วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
โต้นักวิชาการเสื้อแดง
เรียน คุณวิภาวดี หลักสี่
2-3 วันมานี้ ดิฉันอ่านบทวิเคราะห์ผลกระทบทางการเมืองหลังคำพิพากษาคดีรับจำนำข้าว 25 ส.ค.ที่จะถึงนี้ ของนายอนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา ม.ธรรมศาสตร์ มีความตอนหนึ่งว่า “การปรองดองต้องคืนทั้งความจริงและความยุติธรรมให้ทั้งสองฝ่าย อย่างล่าสุดก็เห็นได้ชัดว่า ฝ่ายหนึ่งได้ดำเนินคดีอย่างฉับพลัน รวดเร็วไม่หลุดรอด เช่น เมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานนปช.ติดคุก แต่แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลับหลุดรอด...”
จากบทวิเคราะห์ของนายอนุสรณ์ไม่เพียงสะท้อนถึงความอคติ บิดเบือนความจริงและความเบาปัญญา แต่ยังบ่งบอกให้สังคมได้รับรู้อีกด้วยว่า แม้ในสถาบันการศึกษาระดับสูง ก็ยังมีนักวิชาการบางคนที่คอยตอกลิ่ม บิดเบือนความจริง สร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้เช่นกัน
ขอเรียนนายอนุสรณ์ผ่านหนังสือพิมพ์ฉบับนี้ว่า ดิฉันได้ติดตามคดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ ตั้งแต่เรียนอยู่ปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ ธรรมศาสตร์ กล่าวคือ ในเดือนพ.ค. 2552นายจตุพรได้ปราศรัยใส่ความกล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์เป็นคนวางแผนจัดฉาก สร้างเรื่องให้คนไปล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนในวันที่ 11 เม.ย.2552 และวางแผนให้คนไปทุบรถยนต์ที่นายอภิสิทธิ์นั่งกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่กระทรวงมหาดไทย ในวันที่ 12 เม.ย. 2552 แล้วโยนความผิดมาให้กลุ่มคนเสื้อแดง ว่าเป็นผู้กระทำ และยังกล่าวหานายอภิสิทธิ์เป็นฆาตกรมือเปื้อนเลือดสั่งให้ทหารไปฆ่าประชาชนคนเสื้อแดง (ทั้งๆ ที่ในปี 2552 ยังไม่มึคนเสื้อแดงถูกฆ่าตายแม้แต่คนเดียว)
หลังจากนั้นเดือนมิ.ย.2552 นายอภิสิทธิ์จึงฟ้องนายจตุพรข้อหาหมิ่นประมาท ดิฉันตามไปดูและฟังการพิจารณาที่ศาลแทบทุกนัด คดีนี้ต่อสู้กันยาวนานถึง 8 ปี ศาลฎีกาเพิ่งตัดสินอ่านคำพิพากษาไปเมื่อ 20 ก.ค.2560 ที่ผ่านมา ดังนั้นคดีนี้จึงมิใช่กรณีที่ศาลสถิตยุติธรรมดำเนินคดีกับนายจตุพรอย่างรวดเร็วฉับพลันตามที่นายอนุสรณ์วิเคราะห์ และที่ศาลฎีกาไม่รอการลงโทษก็เพราะนายจตุพรถูกนายอภิสิทธิ์เป็นโจทก์ฟ้องข้อหาหมิ่นประมาทถึง 4 คดี ศาลตัดสินถึงที่สุดไปแล้ว 3 คดี รอการลงโทษ 2 คดี คดีนี้นายจตุพรทำผิดซ้ำขณะรอการลงโทษ ศาลจึงลงโทษจำคุก 1 ปีโดยไม่รอการลงโทษ
จากบทวิเคราะห์ของนายอนุสรณ์ดังกล่าว ดิฉันจึงถึงบางอ้อในวันนี้เองว่า อาจารย์ในคณะสังคมวิทยาฯนี้ หลายคนล้วนทำตัวเป็นกระบอกเสียงให้คนเสื้อแดง เพราะในขณะการพิจารณาคดีนี้ ในช่วงการสืบพยานจำเลย นายจตุพรได้ขอให้ศาลออกหมายเรียกอาจารย์ระดับดอกเตอร์คนหนึ่งในคณะนี้ไปให้การต่อศาลว่า ได้ฟังการปราศรัยของนายจตุพรในวันเกิดเหตุแล้ว รู้สึกว่าเป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตของนักการเมือง ไม่เป็นการหมิ่นประมาทโจทก์ แต่ศาลฎีกาไม่เห็นด้วย
ส่วนคดีของแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ทราบว่าบรรดาแกนนำพันธมิตรฯถูกอัยการฟ้องปี 2553 ใช้เวลานานร่วม 7 ปีใกล้เคียงคดีของนายจตุพร และปรากฏว่า แกนนำพันธมิตรฯหลายคนถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุก 8 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ขณะนี้คดีอยู่ที่ศาลฎีกา ส่วนอีกคดีหนึ่งศาลยกฟ้องเพราะเป็นการฟ้องซ้ำกับคดีแรก ซึ่งดิฉันก็เห็นว่าศาลท่านให้ความเป็นธรรมทั้งสองคดี ไม่ได้เลือกปฏิบัติ ไม่ได้มีอคติ ดังที่นายอนุสรณ์กล่าวหา
ดิฉันจึงขอแนะนำนายอนุสรณ์ว่า คุณอย่าทำตัวเป็นอีแอบ อาศัยคราบของอาจารย์ในสถาบันธรรมศาสตร์มาบิดเบือนความจริงให้ผู้คนกังขาในกระบวนการยุติธรรมว่า เลือกปฏิบัติ คุณควรลาออกมารับสมัครเป็นประธานนปช.แทนคุณจตุพรเสียดีกว่า เพราะขณะนี้ตำแหน่งนี้ยังว่างอยู่ค่ะ
อดีตนักศึกษา มธ.
ตอบ คุณอดีตนักศึกษา มธ.
ผมชอบใจที่คุณยกเอาข้อเท็จจริงมาแยกแยะให้เห็นได้ชัด ไม่ใช่แค่วิเคราะห์วิจารณ์แบบลอยๆ เหมือนดังที่นักวิชาการบางคนคิดจะกล่าวหาอย่างไรก็พูดออกมา โดยไม่ได้ดูข้อเท็จจริงเลย
วิภาวดี หลักสี่
p p p p
ปปช.กับการอุทธรณ์คดีสลายพันธมิตร
เรียน คุณวิภาวดีฯที่นับถือ
อ้อยเข้าปากช้าง - ใครจะง้างออกได้
หลังคำพิพากษา ๒ ส.ค.คดีสลายการชุมนุมพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ก็มีเสียงเอ็คโค่ของประชาชนที่ไม่ได้พาดพิงการพิพากษาตุลาการ แต่เป็นเสียงสอบถามว่า แล้ว ป.ป.ช.จะใช้สิทธิอุทธรณ์หรือไม่ เรื่องนี้ผมขอตอบแทนว่า อ้อยเข้าปากช้าง ใครจะง้างออกได้ เพราะทันทีที่ประธานคนใหม่ได้รับการแต่งตั้ง ก็ประกาศจะให้ความยุติธรรมกับผู้ถูกล่าวหาเอง ด้วยการถอนฟ้อง แต่ประธานไม่ยอมเปลืองตัว ต้องการให้มีคนชงมาประเคนให้ ซึ่งคงไม่มีใครกล้าเอาคอขึ้นพาดบนกิโยติน ดังนั้นเรื่องจึงต้องถึงศาล แต่ถึงแบบตั้งใจแพ้หรือเปล่า? เพราะเจตนาให้ความเป็นธรรมผู้ถูกกล่าวหา บ่งบอกทุกอย่าง
ดังนั้นฟันธงได้ว่า ไม่มีการรีแมทช์แน่ๆ เรื่องอะไรต้องเหนื่อยอีกแกล้งลาพักผ่อนบ้าง ลาป่วยบ้าง ดึงเกมให้หมดเวลายื่นอุทธรณ์ก็“แจ๋วหลบ” เรียกได้ว่า ส.บ.ม.-สบายมากเรื่องแบบนี้ ไม่ต้องสนใจความคิดประชาชนเพราะเป็น “ความจำเป็นยิ่งยวด” อำนาจที่ไร้ธรรมาภิบาลนั้นไม่ยั่งยืน โปรดอย่าคิดว่า “ประชาชนเป็นเซ็กกั่นคลาส” อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ไม่ว่าประชาธิปไตย, เผด็จการ, เผด็จกูก็สามารถใช้เป็นเครื่องมือ ใช้เป็นขุมทรัพย์ห่านทองคำ ใช้แอบอ้างเป็นความต้องการประชาชน รัฐประหารที่ผ่านมากว่า ๑๘ ครั้ง ไม่ใช่รัฐประหารโดยประชาชนและของประชาชนเลย แต่การที่อำนาจรัฏฐาธิปัตย์ทุกรูปแบบย่ำยีความปรารถนาประชาชนวันหนึ่งก็อาจจะเกิดรัฐประหารของประชาชนได้ ถ้าวันนั้นมาถึง บ้านเมืองไทยจะตกอยู่ในสถานการณ์“เลือดท่วมท้องช้าง”เพราะประชาชนไม่เกรงกลัวอำนาจอาวุธในมือทหารและตำรวจ อย่าว่าจะเป็นระเบิดแก๊สน้ำตาจากจีนเลย ต่อให้ขีปนาวุธ ก็ไม่ถอย เพราะไม่ต้องการอยู่ต่อไปอย่างทาส เพราะคำว่า “ไทย” นั้นหมายถึงอิสระและเสรีภาพ
ระบบอุปถัมภ์ที่คุณสมชายยังนิยมชื่นชอบอ้างเป็นความจำเป็นยิ่งยวด เป็นเครื่องมือทำลายตัวเองที่ทรราชก็ยิ้มเยาะ เพราะได้ 2 เด้ง เด้งแรก นอมินีของตัวเองพ้นมลทิน ทำให้มีตัวเลือกมากขึ้นเด้งที่สองคือศรัทธาขี้ข้าแผ่นดิน คู่อริของระบอบทรราชถดถอยไปมาก ผบ.ทบหรือผู้บัญชาการที่บ้านผม (คุณยาย) ประกาศปิดทีวี ทั้งหมดมุกสำหรับมุมสักวาเพราะเกิด “โรคซึมเศร้าอย่างร้ายแรง” ผมได้วิเคราะห์สถานการณ์เรื่องนี้ตั้งแต่ประธาน ป.ป.ช.ประกาศให้ความเป็นธรรม ทั้งทำนายผลพิพากษาล่วงหน้าด้วย ซึ่งไม่อยากโอ้อวดว่า ผมวิเคราะห์ค่อนข้างแม่นยำ ผมเสนอทฤษฎี Conspiracy ตั้งแต่ต้น ซึ่งคุณยายยังไม่เชื่อ แต่เมื่อเวลาผ่านไปคุณยายเริ่มคล้อยตามผมมากขึ้น พร้อมกับอาการโรคซึมเศร้าเพิ่มมาก จนไม่ต้องการรับทราบข้อมูลข่าวสาร ยอมรับว่า “Whatever will be will be”หรือเป็นไปตามกรรม
อย่างไรก็ตาม ความต้องการประชาชนอาจทำให้ ป.ป.ช.ต้องยื่นอุทธรณ์ก็เป็นได้ แต่เมื่อเจตนาป.ป.ช.คือให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาก็อาจยื่นอุทธรณ์แบบ“ขอไปที” ทำให้ศาลไม่รับก็เป็นได้ หรือถ้ารับเพื่อให้เรื่องคารา-คาซัง ก็จะทำสำนวนโจทย์ที่เปรียบเทียบได้กับ “ขนมลืมกลืน” ที่ทุกวันนี้คนไทยไม่รู้จักแล้วเพราะลืมกำพืดตัวเอง รู้จักแต่ขนมอบกรอบของฝรั่ง เรื่องใช้อำนาจสลายฝูงชนปี’๕๑ เป็นอดีตไปแล้ว แต่อดีตก็สามารถชี้อนาคตได้ ดังนั้นประชาชนส่วนใหญ่ที่รักชาติศาสน์กษัตริย์คงอดเป็นห่วงบ้านเมืองไม่ได้ เรื่องปราบโกงนะ “Forget it” ลืมเสียเถิดอย่าคิดถึง เพราะอย่าว่าจะปราบโกงที่ยังไม่เกิดเลย โกงที่เกิดขึ้นแล้วยังปราบไม่ได้ เพราะระบบอุปถัมภ์เป็นความจำเป็นอย่างยิ่งยวด
เฒ่าทารก
ตอบ คุณเฒ่าทารก
ภาพของประธานป.ป.ช.กับระบบอุปถัมภ์ที่ทำให้ได้ตำแหน่ง เมื่อคดีนี้จำเลยคนหนึ่งเป็นน้องของ”พี่ใหญ่”ผู้อุปถัมภ์ด้วย จึงทำให้ป.ป.ช.มีปัญหาความน่าเชื่อถือจริงๆ ผลตัดสินยิ่งตอกย้ำให้คน “ยี้”
วิภาวดี หลักสี่
p p p p
ผลาญเผาดอกไม้...ได้อะไร
เรียน บรรณาธิการ
ผลาญเผาดอกไม้...ได้อะไร
(แด่...การมรณกรรมของดอกไม้วัยเยาว์ จากไฟกามและความเศร้าของสังคม)
ได้อะไร...จุดไฟคลอกเผาดอกไม้ เป็นพลุพร่างพราวพราย...ฤาก็เปล่า
คุเชื้อเพลิงได้อยู่เพียงครู้คราว ก็สิ้นวาวสิ้นแสงสิ้นแรงไฟ
แล้วจะเหลืออะไรหลังไฟเผา นอกจากเศษซากเถ้าหลังเผาไหม้
ความงามของดอกไม้ ตายก่อนวัย ประโยชน์ใดเล่า ไฟอารมณ์
ไยทำร้าย ทำลายดอกไม้หอม ควรถนอมให้สวยงามตามเหมาะสม
เป็นดอกไม้ความหวังของสังคม ให้ต้นพันธุ์ได้ชมดอกสมงาม
กี่ดอกแล้ว...ไฟทำลายตายกี่ดอก สะท้อนออกทางต่ำยุคย่ำหยาม
กี่ดอกไม้ตายไปเพราะไฟกาม ยังเป็นความหม่นเศร้า...เจ้าดอกไม้...ฯ
“อังคาร โสภาพศิลป์”

ด่วน!ประกาศ‘เคอร์ฟิว’ 5 อำเภอ‘ตราด’ หลัง‘บก ฉก.นย.’ถูก M79 ยิงถล่ม พบพิกัดจากในประเทศ
พบโดรนปริศนาบินว่อนทั่วเมืองตราด ไทย-เขมรปะทะเดือดกลางดึก แนวรบบ้านชำราก
‘ทภ.2’รายงานแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชายังตึงเครียด ‘ศึกตาควาย’ยังไม่จบ ต้องรบต่อ
เจอจะๆหลักฐานมัด‘กัมพูชา’ พบขุดคูเลต-สร้างบังเกอร์-ฐานยิงปืนใหญ่รอบ‘ปราสาทคนา’
‘นิพิฏฐ์’เสียดาย‘สส.พัทลุง’ทิ้ง‘ปชป.’ ย้อนอดีตเป็นผู้ตัดสายสะดือ วันนี้ยืนอย่างเดียวดาย

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี