ยกฟ้อง'โตโต้'หมิ่นเบื้องสูง ศาลชี้ไม่พิสูจน์ได้ว่าใครเป็นคนโพสต์ข้อความ

ยกฟ้อง'โตโต้'หมิ่นเบื้องสูง ศาลชี้ไม่พิสูจน์ได้ว่าใครเป็นคนโพสต์ข้อความ

วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.10 น.

ยกฟ้อง"โตโต้"หมิ่นเบื้องสูง ศาลชี้ไม่พิสูจน์ได้ว่าใครเป็นคนโพสต์ข้อความ ทั้งเจ้าตัวถูกจับที่ ตชด.ภ.1 เจ้าตัวยันไม่คิดฟ้องกลับ โวมาศาลทุกครั้ง ไม่เคยใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง

เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 26 สิงหาคม 2568 ที่ห้องพิจารณาคดี 809 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.3012/64 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายปิยรัฐ จงเทพ หรือ โตโต้ สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) และอดีตหัวหน้าการ์ดกลุ่ม WEVO เป็นจำเลย ในความผิดดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14


กรณีเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2563 จำเลยได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวทำนองประณามการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สลายกิจกรรมการขายกุ้งของกลุ่มวีโว่ ช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 รวมทั้งข้อความบางส่วนได้พาดพิงถึงการใช้เงินภาษีของสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นการดูหมิ่น แสดงความอาฆาตมาดร้าย สถาบันเบื้องสูง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้วเห็นว่า ข้อความที่ปรากฏตามเพจเฟซบุ๊กของจำเลย ซึ่งเปิดเป็นสาธารณะ มีการโพสต์ถึงการทำงานของจำเลย และจำเลยเคยได้ไลฟ์สด โดยเพจดังกล่าวมีแอดมินเพจทั้งหมด 5 คน โดยไม่มีพยานหลักฐานชัดเจนว่า ใครเป็นคนโพสต์ข้อความดังกล่าว ทั้งนี้ ข้อความที่โจทก์ฟ้องนั้น มีหลักฐานว่า ปรากฏบนเฟซบุ๊กในเวลา 14.15 น.ของวันที่ 31 ธันวาคม 2563 แต่ในขณะนั้นจำเลยถูกควบคุมตัว ตั้งแต่เวลา 12.30 น.ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 1 (บก.ตชด.ภ.1) โดยระหว่างนั้นจำเลยถูกควบคุมตัว และได้ประกันตัวในวันที่ 2 มกราคม 2564 พยานหลักฐานโจทก์จึงมีความสงสัย จึงยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้จำเลย พิพากษายกฟ้อง

ภายหลัง นายปิยรัฐ เปิดเผยว่า ศาลให้เหตุผลยกฟ้องว่าเนื่องจากโจทก์ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่ตนเองถูกกล่าวหานั้นเป็นการกระทําของตัวเอง แม้แต่เพจที่มีการนําเสนอว่าเป็นเพจของตนเองนั้นก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่ามีแอดมินหรือผู้ใดเป็นผู้โพสต์ รวมถึงศาลได้ชี้ชัดให้เห็นว่า ขณะที่ตนเองถูกกล่าวหาว่าโพสต์ข้อความนั้น ตัวยังถูกควบคุมตัวอยู่ที่ ตชด.ภาค 1 ซึ่งไม่สามารถใช้เครื่องมือสื่อสารได้ คดีไม่มีมูล ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง

ส่วนจะมีการฟ้องดําเนินคดีกลับหรือไม่นั้น นายปิยรัฐ ระบุว่า ไม่ได้มีความคิดที่จะแจ้งความกลับ เพราะคิดว่านี้เป็นบทเรียนให้สังคมไทยได้รู้ว่าคดีมาตรา 112 นั้น สามารถนํามาใช้กลั่นแกล้งกันได้ แม้ผู้ที่ถูกฟ้องจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่รัฐก็ตามยังสามารถส่งเรื่องถึงศาลได้

นายปิยรัฐ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยังเหลือคดีมาตรา 112 อีกหนึ่งคดีที่ศาลจังหวัดอุบลราชธานี ขณะนี้อยู่ระหว่างสืบพยาน ซึ่งลักษณะการต่อสู้ยังคงยืนยันในหลักการว่าพยายามที่จะต่อสู้ตามข้อเท็จจริงเช่นเดียวกันกับศาลอาญาและศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ที่ศาลพิพากษายกฟ้องคดีมาตรา 112 ทั้ง 2 คดีต่อเนื่องกัน นี่แสดงให้เห็นว่าต่อไปนี้ใครโดนคดีมาตรา 112 อาจจะต้องมาขึ้นศาลและเสียเวลาชีวิตไป 1 - 2 ปี

ทั้งนี้ นายปิยรัฐ กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมาตนถูกฟ้องดําเนินคดีมากกว่า 20 คดี ซึ่งตนเดินทางเข้ารับฟังคําพิพากษาทุกคดี ไม่มีว่าจะอยู่ในสมัยประชุมสภาฯ หรือไม่ โดยไม่เคยใช้เอกสิทธิ์ สส.แม้แต่ครั้งเดียว

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top