• ทำความเข้าใจหลักพุทธธรรมแบบง่ายๆ ที่นำไปใช้ในชีวิตประจำวัน
1. ศีล สมาธิ ปัญญา
ศีล : คือ การควบคุมกายและวาจา ของเราให้เรียบร้อย ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น เปรียบเหมือนการวางรากฐานบ้านให้มั่นคง
(1) ศีล 5
ศีล 5 ไม่ใช่แค่ข้อห้าม แต่เป็นหลักคิดเพื่อป้องกันและสร้างความสุขให้กับชีวิตของเรา
ศีลข้อ 1 : เว้นจากการฆ่าสัตว์
หลักคิด : การไม่เบียดเบียนชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสัตว์หรือมนุษย์
เพราะทุกชีวิตล้วนรักสุขเกลียดทุกข์เหมือนกัน
การปฏิบัติ : ไม่ทำร้าย ไม่ทุบตี ไม่เบียดเบียนชีวิตอื่น รวมถึงการมีเมตตาต่อสัตว์ต่างๆ
ป้องกัน : ช่วยลดความรุนแรงและความโกรธในจิตใจ สร้างความเมตตาให้เกิดขึ้น
ศีลข้อ 2. : เว้นจากการลักทรัพย์
หลักคิด : เคารพในสิทธิและทรัพย์สินของผู้อื่นการได้มาซึ่งทรัพย์สินต้องมาจากความสุจริต
การปฏิบัติ : ไม่ขโมย ไม่ฉ้อโกง ไม่หยิบของคนอื่นมาเป็นของตนเองโดยไม่ได้รับอนุญาต
ป้องกัน : ช่วยให้สังคมมีความสงบสุขและไว้ใจกันได้
ศีลข้อ 3 : เว้นจากการประพฤติผิดในกาม
หลักคิด : การมีสติและสำรวมในเรื่องเพศ เพื่อรักษาสถาบันครอบครัว
และไม่สร้างความทุกข์ให้กับผู้อื่น
การปฏิบัติ : การซื่อสัตย์ต่อคู่ครองของตนเอง และไม่ล่วงละเมิดผู้อื่น
ป้องกัน : ช่วยลดปัญหาความร้าวฉานในครอบครัว และลดปัญหาทางสังคม
ศีลข้อ 4 : เว้นจากการพูดเท็จ
หลักคิด : การพูดความจริงเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อใจและความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน
การปฏิบัติ : ไม่พูดโกหก ไม่พูดส่อเสียด (ยุให้คนแตกกัน) ไม่พูดคำหยาบ
และไม่พูดเพ้อเจ้อไร้สาระ
ป้องกัน : ทำให้เราเป็นคนที่น่าเชื่อถือ และไม่สร้างความขัดแย้งด้วยคำพูด
ศีลข้อ 5 : เว้นจากการดื่มสุราและของมึนเมา
หลักคิด : สุราและของมึนเมาทำให้ขาดสติ ซึ่งเป็นต้นเหตุของการทำความผิดข้ออื่นๆ
การปฏิบัติ : ไม่ดื่มเหล้าไม่เสพยาเสพติดหรือสิ่งใดก็ตามที่ทำให้สติสัมปชัญญะของเราลดลง
ป้องกัน : เมื่อมีสติครบถ้วน เราก็จะไม่ทำผิดศีลข้ออื่นๆ เช่น
ฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ หรือพูดโกหก
(2) สมาธิ และ ปัญญา
สมาธิ : คือ การตั้งมั่นของจิตใจ ให้อยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างแน่วแน่ ไม่ฟุ้งซ่าน
เปรียบเหมือนการฝึกให้ใจสงบ นิ่ง เหมือนน้ำที่ใสสะอาด
ปัญญา : คือ ความรอบรู้และความเข้าใจ ในสิ่งต่างๆ ตามความเป็นจริง
เปรียบเหมือนการมองเห็นใต้ผิวน้ำที่ใสสะอาด ทำให้เราเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดเจน
ความสัมพันธ์กับศีล 5:
ศีล เป็นพื้นฐานสำคัญที่ทำให้เราทำ สมาธิ ได้ง่ายขึ้น
เพราะเมื่อเราไม่เบียดเบียนใคร ใจเราก็จะสงบ ไม่กระวนกระวาย
เมื่อใจสงบจาก สมาธิ ก็จะเกิด ปัญญา
คือความเข้าใจในหลักของความจริงมากขึ้น
ปัญญา ที่เกิดขึ้นนี้จะช่วยให้เราเห็นว่า การรักษา ศีล เป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างแท้จริง และทำให้การรักษาศีลเป็นไปโดยธรรมชาติ ไม่ใช่เพราะถูกบังคับ
2. โอวาทปาติโมกข์ คือหลักคำสอนที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา
ที่พระพุทธเจ้าได้ทรงแสดงไว้
(1) สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง (การไม่ทำบาปทั้งปวง)
หลัก : เว้นจากการทำสิ่งชั่วร้ายทุกอย่างทั้งทางกาย ทางวาจา และทางใจ
ความเกี่ยวโยง : นี่คือ ศีล นั่นเอง เพราะการรักษาศีล 5 ก็คือการไม่ทำบาปนั่นเอง
(2) กุสลัสสูปะสัมปะทา (การทำกุศลให้ถึงพร้อม)
หลัก : ทำความดีทุกอย่างให้สมบูรณ์
เช่น การให้ทาน การช่วยเหลือผู้อื่น การศึกษาธรรมะ
ความเกี่ยวโยง : เมื่อเราไม่ทำชั่วจากหลักข้อแรกแล้ว เราก็ต้องทำความดี
ซึ่งการทำสมาธิก็จัดเป็นกุศลอย่างหนึ่ง
(3) สะจิตตะปะริโยทะปะนัง (การทำจิตใจของตนให้บริสุทธิ์)
หลัก : ชำระจิตใจของเราให้สะอาดจากกิเลสทั้งหลาย
เช่น ความโลภ ความโกรธ ความหลง
ความเกี่ยวโยง : ข้อนี้คือ ปัญญา เพราะการจะทำจิตใจให้บริสุทธิ์ได้
ต้องอาศัยปัญญาในการรู้เท่าทันกิเลส
สรุปความสัมพันธ์ของโอวาทปาติโมกข์ :
ทั้ง 3 ข้อมีความเกี่ยวเนื่องกันเป็นลำดับขั้น
เริ่มจากการ ไม่ทำชั่ว (ศีล)
แล้วจึง ทำความดี (ทาน, สมาธิ) และ
สุดท้ายคือ ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ด้วยปัญญา
3. ข้อแนะนำอื่นๆ ที่สำคัญ
เน้นที่การปฏิบัติ : พุทธธรรมไม่ใช่แค่การท่องจำ แต่เป็นการนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน ลองเริ่มต้นด้วยการฝึกสมาธิง่ายๆ เช่น
การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก หรือการมีสติอยู่กับปัจจุบัน
อย่าท้อแท้ : การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องง่าย บางครั้งเราอาจจะผิดพลาดไปบ้าง
แต่สิ่งสำคัญคือการเริ่มต้นใหม่และตั้งใจทำต่อไป
เริ่มจากสิ่งที่ทำได้ : การรักษาศีล 5 อาจจะดูยาก แต่ให้เริ่มจากสิ่งที่ทำได้ก่อน
เช่น การรักษาศีลข้อ 4 คือการไม่พูดโกหก หรือศีลข้อ 5 คือการไม่ดื่มสุรา
แล้วค่อยๆ ทำข้ออื่นๆ ให้สมบูรณ์ขึ้น
พุทธศาสนาคือวิทยาศาสตร์ทางใจ : พุทธธรรมสอนให้เราพิสูจน์ได้ด้วยตัวเอง
ลองสังเกตความรู้สึกของตัวเองเวลาทำความดีหรือเวลาทำความไม่ดี
แล้วจะเข้าใจด้วยตัวเองว่า ผลที่เกิดขึ้นนั้นเป็นอย่างไร
ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี