ในยามนี้เราจะเห็นชัดว่าสัตว์การเมืองที่ชื่อว่านักการเมืองกำลังพยายามผสมพันธ์ุกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้งๆ ที่ผ่านมานั้น เราได้เห็นแล้วว่าสัตว์การเมืองในบ้านเราอ้างว่าไม่ผสมพันธ์ุกับพรรคนั้น พรรคโน้น พรรคนี้ ตามแต่มันจะอ้างไปเรื่อยเปื่อย เพราะในวันนั้นมันยังสามารถผสมพันธ์ุกันเองในกลุ่มสัตว์การเมืองที่มันสามารถผสมกันได้ แล้วสามารถแบ่งผลประโยชน์กันได้ลงตัว แต่เมื่อวันที่จ่าฝูงสัตว์การเมืองหมดอำนาจ เหล่าบรรดาลูกฝูงก็เกิดอาการอลหม่าน บางตัวก็กระโดดหนีซากของจ่าฝูง เพราะรู้ว่าจ่าฝูงไม่มีวันกลับมามีอำนาจได้อีก บางตัวก็ต่อรองผลประโยชน์กันอย่างบ้าคลั่ง เพราะมันรู้ว่านี่คือโอกาสในการหาเงินหาทองเข้าพกเข้าห่อของมัน ดังนั้น ในยามนี้จึงพบว่ากล้วยที่ใช้แจกกันในวงการการเมืองไทยมีราคาแพงมากกว่าเดิม สัตว์การเมืองบางตัวโกงค่าตัวได้หลายกิโลกรัม (เงิน 1 ล้านบาท ในรูปธนบัตรใบละพันหนัก 1 กิโลกรัม)

เราเคยเห็นพรรคการเมืองเช่น เพื่อไทยบอกว่าจะจับมือกับพรรคก้าวไกล (ปัจจุบันคือพรรคประชาชน) ร่วมตั้งรัฐบาล แต่สุดท้ายก็พบว่าเพื่อไทยตระบัดสัตย์หันไปจับมือกับพรรคอื่น แล้วทิ้งพรรคก้าวไกล แล้วเราก็ได้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยบอกว่ามี “ลุงไม่มีเรา” แต่ก็ได้เห็นแล้วว่าอยู่กับลุงได้ แต่ก็ยังอ้างว่าลุงไม่อยู่ในพรรค เพราะฉะนั้น ก็จึงจับมือกับพรรคลุงได้ ก็อ้างกันไปตามแต่จะอ้าง ตามแต่ความหนาของผิวหนังหน้า

วันวานเราได้เห็นว่าพรรคภูมิใจไทยประกาศไม่จับมือกับพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน) แต่วันนี้บอกว่าจับมือกันได้ แล้วยินดีทำตามความต้องการของพรรคก้าวไกล (พรรคประชาชน)โดยไม่มีเงื่อนไข บอกแบบหน้าไม่อายว่าเอาอะไรบอกมาเลย ทำตามได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งแก้รัฐธรรมนูญ แต่ก็ดูเสมือนว่าเป็นการอ้างไปเรื่อยๆ เพื่อให้ตัวเองได้เป็นรัฐบาลเท่านั้น

ถามว่าทำไมสัตว์การเมืองของไทยจึงไม่ยึดมั่นในความสัตย์ ตอบว่าเพราะในมโนสำนึกของพวกสัตว์เหล่านั้นไม่เคยมีพจนานุกรมคำว่าซื่อสัตย์ ความสัตย์อยู่ในสารบบสารบรรณ เพราะฉะนั้นไม่ต้องถามถึงเรื่องความสัตย์ แต่สิ่งที่พวกมันยึดมั่นคือผลประโยชน์ส่วนตัว และผลประโยชน์เฉพาะกระเพาะของมันเท่านั้น ส่วนเรื่องของบ้านเมือง เรื่องของประเทศชาติ ไม่เคยมีอยู่ในสามัญสำนึก แต่มันก็อ้างแบบโฆษณาชวนเชื่อว่ามันทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อบ้านเพื่อเมือง ซึ่งทั้งหมดคือความเท็จทั้งสิ้น เพราะมันไม่เคยคิดถึงบ้านเมือง ไม่เคยคิดถึงประเทศชาติ และประชาชน

การผสมพันธ์ุของสัตว์การเมืองในไทยเป็นการผสมพันธุ์เพื่อผลประโยชน์ของปากท้องของมันและพวกพ้องของมันเท่านั้น มันเข้าสู่วงการเมืองเพราะต้องการอำนาจรัฐ แล้วใช้อำนาจรัฐเพื่อผลประโยชน์ของมันเป็นสำคัญ

เรามาจับตาดูกันว่า การผสมพันธ์ุของสัตว์การเมืองไทยจะออกมาในรูปแบบใด จะผสมพันธุ์ได้พิลึกพิลั่นสักเพียงใด แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ย่อมทราบดีอยู่แล้วว่า เมื่อสัตว์มันผสมพันธ์ุกันแล้ว ก็มิได้หมายความว่ามันจะซื่อสัตย์ต่อกันตลอดไป เพราะมันสามารถกัดกันได้แม้ในขณะที่มันกำลังผสมพันธุ์กันอยูู่นี่แหละหนาสัตว์การเมืองไทย