ไม่มีใครบอกว่าทักษิณ ชินวัตร ไม่ป่วย เพราะคนอายุ 70 กว่าปี ย่อมต้องมีอาการเจ็บป่วยตามอายุขัยอย่างแน่นอน แต่ที่ทุกคนน่าจะรู้ตรงกันคือทักษิณไม่ได้ป่วยหนักแบบใกล้ตาย ตามที่หมอใหญ่บิ๊กบึ้มรายหนึ่งจากโรงพยาบาลตำรวจกล่าวอ้าง
ทุกคนที่ตามข่าวความเคลื่อนไหวของทักษิณ รวมถึงตัวทักษิณต่างก็รู้ตรงกันว่าทักษิณกลับไทยเมื่อปี 2566 เพราะพรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสม นั่นหมายถึงทักษิณรู้ดีว่าเขามีอำนาจรัฐเป็นเครื่องมือและเป็นเกราะกำบังตัว แต่ทักษิณกลับชะล่าใจมากเกินไป เพราะคิดว่าการที่พรรคเพื่อไทยได้เป็นแกนนำรัฐบาลผสม แล้วจะทำให้ทักษิณทำอะไรได้ทุกอย่างตามที่ใจของตนเองต้องการ เมื่อความต้องการส่วนตัวของทักษิณมันใหญ่และโตเกินกว่าอำนาจรัฐที่ตนเองคิดว่ามี มันจึงทำให้ความวิบัติทุกชนิดที่ทักษิณก่อขึ้น มันพุ่งตรงเข้าหาตัวทักษิณโดยพลันแม้ในตอนแรกนั้นทักษิณยังคงลำพองใจ แต่เมื่อทระนงตนจนเกินเหตุเกินการณ์ ความวิบัติก็บังเกิดขึ้นได้ในที่สุด
ก่อนกลับไทย ทักษิณแสดงให้คนไทยเห็นชัดว่าตนเองแข็งแรง แกร่งกล้า โดยโชว์ภาพชกเป้านิ่ง และออกกำลังกายเพื่อแสดงความฟิตของร่าง รวมถึงมีคำยืนยันจากลูกๆ ของทักษิณว่า พ่อมีสุขภาพดี และแข็งแรง ครั้นเมื่อมาถึงเมืองไทยช่วงเช้าวันที่ 22 สิงหาคม 2566 ภาพของทักษิณที่ปรากฏต่อสาธารณชนโดยผ่านสื่อฯ สารพัดชนิด ก็ยืนยันได้ว่าเขายังแข็งแรง แต่เหตุไฉนเมื่อถึงเวลากลางคืนของวันที่ 22 สิงหาคม 2566 กลับมีข่าวว่าทักษิณป่วยหนักจนใกล้ตาย จำเป็นต้องนำร่างไปรักษาโดยด่วนที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ
บอกตรงๆ ว่าไม่มีใครเชื่อว่าทักษิณป่วยหนักชนิดใกล้ตาย หรือเฉียดตาย แต่ทุกคนที่ตามเรื่องนี้ยังเชื่อตรงกันว่าทักษิณไม่ป่วย และไม่ได้เข้าไปอยู่ในคุกไทยแม้แต่วินาทีเดียว ทั้ง ๆ ที่ปากของทักษิณบอกว่ายอมรับผิดและต้องการกลับไทยมาเพื่อชดใช้ความผิดที่ได้ก่อขึ้น แต่แล้วก็ไม่มีภาพทักษิณเข้าคุก ไม่มีภาพทักษิณแต่งชุดคนคุก ไม่มีภาพทักษิณถูกตัดผมทรงคนคุก และไม่มีภาพทักษิณทำประวัติเข้าคุก
จากคืนวันที่ 22 สิงหาคม 2566 แล้วนับต่อไปอีก 180 วัน ก็มีข่าวเชิงประดิษฐ์จากฝั่งของทักษิณว่าทักษิณอยู่ที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ แต่นั่นคือข่าวประดิษฐ์ เพราะในความเป็นจริงนั้น ไม่มีใครเชื่อว่าทักษิณป่วยและพักอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ แต่มีคนจำนวนไม่น้อยเชื่อตรงกันว่าทักษิณกลับไปบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งเรื่องนี้เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส แห่งพรรคเสรีรวมไทยยืนยันว่าเขาไปพบทักษิณที่ห้องพิเศษ ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และพบว่าทักษิณไม่ได้ป่วยหนักชนิดที่ต้องนอนแบอยู่บนเตียง แต่ทว่าใช้โรงพยาบาลตำรวจเป็นที่รับแขกเท่านั้น
ขอย้ำว่าไม่มีใครเชื่อว่าทักษิณป่วยหนักแบบใกล้ตายแล้วก็ไม่มีใครเชื่อว่าทักษิณเข้าคุก เรื่องนี้ถูกขุดคุ้ยเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยมีภาพยืนยันว่าทักษิณป่วยหนัก และเข้าคุก แถมยังไม่พบว่า (อดีต) เมียของทักษิณ คือ หญิงอ้อ-พจมานดามาพงศ์ เคยเดินทางไปเยี่ยมผัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งมันเป็นเรื่องขัดกับข้อเท็จจริงของการป่วยหนัก เพราะคนป่วยหนักแบบใกล้ตายนั้น ญาติพี่น้อง ลูกเมีย ต้องไปเยี่ยมเพื่อดูใจ เพราะไม่รู้ว่าจะตายวันตายพรุ่ง แต่นี้ไม่มีภาพหญิงอ้อไปเยี่ยมทักษิณปรากฏต่อสาธารณชนแม้แต่ภาพเดียว
จนกระทั่งเมื่อสองวันที่ผ่านมา แพทยสภามีมติให้ลงโทษแพทย์สามคน ดังมีชื่อต่อไปนี้ รวมทิพย์ สุภานันท์ โรงพยาบาลราชทัณฑ์ (ถูกลงโทษขั้นตักเตือน) โสภณรัชต์ สิงหจารุ โรงพยาบาลตำรวจ และทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ โรงพยาบาลตำรวจ โดยสองรายหลังถูกพักใช้ใบประกอบโรคศิลปะ
และมีประเด็นสำคัญจากแพทยสภาคือ ไม่พบว่าทักษิณป่วยหนักขั้นวิกฤต หรือหากพูดภาษาชาวบ้านให้เข้าใจง่ายคือ ไม่พบว่าทักษิณป่วยหนักจนใกล้ตาย ขอย้ำว่าแพทยสภาไม่ได้บอกว่าทักษิณไม่ป่วย แต่บอกว่าไม่พบว่าทักษิณป่วยหนักจนเข้าขั้นวิกฤต
แน่นอนว่าทักษิณไม่สามารถลงนามใดๆ ด้วยตัวเองเพื่อให้ตัวของทักษิณไม่ต้องเข้าคุก แล้วถูกส่งไปยังโรงพยาบาลตำรวจแบบน่าฉงนเป็นที่สุด แต่มีคำถามว่าใครที่อยู่เบื้องหลังเหตุเหล่านี้ เรื่องนี้ถูกโยนคำถามไปที่ สมศักดิ์ เทพสุทิน วิษณุ เครืองาม ทวี สอดส่อง เพราะทั้งสามคนนี้มีส่วนรับผิดชอบในกระทรวงยุติธรรมแบบต่างกรรมต่างวาระ
บัดนี้ แพทยสภามีความเห็นลงโทษแพทย์สามคนดังปรากฏเป็นข่าวแล้ว แต่ก็ยังมีคำถามต่อไปว่าแล้วจะยังมีแพทย์รายอื่นๆ มีความผิดอีกหรือไม่ ส่วนเรื่องที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งการเมืองเรียกตัวทักษิณไปสอบปากคำเพิ่มเติมวันที่ 13 มิถุนายน 2568 ก็ยังเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สังคมยังคงติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะต้องการรู้ว่าศาลฎีกาฯ จะสั่งให้ทักษิณต้องกลับเข้าไปรับโทษในคุกหรือไม่
แต่สำหรับคนทั่วไปที่สนใจคดีความของทักษิณก็มองไปถึงประเด็นที่ว่า ทักษิณจะหนีออกจากไทยในวันไหน และหนีโดยวิธีใด คอการเมืองที่ตามเรื่องนี้เชื่อตรงกันว่าศาลคงไม่อนุญาตให้ทักษิณเดินทางออกนอกพระราชอาณาจักรไทย ต่อให้ทักษิณร้องขอต่อศาลอีกกี่สิบครั้งก็ตาม ดังนั้น สิ่งที่คอการเมืองเชื่อตรงกันก็คือ ทักษิณคงเตรียมช่องทางธรรมชาติไว้หนีคดีอาญาอย่างแน่นอน เพียงแต่ว่าจะหนีวันไหนเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี