เป็นเรื่องแสนประหลาดที่นายทุนสามานย์ป่าวประกาศด้วยคำมุสาว่า ตนเองคือผู้เสียสละเพื่อคนทุกข์คนยาก ทั้งๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว นายทุนสามานย์คือผู้สูบเลือดสูบเนื้อผู้ขายแรงงานให้กับตนเองมาโดยตลอด และช่างเป็นเรื่องน่าอับอายที่บุคคลผู้ซึ่งไม่เคยอุทิศตัวเพื่อเพื่อนมนุษย์มาก่อนแม้แต่น้อย กลับกล้าประกาศด้วยคำมดเท็จว่า ตนเองจะขันอาสารับหน้าที่เป็นผู้สรรสร้างความเป็นธรรมให้กับเพื่อนร่วมสังคม เป็นเรื่องน่าอดสูยิ่ง ที่คนผู้ซึ่งไม่เคยเชื่อถือในหลักความเสมอภาค และความเท่าเทียมกันของเพื่อนมนุษย์ แต่กลับใช้วาทกรรมการเมืองยกยอตัวเองว่าจะทำให้สังคมนี้เกิดความเท่าเทียมกันอย่างสมบูรณ์แบบ

แต่สำหรับคนที่ไม่หูเบา ซึ่งไม่เชื่อลมปากของใครง่ายๆ ไม่ว่าผู้ปล่อยลมออกจากปากจะชอบยกยอปอปั้นตนเองว่าเป็นคนดีงามมากมายสักเพียงใด ก็จะต้องพึงระลึกไว้เสมอว่า “วาว วาว บ่ใช่เนื้อคำดี ทั่วนา ภาษิตย่อมเคยมีสบโสต บางคนวอดชีวี วายเปลือก นอกนอ ภายนอกสีรุ่งโรจน์ แต่ข้างในหนอน” (จากบทพระราชนิพนธ์ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เรื่อง เวนิสวาณิช)

บุคคลผู้มีสติ มีวิจารณญาณย่อมไม่หลงงมงายไปกับลมปากจากนายทุนสามานย์ เพราะรู้ดีว่าลมปากนั้นหาแก่นสารสาระอันใดมิได้แม้แต่น้อย เพราะผู้มีสติ มีวิจารณญาณตระหนักดีว่า นายทุนสามานย์ย่อมจำเป็นจะต้องพูดคำหวานเพื่อหลอกล่อเอาผลประโยชน์เข้าตัวตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ผู้มีสติย่อมไม่เคยเชื่อว่านายทุนสามานย์จะยอมแบ่งปันผลประโยชน์ของตนให้กับผู้ขายแรงงานซึ่งมีสถานะด้อยกว่า

จากโคลงสี่สุภาพข้างต้นนี้ ทำให้ผู้มีปัญญาประจักษ์ว่า สิ่งใดก็ตามที่เราเห็นว่ามันแววๆ วาวๆ ดูเป็นสีทองสุกปลั่ง แต่ทว่ามันอาจจะมิใช่ทองคำแท้เสมอไป คนบางคนก็ต้องตาย เพราะเอาชีวิตของตนไปแลกกับเปลือกนอกที่ตนมองเห็นว่ามีสีสันสวยงาม แต่แท้จริงภายในนั้นล้วนแล้วแต่เน่าหนอน

ในยามนี้คนไทยจำนวนไม่น้อยอาจจะต้องการการเลือกตั้ง เพราะหลงเชื่อเอาเองว่าการเลือกตั้งคือเครื่องบ่งบอกถึงความเป็นประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่หลายคนประจักษ์แก่ใจตัวเองมาแล้วว่า ผู้ที่ชนะการเลือกตั้งจำนวนไม่น้อยนั้นมิได้มีพฤติกรรมแตกต่างไปจากโจรปล้นชาติเลยแม้แต่น้อย แต่การพูดเช่นนี้ก็มิได้หมายความว่า ผู้ที่ทำรัฐประหารแล้วเข้ามาโกงบ้านกินเมือง จะมีความประเสริฐเลิศเลอมากไปกว่าโจรปล้นชาติที่ชนะการเลือกตั้ง

แน่นอนว่า ผู้ที่มาจากการเลือกตั้งย่อมมีภาพลักษณ์ดีกว่าผู้มาจากการรัฐประหาร แต่มีคำถามว่า ถ้าหากผู้ชนะการเลือกตั้งนั้น ชนะมาด้วยเล่ห์เพทุบายที่สุดแสนสกปรกโสโครก ขอถามต่อไปว่า ผู้ชนะการเลือกตั้งรายนั้นจะยังมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปบริหารประเทศชาติกระนั้นหรือ แล้วถ้ายิ่งชนะการเลือกมาด้วยความสกปรก แล้วมุ่งใช้อำนาจรัฐเข้าไปโกงบ้านกินเมืองอย่างไม่บันยะบันยังด้วยแล้ว อย่างนี้เราจะยังให้ความสนับสนุนอีกหรือ

คนไทยเคยมีประสบการณ์ที่สุดแสนขมขื่น เพราะถูกนักธุรกิจการเมืองใช้อำนาจรัฐปล้นชาติมาแล้ว มาบัดนี้ได้มีนักธุรกิจผู้เกี่ยวพันกับนักธุรกิจการเมืองหน้าเดิมๆ กำลังใช้กลอุบายโฆษณาชวนเชื่อว่าจะเข้ามารังสรรค์ความเป็นประชาธิปไตยให้บ้านเมือง ก็ได้แต่หวังว่าคนไทยจะไม่หลงลมปากของนักธุรกิจการเมืองรายใหม่ซึ่งมีญาติเป็นนักธุรกิจการเมืองหน้าเดิม แล้วก็หวังว่าคนไทยจะไม่ลืมความเจ็บปวดแสนสาหัสที่นักธุรกิจการเมืองหน้าเดิมได้เคยกระทำกับบ้านเมืองของเรา