุฯ ประกาศเตือน 58 จังหวัดทั่วไทย รับมือฝนถล่มเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก กทม.ไม่รอด ฝนตกร้อยละ 70 ส่วน จ.น่าน เฝ้าระวังสูงสุด เปิดวอร์รูมรับมือพายุ ‘วิภา’
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวถึงการเตรียมรับมือพายุวิภา ที่พัดเข้าไทย ว่าได้สั่งการอย่างต่อเนื่อง ได้เปิดวอร์รูมให้ปฏิบัติการ 24 ชั่วโมง สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และหน่วยงานในจังหวัด ตื่นตัวเรื่องนี้ รวมถึงประสานงานแจ้งข่าวให้ประชาชนทราบ ซึ่งเท่าที่ติดตามสถานการณ์ ยังไม่ใช่เป็นน้ำท่วมขัง แต่เป็นเรื่องน้ำหลากที่เข้ามาแล้วก็ไป เราได้เตรียมเครื่องมือไว้ตามจุดต่างๆ แล้ว ดังนั้นเรื่องนี้ไม่มีปัญหาอะไร
ด้าน ปภ.ได้ติดตามสถานการณ์เตือนระวังดินโคลนถล่มพื้นที่ลาดชันและเชิงเขา ช่วงวันที่ 21-24 กรกฎาคม 2568 เนื่องจากฝนตกหนักต่อเนื่องและมีฝนสะสมในพื้นที่ จ.น่าน (อ.เฉลิมพระเกียรติ, อ.ทุ่งช้าง, อ.เชียงกลาง, อ.ท่าวังผา, อ.ปัว, อ.บ่อเกลือ, อ.สันติสุข, อ.เมืองน่าน) จ.แพร่ (อ.วังชิ้น, อ.เด่นชัย, อ.ร้องกวาง, อ.สอง) จ.กาญจนบุรี (อ.สังขละบุรี, อ.ทองผาภูมิ อ.ด่านมะขามเตี้ย อ.ศรีสวัสดิ์ อ.ไทรโยค อ.เมืองกาญจนบุรี) จ.ตาก (อ.ท่าสองยาง, อ.แม่ระมาด, อ.แม่สอด, อ.อุ้มผาง, อ.เมืองตาก, อ.บ้านตาก, อ.สามเงา) และ จ.แม่ฮ่องสอน (อ.สบเมย, อ.แม่สะเรียง, อ.แม่ลาน้อย, อ.ขุนยวม, อ.เมืองแม่ฮ่องสอน, อ.ปางมะผ้า, อ.ปาย) จึงขอให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเตรียมสิ่งของจำเป็น หลีกเลี่ยงอยู่ในพื้นที่เสี่ยง สังเกตสิ่งบอกเหตุ
อย่างไรก็ตาม ปภ.ได้ร่วมกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ ส่งข้อความผ่านระบบเซลล์บรอดแคสต์ (Cell Broadcast) แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ดังกล่าว ให้ระวังดินโคลนถล่ม ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ทางไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ 1784” เพิ่มเพื่อนที่ Line ID @1784DDPM หรือโทร.สายด่วนนิรภัย (ปภ.) 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
ขณะที่ น.ส.สุกันยาณี ยะวิญชาญ อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุ “วิภา” และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 6 มีใจความว่า พายุโซนร้อนกำลังแรงวิภา มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองจ้านเจียง มณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนตัวลงสู่อ่าวตังเกี๋ยและเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ช่วงวันที่ 21-22 กรกฎาคม 2568 และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชันและหย่อมความกดอากาศต่ำ ตามลำดับ จากนั้นมีแนวโน้มจะเคลื่อนตัวตามแนวร่องมรสุมที่พาดผ่านประเทศลาวตอนบนและภาคเหนือตอนบนต่อไป ขณะที่มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย
จากอิทธิพลของพายุ “วิภา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ส่งผลทำให้ช่วงวันที่ 20-24 กรกฎาคม 2568 บริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ด้านตะวันตกของภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ดังนี้ วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตากกำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
วันที่ 23-24 กรกฎาคม 2568 ภาคเหนือ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลกพิจิตร เพชรบูรณ์ กำแพงเพชร และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.นครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ลพบุรี สระบุรี กาญจนบุรี ราชบุรี และพระนครศรีอยุธยา ภาคตะวันออก จ.นครนายก ปราจีนบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด ภาคใต้ จ.เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ระนอง และพังงา
สำหรับทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 4 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง เรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบน ควรงดออกจากฝั่งช่วงวันและเวลาดังกล่าว
พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึง กทม.และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง ตั้งแต่ จ.สุราษฏร์ธานี ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร ตั้งแต่ จ.นครศรีธรรมราช ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ตั้งแต่ จ.พังงา ขึ้นมา ทะเลมีคลื่นสูง 2-4 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 4 เมตร ตั้งแต่ จ.ภูเก็ต ลงไป ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงกว่า 3 เมตร
ที่ จ.น่าน วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดฝนตกหนักตลอดคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้น้ำจากอ่างเก็บน้ำน้ำเกี๋ยน เอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่บ้านต้นกอก หมู่ 3 ต.น้ำเกี๋ยน อ.ภูเพียง จ.น่าน ก่อนจะไหลลงสู่ลำน้ำเกี๋ยน และทะลักเข้าท่วมถนนในหมู่บ้านหนองเต่า หมู่ 3 ต.ม่วงตึ๊ด โดยเฉพาะเส้นทางจากคุ้มหยาดพิรุณเชื่อมต่อถนนทางหลวงชนบท นน.3248 สายหนองเต่า-ร้องตอง จนไม่สามารถสัญจรได้
อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว รวมทั้งเส้นทางลัดไปยังที่ว่าการ อ.ภูเพียง ซึ่งถูกน้ำป่าไหลหลากท่วมผิวจราจร นับตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา เบื้องต้นคาดการณ์ว่าหากไม่มีฝนตกเพิ่มเติม ระดับน้ำจะเริ่มลดลง
นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผวจ.น่าน เปิดเผยว่า ได้ตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ (War Room) ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับมือสถานการณ์อุทกภัยจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” ที่คาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยช่วงวันที่ 22 กรกฎาคม โดยมีศูนย์กลางพาดผ่านพื้นที่ อ.ท่าวังผา และ อ.ปัว ซึ่งคาดว่าจะมีฝนตกสะสมไม่ต่ำกว่า 200 มิลลิเมตร อาจส่งผลให้น้ำในแม่น้ำน่าน ล้นตลิ่ง จึงขอให้ประชาชนตระหนัก แต่ไม่ตระหนก เชื่อมั่นในการบริหารจัดการของภาครัฐ และติดตามข้อมูลข่าวสารจากทางราชการเป็นหลัก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี