“กำไรชะลอตัว”
บริษัทหลักทรัพย์(บล.)เคจีไอ(ประเทศไทย)วิเคราะห์หุ้นบริษัท บีซีพีจีหรือ BCPG ผลประกอบการ 1Q68 – ต่ำกว่าเราและตลาดคาดไปมากถึง 34% จากการที่ BCPG รายงานกำไรสุทธิ 1Q68 ที่ 153 ล้านบาท (-65% YoY และ -7% QoQ) และกำไรหลักที่ 198 ล้านบาท (-42% YoY และ -13% QoQ) (ไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษต่าง ๆ และขาดทุน Fx) คิดเป็น 13%ของกำไรสุทธิปี 2568F ของเรา ส่วนต่างที่สำคัญคือการด้อยค่าสินทรัพย์แผงโซลาร์เซลล์ที่ล้าสมัยเกินคาดและภาษีสูงกว่าคาด กำไรสุทธิที่ลด QoQ หลักๆมาจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำในลาวชะลอตามฤดูกาล และรายจ่ายภาษีสูงขึ้น แม้จะมีส่วนแบ่งกำไรจากโครงการในสหรัฐอเมริกาแข็งแกร่งขึ้น (high season) และฟิลิปปินส์ (ความเร็วลมแรงขึ้น) พร้อมกับต้นทุนการเงินลดลง (ตามอัตราดอกเบี้ยที่ลดลง) ส่วนกำไรลดลง YoY สาเหตุจาก Fx พลิกกลับเป็นขาดทุน ผลกระทบเต็มปีจากการหมดอายุของ Adder (53MWe) การไม่มีโครงการในญี่ปุ่น (ตั้งแต่เดือนมิถุนายน25 67) และโครงการไฟฟ้าพลังน้ำที่อ่อนแอลง อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ต่ำลงที่ 26.6% (เทียบกับ 40.5% ใน4Q67 และ 41.9% ใน 1Q67)
เรายังคงประมาณการเดิม โดยคาดกำไรหลักปี 2568 จะโตก้าวกระโดด 35% YoY ปัจจัยหนุนหลักจากส่วนแบ่งกำไรของโครงการในสหรัฐอเมริกาสูงขึ้น โครงการพลังงานลม Monsoon เริ่มรับรู้รายได้ (290MWe เริ่มใน 2H68) และโซล่าร์เฟส 1 ของไต้หวัน (100MWe) จากนั้นปี 2569 เราคาดกำไรหลักจะเติบโตเด่น 41% YoY โดยได้ประโยชน์จากการรับรู้ผลงานเต็มปีของโครงการในปี 2568 ซึ่งนำโดยโครงการในสหรัฐอเมริกาที่แข็งแกร่งรวมทั้งโซล่าร์ในไต้หวันเฟสอื่นๆ ระยะถัดไปใน 2Q68F กำไรหลักน่าจะลดลง QoQ จากการปิดซ่อมบำรุงชั่วคราวในสหรัฐฯ จะมีน้ำหนักมากกว่ากำไรจากโครงการไฟฟ้าพลังน้ำและต้นทุนการเงินที่ลดลง
เรายืนคำแนะนำ ซื้อ และคงราคาเป้าหมาย DCF ที่ 8.00 บาท เราคาดว่าตลาดจะมีปฏิกิริยาเชิงลบต่อผลประกอบการ 1Q68 ที่น่าผิดหวัง ซึ่งจะกระตุ้นให้นักลงทุนที่ชอบหลีกเลี่ยงความเสี่ยงรอไปหลัง 2Q68 เพื่อกลับเข้าลงทุน ราคาเป้าหมายของเราเทียบเท่า P/E ปี 2568F ที่ 16x ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตและ peers เทียบกับกำไรหลักเติบโต 35% YoY โดยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มโรงไฟฟ้า อย่างไรก็ดี คำแนะนำของเราหนุนจากประเด็นรายได้จากกำลังการผลิต (CP) พุ่งขึ้นอย่างมากสำหรับโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซต่าง ๆ ในสหรัฐ ฯ (857MWe คิดเป็น 44% ของ capacity ทั้งหมด) ในพื้นที่ PJM ซึ่งเพิ่มขึ้น 9x สำหรับ CCE & SFE และ 5x สำหรับ Hamilton & Patriot ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568
ปัจจัยเสี่ยงจากปิดโรงไฟฟ้านอกแผน, ปัญหา cost overruns และความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนและอัตราดอกเบี้ย
ที่มา..บล.เคจีไอ(ประเทศไทย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี