ถูกมองในภาพลบมาโดยตลอด สำหรับ ตำรวจจราจร ที่ประชาชนมักตั้งแง่ว่า บังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรม เมื่อพบเห็นเจ้าหน้าที่ก็มักเกิดอคติ และจับผิดการทำงานทุกรูปแบบ หลายครั้งที่ต้องปะทะคารมกันบนถนน ดังที่ปรากฏตามสื่อต่างๆผลที่ออกมาคือคำวิจารณ์ ที่จะโน้มไปหาตำรวจว่าผิด แต่ส่วนใหญ่ต้นเหตุจริงๆ ก็มาจากการที่ไม่ยอมรับบทลงโทษ เมื่อตนเองทำผิดกฎจราจรแล้วถูกใบสั่ง

บก.จร.คือหน่วยงานสังกัด บช.น.ที่ต้องคลุกคลีกับประชาชน ทั้งกลางวันและกลางคืน ภาพลักษณ์จะเป็นที่หวาดเกรงหากขับรถแล้วเจอด่านตรวจ ยิ่งถ้าโดนเรียกด้วยละก็ ถึงกับใจเต้นรัวเลยทีเดียว พ.ต.อ.ชัยกฤต โพธิ์อ๊ะ ผกก.กก.5 บก.จร. หรือ ผกก.อ๊ะ คุณพ่อลูก 3 วัย 41 ปี นรต.รุ่น 51 ชาวเพชรบุรี มาเพื่อขอลบข้อครหาต่างๆ และกอบกู้ชื่อเสียงให้ตำรวจจราจร กับตำแหน่งที่ถูกขนานว่า ผู้กำกับควันดำ    

ผกก.อ๊ะ เล่าประวัติว่า เริ่มรับราชการ ปี 2541 ที่ สน.พญาไท สน.ยานนาวา จากนั้นเป็น รอง สว.แผนกสืบตรวจตราและควบคุม กก.ดส. รอง สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 สว.แผนกวินัยบก.อก.บช.น. สวป.สน.ดินแดง สว.สส.สน.พญาไท สภ.เมืองสมุทรสาคร รอง ผกก.ป.สภ.โพรงมะเดื่อ สภ.บ้านแพ้ว นายเวร พล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ อดีต รอง ผบ.ตร. กระทั่งปี 2559 เป็น ผกก.กก.5 บก.จร.

“เคยผ่านงานทุกอย่างยกเว้นจราจร แต่ช่วงที่เป็น รอง ผกก.ป. อยู่ 2 ที่ เคยช่วยควบคุมงานจราจร ทำให้มีพื้นฐานบ้าง เมื่อก่อนเคยได้ยินเรื่องราวตำรวจตรวจควันดำไม่ยุติธรรม แต่พอมาเป็นผู้บังคับบัญชา ก็ต้องลบข้อครหาตรงนี้ รู้สึกท้าทาย แต่ไม่กดดัน เรามีเป้าหมายในใจว่า ตราบใดที่อยู่ตรงนี้ ต้องทำให้ดีที่สุด”

กองกำกับการ 5 มีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบ คือ 1.ช่างเครื่องยนต์และตรวจพิสูจน์ ตรวจสภาพรถที่เกิดอุบัติเหตุใน สน.ทั้งหมดเมื่อพนักงานสอบสวน ร้องขอให้มีการตรวจสภาพ 2.งานตรวจพิสูจน์ผู้ขับขี่ หรือการตรวจวัดแอลกอฮอล์ อันนี้เป็นต้นแบบของ สตช. และบช.น. 3.งานตรวจพิสูจน์มลภาวะ หรือการตรวจควันดำ เสียงดัง 4.งานสถิติและวิจัยอุบัติเหตุ ดูแลเรื่องสถิติอุบัติเหตุ เพื่อมาวิเคราะห์และแก้ไข

พ.ต.อ.ชัยกฤต บอกว่า ได้คิดค้นโครงการต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ประชาชน และเสริมภาพลักษณ์ที่ดี โดยมี 3 โครงการที่ได้รับการตอบรับดีมาก

1.โครงการตรวจรถก่อนใช้ ปลอดภัยตลอดเส้นทาง มีการเปิดให้ประชาชน หรือตำรวจ นำรถเข้ามาตรวจสภาพฟรี 10 รายการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เปิดให้บริการทุกวันพุธช่วงบ่าย ถ้าช่วงเทศกาลปีใหม่ สงกรานต์ให้บริการตลอดทั้งวันทั้งที่ บก.จร. และบก.น.1-9

2.โครงการ เมาไม่ขับ กลับปลอดภัย ถวายพ่อหลวง เรามีด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ 3 จุดทั่วกรุงเทพฯ ตั้งแต่ 23.00-03.00 น. เมื่อเรียกตรวจหากพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย เกินกว่าที่กำหนด ก็ดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่หากตรวจแล้วพบว่าไม่เกิน จะทำแบบสอบถามความพึงพอใจ การปฏิบัติหน้าที่ตำรวจ กก.5 จากนั้นจะขอถ่ายภาพลงเฟซบุ๊ค เพื่อเป็นเครื่องหมายว่าเมาไม่ขับ   

3.โครงการ ตรวจวัดมลภาวะ ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน กดไลค์ให้เลย เรามีด่านตรวจวัดมลภาวะ 19 จุดทั่วกรุงเทพฯ ช่วงกลางวัน มีแนวความคิดว่ารถคันที่ตรวจไม่พบควันดำให้มีส่วนร่วมในการกดไลค์ถ่ายรูปทำป้าย แล้วนำมาลงเฟซบุ๊ค ทำให้ประชาชนเริ่มรู้สึกดีว่าเมื่อตรวจผ่านไม่ใช่อย่างที่ได้ยินมา ว่าตรวจยังไงก็ควันดำ ส่วนคันไหนตรวจไม่ผ่าน ก็ออกใบสั่ง พร้อมให้คู่มือ เพื่อไปซ่อมแซมให้ผ่านมาตรฐาน

“ถามว่าทำตรงนี้ได้อะไร คำตอบอาจจะไม่ได้อะไร แต่ประชาชนได้แน่นอน แม้ว่าจะเป็นการทำความดีส่วนเล็กๆ ก็ตาม ได้คิดสโลแกนขึ้นมาว่า บริการด้วยจิตอาสา สร้างความเชื่อมั่น ไม่ใช่ประชาชนร้องยี้ ต้องค่อยๆ สร้างความศรัทธาต่อประชาชน การทำงานของเราในปัจจุบัน เรื่องจิตอาสาเป็นเรื่องสำคัญ ถ้าสามารถทำต่อเนื่องไปได้ จะเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดี แล้วประชาชนก็ได้รับความสุข”

ผกก.กก.5 เผยว่า ลูกน้องที่ต้องสัมผัสกับประชาชน คือตรวจควันดำและเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ กลางวันตั้ง 19 ด่าน กลางคืน 3 ด่าน การบังคับใช้กฎหมาย บางทีก็มีที่ต้องปะทะคารมกับประชาชน แต่สิ่งที่ปลูกฝังเลย คือเรื่องของ ธรรมะ ตั้งแต่ตนมาอยู่ก็ยึดมั่นตรงนี้ ชวนลูกน้องไปทำบุญทุกเดือน ใช้ชื่อโครงการเสบียงบุญ กก.5 เราทำเป็นปีที่ 2 แล้ว เพื่อเป็นการปลูกฝัง พอรู้สึกใจเย็น ก็คิดได้ว่าต้องทำความดี อะไรที่มันตึงเกินไปก็ต้องหย่อนลงบ้าง เราได้เห็นรอยยิ้มทั้งของตำรวจ และประชาชน ปัจจุบันด่านตรวจมลภาวะทั้ง 19 จุด เราแจกน้ำ แจกลูกอม กล้วย การวิวาทะกันก็ลดลงเยอะมาก เป็นสิ่งน่าเหลือเชื่อ

พ.ต.อ.ชัยกฤต กล่าวทิ้งท้ายว่า ในส่วนของตำรวจ กก.5 ขอยืนยันว่าจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เป็นธรรมกับพี่น้องประชาชน แต่ขอฝากไว้ว่าทุกจุดตรวจต่างๆ มีหมายเลขโทรศัพท์ของ ผกก.อยู่ ท่านมีปัญหาหรือข้อสงสัยเรื่องใด สามารถติดต่อได้ตลอดเวลา

ทีมข่าวอาชญากรรม