วันอาทิตย์ ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ผศ.นพ.วิศิษฏ์ ฐิตวัฒน์
ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย 2537-2568
ศัลยแพทย์และโรงพยาบาลที่ควรได้รับการยกย่องและกล่าวถึงในวิวัฒนาการการบริจาคและการปลูกถ่ายอวัยวะ ในวาระ 50 ปี ของราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย เพื่อเป็นข้อมูลทางประวัติศาสตร์ในการพัฒนาศักยภาพของศัลยแพทย์
ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ในขณะนั้นดำรงตำแหน่งคณบดี คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย อาจารย์ได้เล็งเห็นว่าศัลยแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มีความพร้อมที่จะทำการปลูกถ่ายหัวใจและตับได้ แต่ประเทศไทยในขณะนั้นยังไม่มีกฎหมายหรือเกณฑ์รองรับในการวินิจฉัยสมองตาย เนื่องจากการปลูกถ่ายหัวใจและการปลูกถ่ายตับต้องการอวัยวะจากผู้เสียชีวิตที่หัวใจยังเต้น คือ ผู้ที่เสียชีวิตด้วยสมองตาย จึงได้ตัดสินใจออกเกณฑ์สมองตาย ซึ่งในปีต่อมา พ.ศ.2531 ได้มีการประชุมโต๊ะกลม เรื่องการตาย ทางการแพทย์และการตายทางกฎหมาย โดยมีนักกฎหมาย ทนาย อัยการ ผู้พิพากษา แพทย์นิติเวช ประสาทศัลยแพทย์ อายุรแพทย์ ด้านประสาทวิทยา พยาธิแพทย์ด้านประสาท ฯลฯ ได้ข้อสรุปว่าการตายคืออะไร สมองตายอย่างไร และ แพทยสภาได้ออกข้อปฏิบัติหรือเกณฑ์การวินิจฉัยสมองตาย นับว่าศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา เป็นผู้เปิดศักราชของการปลูกถ่ายอวัยวะในประเทศไทย หลังจากนั้นโรงพยาบาลต่างๆ ได้เริ่มทำการรักษาด้วยการปลูกถ่ายอวัยวะมากขึ้น ได้แก่ โรงพยาบาลราชวิถี โรงพยาบาลตำรวจ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช และต่อมาได้เริ่มกระจายสู่โรงพยาบาลในส่วนภูมิภาค
นอกจากนี้ ศาสตราจารย์กิตติคุณ นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ยังดำรงตำแหน่งประธานคณะอนุกรรมการวิชาการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ตั้งแต่ก่อตั้งศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ ในปี 2537 ถึงปัจจุบันได้สร้างความมั่นคง ธรรมาภิบาล เมตตาธรรมให้แก่ศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ และวงการปลูกถ่ายอวัยวะในประเทศไทย แม้ในการตรวจคุณภาพโรงพยาบาลสมาชิกศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ ยังเน้นเสมอว่าเป็นการตรวจเยี่ยมแบบกัลยาณมิตร ไปเพื่อช่วยแก้ไขสิ่งที่บกพร่องไม่ใช่ไปเพื่อจับผิด ทำให้ศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ ได้รับความร่วมมือจากโรงพยาบาลสมาชิกและโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีผู้บริจาคอวัยวะมาก นับว่าท่านเป็นประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ ที่สนับสนุนการบริจาคและการปลูกถ่ายอวัยวะยุคใหม่ ให้รุดหน้าอย่างรวดเร็วและมีธรรมาภิบาล
ศาสตราจารย์ นายแพทย์ทองอวบ อุตรวิเชียร อาจารย์ศัลยแพทย์โรงพยาบาลศรีนครินทร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น อาจารย์เป็นผู้วางรากฐานศัลยศาสตร์ไม่เพียงแต่เริ่มต้นการปลูกถ่ายอวัยวะในส่วนภูมิภาค โดยเริ่มจากการปลูกถ่ายไต เมื่อ พ.ศ.2533 และใน พ.ศ.2538 ได้จัดตั้งเป็นศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ณ โรงพยาบาลศรีนครินทร์ ขึ้นเป็นแห่งแรกในส่วนภูมิภาค มีภาระหน้าที่ในการรณรงค์จัดหาอวัยวะ และเป็นศูนย์กลางในการประสานการปลูกถ่ายอวัยวะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบันโรงพยาบาลศรีนครินทร์ปลูกถ่ายไตมากกว่า 1,200 ราย ส่วนใหญ่ไตที่นำไปปลูกถ่ายให้กับผู้ป่วยมาจากผู้บริจาคสมองตายทั้งสิ้น ใน พ.ศ.2549 โรงพยาบาลศรีนครินทร์ได้เริ่มปลูกถ่ายตับ ปัจจุบันโรงพยาบาลศรีนครินทร์ปลูกถ่ายตับมากที่สุดในประเทศไทย ตั้งแต่ พ.ศ. 2552-2567 เป็นเวลา 5 ปี รวมทั้งสิ้น 370 ราย นอกจากนี้ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ทองอวบอุตรวิเชียร ยังมีบทบาทในการพัฒนาทีมผ่าตัดนำอวัยวะออก จัดอบรมเชิงวิชาการ พัฒนาทีมผ่าตัดนำอวัยวะออกในส่วนภูมิภาค สร้างคุณูปการต่อวงการบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะและเป็นแบบอย่างของความมีวิริยอุตสาหะแก่ผู้ร่วมงาน
และลูกศิษย์อย่างมาก สมกับที่เคยดำรงตำแหน่งประธานราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย
นายแพทย์ทองดี ชัยพานิช อาจารย์ศัลยศาสตร์ที่มีความรู้แตกฉาน และมีศิลปะการสอนเยี่ยมยอด ที่สำคัญผ่านการฝึกอบรมวิจัยการปลูกถ่ายไตที่โรงพยาบาล Peter Bent Brigham ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลต้นแบบของการปลูกถ่ายโตแห่งแรก และเป็นผู้ริเริ่มทำ Living kidney transplant สำเร็จ ในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2530 และควรบันทึกในประวัติศาสตร์วงการแพทย์ไทย คือ เดือนพฤศจิกายนพ.ศ.2530 อาจารย์ทำการปลูกถ่ายไต โดยใช้ไตบริจาคจากผู้ป่วย Anencephalic donor สำเร็จเป็นรายแรกของประเทศไทย ที่โรงพยาบาลสมิติเวช ซึ่งได้รายงานในที่ประชุมครั้งที่ 13 ของราชวิทยาลัย ศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย เมื่อปี 2531 และได้ดีพิมพ์ลงใน Transplant Success Stories 1993* โดย Dr.Paul Terasaki ในปี ค.ศ.1993 นับเป็นเกียรติและนำความภาคภูมิใจ นอกจากอาจารย์จะเป็นผู้ก่อตั้งชมรม ปลูกถ่ายอวัยวะ ซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นสมาคมปลูกถ่ายอวัยวะแห่งประเทศไทย และเป็นประธานชมรมคนแรกแล้ว นับว่าเป็นศัลยแพทย์ที่ทำงานอย่างเต็มที่ให้แก่กิจกรรมของราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่งประเทศไทย เป็นระยะเวลายาวนาน
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์

'เมย์'ล่าแชมป์! ฮีโร่อลป.พร้อมลุย-เช็คโปรแกรมซีเกมส์วันอาทิตย์
สดุดีวีรบุรุษจากชายแดนใต้! พ่อเปิดใจทั้งน้ำตา ภูมิใจ พลฯมุสตากีม ทำหน้าที่สมศักดิ์ศรี พลีชีพช่องอานม้า
ลิฟท์ สุพจน์ ไม่อยากให้คนชมลูกเยอะ กลัวเหลิง เสียใจคนใกล้ตัวโกงเงิน 3 แสน
ป้องกันแชมป์! 'เงือกเนย'เพิ่มอีกทองเดี่ยวผสม400ม.
ปรากฎการณ์! 'บิว'กวาดสถิติหลังคว้าทอง200เมตร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี