ยิ่งใกล้จะมีการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 25 ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2562 แม้จะเหลือเวลาอีกประมาณ 8 เดือน แต่ความเคลื่อนไหวทางด้านการเมืองกลับทวีความสำคัญมากขึ้นกลุ่มสามมิตรได้เป็นข่าวทุกๆ วันในทางตรงกันข้ามสายพรรคเพื่อไทยกลับมีความสับสนวุ่นวายพอสมควรแม้ใกล้จะครบรอบวันเกิด 69 ปี ของอดีตนายกรัฐมนตรีและอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่ชื่อว่า ทักษิณ ชินวัตร ในวันที่ 26 กรกฎาคม 2561 ที่จะถึงนี้

เพราะไม่มีใครรู้ว่าทักษิณคิดอย่างไรประการสำคัญไม่มีใครควักเงินมาสนับสนุนพรรคการเมืองหรือว่าการเลือกตั้งที่แน่นอนรู้กันแต่ว่านายใหญ่ที่มีสินทรัพย์ประมาณ 2 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือมากกว่านั้นไม่ยอมควักเงินมาช่วยอดีตสส.ในพรรคด้านพรรคใหม่นั่นกลับมีข่าวดูดคนอยู่ทุกๆ วัน มีการประสานงานติดต่อในกลุ่มโดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสานและภาคกลางมีความคึกคักมาก

ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ประสานงานกลุ่มสามมิตรในอำเภอเมืองนครราชสีมา นายภิรมย์ พลวิเศษ เลขานุการของกลุ่มสามมิตรในภาคอีสานได้มีการประชุมหารือกับสมาชิกเรื่องการดำเนินกิจกรมในรอบสัปดาห์ ก่อนเปิดเผยว่า กรณีการวิจารณ์ทางการเมืองในช่วงนี้มุ่งมาที่กลุ่มสามมิตร ได้มีการตั้งคำถามว่าสามมิตรมีอะไรดีจึดูดนักการเมืองได้มากขนาดนี้กลุ่มสามมิตรประกอบด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน, นายอนุชา นาคาศัย และพวกที่ร่วมกันแสวงหาจุดร่วมในกลุ่มกัน

ซึ่งกลุ่มสามมิตรนั้นมีการเริ่มเดินสายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นมาแล้วประมาณ 2 เดือนได้เชิญทุกฝ่ายมาร่วมกันเดินไปข้างหน้าเพื่อให้ประเทศชาติได้ประโยชน์ซึ่งได้ไปถึงอดีต สส. และ สว. อดีตผู้สมัครแล้วแตกความคิดออกไปถึงการรับปัญหาความต้องการของพี่น้องประชาชนและพี่น้อง นปช. เมื่อได้นปช.ที่ยอมแลกเปลี่ยนแล้ว ซึ่งไม่ได้หมายว่ามาสมัครลงสส.กับพวกตนแต่อย่างใด

เพราะพวกสามมิตรยังไม่มีพรรค แต่มีจุดร่วมด้วยกันว่านับหนึ่งในขณะที่ กปปส. เช่น นายสิระ เจนจาคะ นักธุรกิจที่เป็นอดีตเลขานุการของพุทธะอิสระได้อยู่บ้านทรงไทยถนนแจ้งวัฒนะเห็นด้วยกับแนวทางของสามมิตรมีนักธุรกิจใหญ่ระดับอภิมหาเศรษฐีในเมืองไทยหลายสิบคนมาหนุนเพราะต้องการยุติความแตกแยกในทางการเมืองเป็นการร่วมกันผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไปสู่ดวงดาวและความสำเร็จของประชาชน 68 ล้านคน ไม่ใช่คนใดคนหนึ่งอย่างที่แล้วๆ มาในเวลา 14-15 ปีมานี้

การที่นักการเมืองเก่าและใหม่ที่มีชื่อนำหน้าเป็น ส.บางคนอาจจะเป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนราษฎร์ดังๆ อย่างอัสสัมชัญ เซนต์คาเบรียล มงฟอร์ต มาร์แตร์เดอี เซนต์โยเซฟ เซนต์ฟรังซิสซาเวียร์ ทั้งชายหญิงมาร่วมกันคิดถึงชาติบ้านเมือง คิดถึงประเทศมากกว่าใครบางคนจึงเป็นเรื่องที่ดี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะมีชื่อของหลายๆ คน อาจจะเป็นสมคิด จาตุศรีพิทักษ์, สุรเกียรติ์ เสถียรไทย, สรอรรถ กลิ่นประทุม,สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ,สุวัจน์ ลิปตพัลลภ,สมศักดิ์ เทพสุทิน,สรชาติ สุวรรณพรหม หรือใครอีกหลายคน

นายภิรมย์ พลวิเศษ เผยว่าคำว่าสามมิตรนั้นหมายถึงทั้งคนจน คนรวย รัฐบาล มาประกอบกันแล้วมีจุดร่วมกันนั่นคือ เป้าหมายทิศทางที่จะทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้า น่าจะลงตัวกันได้ที่เราอ้างอิงถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เริ่มสร้างความหวังกับประชาชนว่า เขาจะได้รับการดูแลเรื่องปากท้อง อาชีพ ราคาพืชผลทางการเกษตร ดูแลตั้งแต่เด็กจนถึงแก่หรือตายมันคือมีความหวังกับรัฐบาลชุดนี้

สามมิตรได้สื่อกับปัญหาต่างๆ ของประชาชนไปถึงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งบางเรื่องพล.อ.ประยุทธ์ได้ทำมาล่วงหน้าพวกเราแล้วบางเรื่องที่เรานำเสนอกำลังจะร่วมกันว่าจะนำเสนอรัฐบาลเป็นครั้งๆไปกับข้อกำหนดเวลาที่มีอยู่ ส่วนมีการมองว่ากลุ่มสามมิตรและพลังประชารัฐเป็นนอมินีของทหารนั้นก็ไม่ได้มีนายทหารมาอยู่กับสามมิตรเลยสักคน

กรณีที่ถูกโจมตีว่าใช้เงินดูดอดีตนักการเมืองเข้าร่วมกลุ่มสามมิตรนั้นขอยืนยันว่าถ้ามีเงินไปดูด ตนว่าหมดพรรคแล้วถ้ามีเงินจ่ายหัวละ 50 ล้าน ต้องเข้าใจว่าอดีต สส.และ อดีต สว.ไม่คาดหวังว่าต้องเอาเงินเป็นตัวตั้ง เขาอยากเป็นผู้แทนของประชาชนสองแสนคน เขาจะมาขายชีวิต ขายเกียรติศักดิ์ศรีหรืออย่าคิดว่าจะเอาเงินไปซื้อ ไปดูด ถ้ากลุ่มไม่มีของดี แต่แน่ละน้ำเลี้ยงดีในระดับหนึ่งและสามารถตั้งรัฐบาลหลังเลือกตั้งได้ตามครรลองประชาธิปไตย

นั่นคือนโยบายยุทธศาสตร์ที่ดีที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์จากนี้ไปจนถึงจะเลือกตั้งเขาไม่มาหรอก ส่วนที่โจมตีนั้น มองว่าคนที่โจมตีคิดไม่ออก คิดได้แต่คำว่าดูดเฉยๆ จุดเด่นของสามมิตรคือเรื่องความปรองดองของทุกพรรคและเข้าใจปัญหาพี่น้องประชาชนมากว่าประชาชนนั้นต้องการอะไรมากกว่าเรื่องอื่นๆ ที่พูดกัน

ทีมข่าวการเมือง