ศาลสั่งจำคุก4ปี ‘ใบปอ ทะลุวัง’ ความผิดคดี112 ดูหมิ่นสถาบัน

ศาลสั่งจำคุก4ปี ‘ใบปอ ทะลุวัง’ ความผิดคดี112 ดูหมิ่นสถาบัน

วันเสาร์ ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

ศาลสั่งจำคุก4ปี

‘ใบปอ ทะลุวัง’

ความผิดคดี112

ดูหมิ่นสถาบัน

 

 


ศาลอาญาพิพากษาจำคุก “ใบปอ ทะลุวัง” 6 ปี คดี ม.112 ร่ำไห้ ศาลเมตตาเห็นว่าเป็นนักศึกษาและทำความดีให้สังคม ลดโทษให้ 1 ใน 3 เหลือจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ด้านทนายยื่นประกันชั้นอุทธรณ์

เมื่อเวลา 09.30 น วันที่ 29 สิงหาคม 2586 ที่ห้องพิจารณา 911ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นเบื้องสูง หมายเลขดำ อ1691/2565ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 7 เป็นโจทก์ ฟ้องน.ส.ณัฐนิจ ดวงมุกสิทธิ์ หรือ ใบปอ และน.ส.สุพิชฌาย์ ชัยลอม หรือ เมนู แกนนำกลุ่มทะลุวัง ร่วมกันเป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ,ความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ พ.ศ.2550มาตรา 14(5)

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 30-31 มีนาคม 2565 จำเลยทั้งสองได้หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ ด้วยการเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยการแชร์โพสต์ของเพจเฟซบุ๊ก “ทะลุวัง ThaluWang” ซึ่งมีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบรมวงศานุวงศ์และข้อความวิจารณ์งบประมาณสถาบันกษัตริย์ในปี 2565 ทําให้เสื่อมเสียพระเกียรติ ถูกดูหมิ่น เกลียดชัง เป็นการบิดเบือนข้อมูล โดยมีเจตนาแสดงความอาฆาตมาดร้าย และทําลายสถาบันกษัตริย์

จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธต่อสู้ และได้รับการประกันตัว

ในวันนี้น.ส.ณัฐนิจ ได้เดินทางเข้ามาฟังคำพิพากษาเพียงคนเดียว ส่วน น.ส.สุพิชฌาย์ จำเลยที่ 2 หลบหนีระหว่างการพิจารณาคดี ซึ่งศาลได้ออกหมายจับและปรับนายประกันก่อนหน้านี้แล้ว

จำเลยที่ 1ให้การปฏิเสธอ้างว่าไม่ใช่บุคคลในเพจ ทะลุวังโดยมีบุคคลอื่นที่เป็นแอดมิน เพจใช้เฟซบุ้กของจำเลยแทนตนเอง เพราะตนเองไม่ชอบเล่นเฟซบุ้ก เนื่องจากไม่ปลอดภัย

ศาลพิเคราะห์เบิกความและพยานหลักฐานทั้งสองฝ่ายที่นำสืบหักล้างแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า จากการตรวจสอบพยานหลักฐานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พบโน้ตบุ๊คอยู่ในห้องของจำเลยทั้งสอง ซึ่งมีประวัติการใช้งานบัญชีเฟซบุ๊ค ใบปอ ณัฐนิจ จำเลยที่ 1 และเพจทะลุวัง ทำให้น่าเชื่อว่าจำเลยที่ 1 รู้เห็นการใช้งานและนำภาพและข้อความที่ระบุเกี่ยวกับการใช้งบประมาณจากภาษีประชาชนกว่า 3 หมื่นล้านบาทมาใช้ซึ่งเป็นการบิดเบือนจาบจ้วง และให้ร้ายสร้างความเสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ กระทบความมั่นคงของชาติ พยานหลักฐานโจทก์นำสืบมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ โดยปราศจากข้อน่าสงสัย ข้อต่อสู้จำเลยฟังไม่ขึ้น

การกระทำของจำเลยเป็นความผิดกรรมเดียว ผิดต่อกฎหมายหลายบทให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 อันเป็นบทลงโทษหนักสุด

พิพากษาจำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 3 ปี รวม 2 กระทงเป็นจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้ 6 ปี อย่างไรก็ตาม จำเลยที่ 1 ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาบ้าง ทั้งยังเป็นนักศึกษา และทำความดีต่อสังคมด้วยการจะบริจาคอวัยวะ เป็นการบรรเทาผลร้ายจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เป็นจำคุกจำเลยที่ 1 กระทงละ 2 ปี คงจำคุกจำเลยที่ 1 ไว้4 ปี ไม่รอลงอาญา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันนี้มีแนวร่วมกลุ่มทะลุวังเข้ามาให้กำลังใจและร่วมรับฟังการพิพากษาประมาณ 20 คนรวมทั้งบิดา มารดา ของน.ส.ณัฐนิจด้วย หลังจากทราบผลคำพิพากษาน.ส.ณัฐนิจถึงกับร้องไห้และโผเข้ากอดครอบครัวของตนเองโดยมีแนวร่วมกลุ่มทะลุวัง ยืนปลอบและให้กำลังใจ

ด้าน นายกฤฎางค์ นุตจรัส ทนายความเปิดเผยสั้น ๆ ว่าได้เตรียมคำร้องและหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว น.ส.ณัฐนิจในชั้นอุทธรณ์คดีไว้แล้ว

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top