จอมอำมหิตในโลกนี้มีมากมาย มีทั้ง “อำมหิตใหญ่ อำมหิตเล็กและอำมหิตต่อเนื่อง” โดยทุกรายล้วนเป็น“นักไล่ล่าอำนาจ” มืออาชีพ

ประเภท “เล็กๆ มิต้าไม่ ใหญ่ๆ มิต้าทำ” คงต้องยกโป้งให้ “ฮิตเลอร์แห่งนาซี” ที่ฆ่ายิวไปกว่าหกล้านคน และ “ฮาร์รี่ เอส. ทรูแมน” (Harry S. Truman) ที่สั่งทิ้งระเบิดปรมาณูใส่ “เมืองฮิโรชิมาและเมืองนางาซากิ” จนผู้บริสุทธิ์แห่งแดนอาทิตย์อุทัยต้องตายทันทีทันใดไปกว่าสองแสนคน และอีกหลายแสนคนต้องทุกข์ทรมานต่อเนื่องกับโรคร้ายจนสิ้นชีวิต

ส่วน “โจโฉ เล่าปี่และซุนกวน” ในสามก๊กนั้น ถือเป็นนักไล่ล่าอำนาจ “ยอดอำมหิตต่อเนื่อง” เพราะชั่วชีวิตได้แต่ถือกระบี่ ถือหอก ถือทวนและถือง้าว ออกตัดหัวฝ่ายตรงข้ามอย่างมันมือไม่เคยหยุดหย่อน

ดูเหมือน “หล่อก้วนตง” คนเขียนพงศาวดารสามก๊กจะเป็นเครือญาติเล่าปี่ จึงระบายสีให้ “โจโฉเป็นอำมหิตต่อเนื่อง” ที่โหดเหี้ยมที่สุด

“หล่อก้วนตง” เขียนให้โจโฉเป็นนักฆ่าตั้งแต่วัยหนุ่มฉกรรจ์ ปฏิบัติการอำมหิตครั้งแรก ขณะที่โจโฉหนีการล่าหัวจาก “ตั๋งโต๊ะ” ได้นายอำเภอ “ตันก๋ง” แห่งเมือง “จงพวน”ช่วยชีวิต พาโจโฉมุ่งหน้าไปยังเมือง “ตันลิว” บ้านเกิดของโจโฉ ระหว่างทาง “โจโฉและตันก๊ง” ได้พักบ้านลุง“แป๊เฉีย” ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของ “โจโก๋” บิดาของโจโฉ

“แป๊ะเฉีย” นอกจากให้ที่หลบภัย ยังให้อาหารชั้นดีและสุราชั้นยอดแก่โจโฉด้วย แต่เพราะ “ความหวาดระแวงของโจโฉ” ทำให้เขา “ฆ่าล้างครัวแป๊ะเฉีย” ตายไป 9 ศพ เพื่อปกปิดความลับของตนเอง

นายอำเภอ “ตันก๋ง” จึงกล่าวแก่โจโฉว่า “การฆ่าล้างครัวเช่นนี้ ย่อมถือว่าเป็นจอมอำมหิตที่อกตัญญูไม่รู้คุณคน”

โจโฉสวนกลับทันที “ข้ายินดีทรยศกับทุกคนในโลกนี้แต่จะไม่ยอมให้ใครคิดทรยศต่อข้า”

นับแต่นั้นมา โจโฉก็กลายเป็น “อำมหิตต่อนื่อง”จนไล่ล่าอำนาจได้สำเร็จ เป็น “วุยอ๋อง” ที่มีอำนาจเทียบเท่าฮ่องเต้

“วรรคทอง” สุดกระฉ่อนดังของของโจโฉได้บินข้ามกาลเวลามาจนถึงวันนี้เกือบสองพันปีแล้ว ปรากฏว่ามีชายผู้หนึ่งในนครสารขันธ์ ซึ่งเป็นจอมไล่ล่าอำนาจเช่นกัน ได้สวมวิญญาณของ “บุญธรรม พระประโทน” นักแปลงเพลงชื่อดังทำการแปลงวลีของโจโฉดังกล่าวเป็น “ถ้าข้าไม่มีความสุข ก็อย่าหวังเลยว่าคนในนครสารขันธ์จะมีความสุข”

คงยืนยันไม่ได้นะครับ หลังจากนั้นมาจนถึงวันนี้ชายผู้นั้นได้เป็นจอมอำมหิตต่อเนื่องเหมือนโจโฉหรือไม่?

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม