l วาทกรรมอมตะนี้ เป็นสิ่งที่ให้กำลังใจอันยิ่งใหญ่ แก่ผู้นำและประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย
เป็นสิ่งที่ผดุงความเป็นธรรม ความยุติธรรมและความถูกต้องในสังคมให้คงอยู่ ให้เกิดขึ้นเพื่อคนส่วนใหญ่
คนที่เชื่อมั่นในศาสนา ในสิ่งที่ดีงาม ได้เสนอวาทกรรมที่มีความหมายคล้ายกันคือ “ธรรม ย่อมชนะอธรรม”
เราที่ต่อสู้กับอธรรมเพื่อความเป็นธรรม กับเผด็จการเพื่อประชาธิปไตย เรามีสิ่งนี้ในหัวใจใบเล็กแต่ยิ่งใหญ่ ไม่มีใครคิดว่า “ประชาชนจะสามารถโค่นล้มเผด็จการถนอม-ประภาส-ณรงค์ ในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ได้” เพราะสังคมยุคนั้น ก่อนวันนั้น“ประชาชน เหมือนแจ๊คตัวเล็ก รัฐบาลถนอม-ประภาส-ณรงค์ คือ ยักษ์ตัวใหญ่”
แต่เราก็ลุกขึ้นออกมาต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ ด้วยสองมืออันว่างเปล่า เพื่อให้คืนประชาธิปไตยให้กับประชาชน เราเป็นคนกลุ่มเล็กๆ ไม่กี่สิบกี่ร้อยคน รวมตัวกันก่อตั้ง “กลุ่มเรียกร้องรัฐธรรมนูญ” เดินแจกใบปลิวแก่ประชาชน แล้วเราก็ถูกอำนาจเผด็จการ สั่งตำรวจและกระบวนการทางกฎหมายจับ ขัง ตั้งข้อหากบฏฯ “เป็น 13 กบฏ” แล้วเพียงไม่กี่วัน “นักศึกษาประชาชนทุกอาชีพทุกสาขาฯ” มารวมกันร่วมต่อสู้เป็นหลายแสนคน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ “เผด็จการพ่ายแพ้ ประชาชนชนะ” ได้รัฐธรรมนูญประชาธิปไตยกลับคืนมา
สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นด้วยสองมือเปล่าของประชาชนไทย ดังก้อง เป็นคำขวัญของการต่อสู้ไปทั่วโลก ยิ่งเป็นการเติมเต็ม ความมั่นใจและความเชื่อมั่นในวาทกรรม “คนดีไม่มีวันตาย ธรรมย่อมชนะอธรรม”
@ เราได้ข้อสรุปหลักสำคัญอยู่ในความคิดของเรา อย่างน้อย คือ
ที่ใดมีการกดขี่ที่นั้นมีการต่อสู้, การต่อสู้ของประชาชนที่เป็นฝ่ายธรรม จักต้องชนะ, ชนชั้นปกครองที่ใช้อำนาจไม่เป็นธรรม จักไม่อยู่ได้ตลอดกาล วันหนึ่งจะต้องถูกโค่นล้มลงด้วยพลังประชาชน, การต่อสู้ และประชาชนที่ลุกขึ้นต่อสู้ มักมีการเสียสละเสมอ และต้องเสียสละไปตลอดกาล
ประชาชนต้องมีแนวทาง ยุทธศาสตร์ยุทธวิธี จังหวะก้าว ขั้นตอนที่ถูกต้อง สอดคล้องกับสถานการณ์
การได้อำนาจรัฐมาเป็นของประชาชนนั้นว่ายากแล้ว แต่การรักษาอำนาจรัฐไว้ ยิ่งยากกว่ามาก กำลังใจและความเชื่อมั่นที่ดีที่สุด คือ วาทกรรม “ธรรม ย่อมชนะอธรรม และคนดีไม่มีวันตาย” การได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องเป็นธรรม คือความสุขแล้ว ผลลัพธ์หรือชัยชนะเป็นสิ่งที่ตามมาภายหลังซึ่งไม่แน่!
ข้อสุดท้าย : เป็นหัวใจที่สำคัญ ที่ประชาชนลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม
ต้องเข้าใจให้ถ่องแท้
l เพื่อนๆ และผม ที่ร่วมต่อสู้มาตลอดชีวิต ชอบเพลงนี้ “คนดี ไม่มีวันตาย”
ไม่ต้องฝึกร้อง เพียงแต่ฟัง ฟัง ไม่กี่เที่ยว ก็ร้องคลอได้ เพราะมันมาจากส่วนลึกในใจ หากได้อ่านเนื้อหา ตามไปด้วย จะยิ่งมีความไพเราะ ซาบซึ้งอย่างมาก
@ แม้ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ รู้ว่าเรานั้นทำเพื่อใคร
ไม่ว่าวันพรุ่งนี้มันจะเป็นเช่นไรก็จะไม่เสียใจกับสิ่งที่เราได้ทำ
ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไรไม่ได้หวังให้ใครจดจำ
แม้ยากเย็นแค่ไหนไม่เคยบ่นซักคำไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ
** จะปิดทองหลังองค์พระปฏิมาจะยอมรับโชคชะตาไม่ว่าดีร้าย
ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าถึงเวลาก็ต้องไปเหลือไว้แต่คุณงามความดี
ขอเทิดทูนศักดิ์ศรียิ่งสิ่งใดแม้แต่ลมหายใจก็ยอมพลี
โลกยังไม่สิ้นหวัง ถ้ายังมั่นในความดี ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
คนดี... ไม่มีวันตาย....YouTube 6:37
https://www.youtube.com/watch?v=tWq_AqHezvM
l ประโยคเริ่มต้น “แม้ไม่มีใครรู้ แต่เรารู้ รู้ว่าเรานั้นทำเพื่อใคร”
มันเป็นเช่นนั้นจริงๆ โดยเฉพาะในสังคมที่เหลื่อมล้ำ ไม่เป็นธรรม ที่ “ไม่มีใครรู้” ว่า ทำไม จึงมีผู้กล้า (หรืออาจจะถูกเรียกว่า “ผู้บ้า”) ออกมาต่อสู้กับความไม่เป็นธรรม ผู้มีอำนาจหรือความไม่เป็นธรรม มันใหญ่โต มีอำนาจมากมีครบเครื่อง ทั้งอำนาจ คน เงิน สื่อ นักวิชาการฯ แต่คนบ้า ที่ออกมาต่อสู้เรียกร้อง “ตัวเล็กนิดเดียว” มีไม่กี่คน สองมือเปล่า ไม่มีอะไร หรือเครื่องมืออะไร
แล้วทำไม กล้าสู้ กล้าเรียกร้อง กล้าเสียสละ
เพราะเรารู้ รู้ว่าเรานั้นทำเพื่อใครไม่ว่าวันพรุ่งนี้มันจะเป็นเช่นไร ก็จะไม่เสียใจกับสิ่งที่เราได้ทำ ฟ้าและดินไม่เห็นไม่เป็นไร ไม่ได้หวังให้ใครจดจำ แม้ยากเย็นแค่ไหนไม่เคยบ่นซักคำ ไม่มีใครจดจำ แต่เราก็ยังภูมิใจ……
คุณงามความดี ศักดิ์ศรีแห่งความเป็นคน คิดดีทำดี
ใจเราไม่สิ้นหวัง เรายังมั่นในความดี ศรัทธาไม่เคยหน่ายหนี คนดีไม่มีวันตาย
l ร้องเพลงนี้ มันไม่ยากนัก เพราะมันไม่โหดเหี้ยม เท่ากับสิ่งที่เราต้องเผชิญในชีวิตจริง ทั้งตัวเราเอง และเพื่อนมิตร สหายผู้ร่วมอุดมการณ์
หลังจากเวลาผ่านไปสามสิบสี่สิบปี ซึ่งเพื่อนผู้ร่วมอุดมการณ์เสียสละไปนักต่อนักแล้ว
เราไปงานศพครั้งแล้วครั้งเล่า ทั้งในเมือง ในป่า และกลับมาในเมืองอีก ผู้นำชาวนาในยุคหลัง 14 ตุลา 2516 ต้องเสียสละไปคนแล้วคนเล่า โดยเฉพาะทางภาคเหนือ ในฐานะกรรมการฝ่ายกิจการมวลชนของพรรคสังคมนิยมแห่งประเทศไทย ได้ไปร่วมงานศพผู้นำชาวนา “พ่อหลวงอินถา ศรีบุญเรือง” ในงานศพ เราเสียน้ำตา แต่ทุกคนที่ไปร่วมงาน ภาคภูมิใจ รวมทั้งครอบครัว
เช้าวันรุ่งขึ้น ผู้นำชาวนาที่ไปร่วมงานศพ กลายเป็นศพ เพราะถูกสังหารโดยหน่วยสวาทในยุคนั้น ดร.บุญสนอง บุณโยทยาน เลขาธิการพรรคสังคมนิยมฯ ที่ไปร่วมงาน ก็ถูกลอบสังหาร หลังจากนั้น ฯลฯ
หลายคนไม่ตาย แต่ก็เหมือนตายทั้งเป็น
สู้มาจนแก่เฒ่า ยังไม่สามารถตั้งตัวมีหลักมีฐาน เหมือนกับเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย ที่อยู่ได้อย่างสบาย บางคน ยังไม่มีบ้าน ยังต้องผ่อนบ้าน ยังต้องทำงานหนัก หยุดไม่ได้ เพราะรายได้เดือนชนเดือน
บางคนล้มละลาย เพื่อนฝูงเริ่มห่างเหิน แต่เมื่อเป็นเพื่อนร่วมสู้มา เราก็ต้องช่วยกัน บางคนบอกว่า “เตี้ยอุ้มค่อม” เราก็ฟัง แต่เราเป็นคนเตี้ย ที่ใจมันโต คนมีน้อยช่วยคนไม่มี บางคนเจ็บป่วยมาหลายปี การงานก็ทำไม่ได้แล้ว แต่ยังสนใจและทำงานตามอุดมคติต่อไป บอกว่า “ขอตายพร้อมกับอุดมการณ์ที่ไม่มีวันตาย”
ผู้คนเหล่านี้มีไม่น้อย แต่ไม่เคยออกปากบอกใคร เพราะหยิ่งผยองในตนเอง เรามีเพื่อนมิตรที่ดีเยี่ยมเช่นนี้ เราจะไม่ภูมิใจได้อย่างไร
ส่วนตัวโชคดีที่เรียนมาในอาชีพหลักของสังคม แม้ต้องมาทำงานหนักหลังจากออกมาจากชนบท ก็ได้เพื่อนมิตรที่รู้ใจ ช่วยฝากงาน ช่วยสนับสนุนในกิจกรรมเพื่อบ้านเมือง ในทุกเหตุการณ์สำคัญ เงินส่วนหนึ่ง ก็ถูกแบ่งปันไปให้เพื่อนมิตรที่ขาดแคลน แต่มีใจใหญ่ ที่เข้ามาร่วมต่อสู้ทุกครั้ง
l นักต่อสู้อาวุโสเพื่อบ้านเมือง เล่าเรื่องจริงในเชิงสอนและแนะนำ “สัจธรรมของการต่อสู้” ว่า
“คนที่เสียสละ จะต้องเสียสละไปทุกครั้ง จนกว่าความตายจะมาพราก”
“นักสู้ที่แท้จริง ยามศึกสงคราม ต้องอยู่หน้า ยามสงบจบศึก ก็กลับไปอยู่แบบเดิม ไม่หวังอะไรตอบแทน”
“ความสุขของเราคือ การคิดดีทำดี และได้เข้าร่วมต่อสู้เพื่อความถูกต้องเป็นธรรม”
“อย่าไปหวังผลว่าจะได้โน้น ได้เป็นนี้ เพราะมันจะผิดหวัง ในสังคมแห่งการช่วงชิงผลประโยชน์”
l ผมโชคดี ที่มีพ่อแม่และยาย ที่เป็นแบบอย่างมาตั้งแต่เด็ก ได้เห็นได้ฟังมาตลอดจนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เมื่อเข้าเรียนในโรงเรียนอัสสัมชัญลำปาง ก็มีคำขวัญ “วิริยะอุตสาหะนำมาซึ่งความสำเร็จ” และได้มาตลอดจากครูบาอาจารย์เมื่อเรียนเตรียมอุดม และวิศวฯจุฬาฯ ได้มีโอกาสไปอยู่กับท่านพุทธทาสร่วมเดือนปี 2511 และบวชกับท่านปัญญาวัดชลประทาน ปี 2517
การมีเพื่อนมิตรทั้งอาวุโสและเด็กกว่า ให้กำลังใจและชื่นชมให้คุณค่าความหมายในสิ่งที่ได้ทำไป มีภรรยามีลูกที่รักและเข้าใจรวมทั้งให้กำลังใจ ที่จะทำงานเล็กๆ ที่ทำมา 50 ปี ต่อไป
และสิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อจิตใจและชีวิต คือ “การมีแบบอย่างที่ยิ่งใหญ่ของในหลวงของประชาชน” ที่ตลอดชีวิต 70 ปี ของการเป็นพระมหากษัตริย์ไทย ทรงเอาประชาชนมาก่อนแท้จริง “ครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุข แห่งมหาชนชาวสยาม” ทำให้คงเดินหน้าทำงานต่อไป และได้ทำงานมากขึ้น อย่างมีความสุขและมีความหวัง เป็นการคิดดีและทำดี มิใช่เพื่อตนเองที่แก่แล้ว แต่เพื่อลูกหลานและอนาคตของสังคมไทย
l สุดท้าย ที่อยากจะบอกกับเพื่อนมิตรและผู้ที่ตามมาบนเส้นทางแห่งการต่อสู้เพื่อความเป็นธรรม: ว่า
“วาทกรรม คนดีไม่มีวันตาย และธรรม ย่อมชนะอธรรม” นั้น เป็นสัจธรรมแท้แน่นอน แต่มิใช่จะได้มาง่ายๆ บางครั้งบางยุค ต้องใช้เวลาทั้งชีวิต และชีวิตต่อไป จึงจักเกิดผลเป็นจริง
หลายคนพูดที่เล่นที่จริงว่า “คนดีไม่เคยตาย” เป็นหยาดน้ำฝน ที่ตกในทะเลทราย โดยเฉพาะประเทศไทย ที่แม้จะมีความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติมากมายมหาศาล แต่เป็นทะเลทรายที่ขาดน้ำใจ และความกล้าหาญของผู้มีอำนาจรัฐ ที่จะหลั่งหยดออกมาสู่ประชาชน ความแห้งแล้ง ความทุกข์ยาก ความเหลื่อมล้ำไม่เป็นธรรม จึงเกิดขึ้นเสมอ
บางครั้ง เราโชคดี ที่ผู้นำรัฐ เป็นคนดี มีน้ำใจ หวังจะช่วย และคืนความสุขให้กับประชาชน แต่เสียดายที่ผู้นำคิด “จะทำโน้นทำนี้ให้กับประชาชน ด้วยตัวและพวกของตนเอง” เพราะไม่เชื่อมั่นในประชาชนที่จะให้เข้าร่วมคิดร่วมตัดสินใจ ด้วยกันในการแก้วิกฤติของประเทศ และมีความจำกัด ที่ขาดประสบการณ์ ขาดวิสัยทัศน์และความเป็นรัฐบุรุษเพื่ออนาคตของชาติ จึงทำได้เพียงเท่านี้ เราก็ต้องขอขอบคุณ
แม้คนดีไม่มีวันตาย แต่รัฐบุรุษที่มีวิสัยทัศน์ความกล้าหาญเสียสละ ก็ได้ตายไปแล้วสำหรับประเทศไทย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี