บ้าน ดุซงญอ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส เป็นดินแดนประวัติศาสตร์ จากเหตุการณ์ปะทะระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐ กับกลุ่มชาวไทยมุสลิมเชื้อสายมลายู หรือสงครามดุซงญอ เป็นเหตุให้ทั้งสองฝ่ายได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ระยะเวลาผ่านมากว่า 70 ปี ก่อนจะเกิดเหตุการณ์ครบรอบ กรณีกรือเซะ เมื่อวันที่ 28 เม.ย.2547 นอกจากนี้หลังปี 2491 โจรจีนคอมมิวนิสต์มาลายา (จคม.) ปรากฏตัวครั้งแรกที่ปลายด้ามขวาน
ตำรวจพลร่ม (ค่ายนเรศวร อ.หัวหิน) ถือกำเนิดในปี 2496 สำหรับปราบปรามคอมมิวนิสต์ภายในประเทศ และเกิดแรงบันดาลใจให้นาย ป๋อง จากเด็กบ้านนอกกลายเป็น พล.ต.ท.นพดล เผือกโสมณ ผู้บัญชาการประจำสำนักงาน ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบช.ประจำ สง.ผบ.ตร.) เจ้าของฉายา วีรบุรุษบางนรา ตำรวจผู้เอาเลือดเนื้อทาแผ่นดินไว้ที่ จ.นราธิวาส เพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
พล.ต.ท.นพดล ย้อนความหลังว่า เหตุผลที่ไม่ทำงานการรถไฟฯตามรอยพ่อ เราเห็นรถไฟตั้งแต่เด็กดูแล้วราบเรียบ ไม่เหมือนความใฝ่ฝันของตน บ้านอยู่ อ.หัวหิน เห็นตำรวจพลร่ม ตชด.สร้างวีรกรรมกลับมาได้รับการ แซ่ซ้องสรรเสริญ พอจบนายร้อยรุ่น 35 จะขอไปเป็นตำรวจพลร่มก็ขัดใจพ่อ จึงเลือกลง ภูธร อยากใช้ความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียน ท้าทายความยากลำบากในดินแดน กาหยูหวาน
“ไม่เคยตามใจพ่อจนจะลงใต้ไปกราบท่าน พ่อพูดมาคำหนึ่งจำได้ตลอดชีวิต ป๋อง! แม่ตายแล้ว พ่ออยู่บ้าน อย่าให้ใครเขาด่าพ่อล่อแม่ได้ ผมตอบครับ! ชาวบ้านจะได้ประโยชน์จากป๋องแน่นอน พ่อไม่ต้องห่วง”คำพูดก่อนรับตำแหน่งที่ สภ.เมืองระนอง
จากนั้นปี 2528 ได้รับมอบหมายเป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ภายใต้ พตท.43 เอากำลังไป 12 นาย อยู่ที่ น้ำตกปาโจ อ.บาเจาะ จ.นราธิวาส นั้นคือก้าวสัมผัสแรกใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถามว่ากลัวไหม เราถูกปลูกฝังหล่อหลอมมา เพื่อจะทำงานได้ทั่วประเทศ ตนมีแนวคิดว่า ทำงานหนักคือมงคลของชีวิต ภารกิจเหนือสิ่งอื่นใด คำสั่งผู้บังคับบัญชาคือเสียงสวรรค์ ฉะนั้นไม่ได้เกรงกลัวอะไรเลย
ภาคใต้โดยเฉพาะ จ.นราธิวาส ถือเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์เพราะบ้าน ในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่ที่นั้นคือ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ สมัยก่อนแห้งแล้งทุรกันดารมาก พื้นดินไม่สามารถทำการเกษตรได้ และคุณภาพชีวิตผู้คนค่อนข้างต่ำ แต่พอพระองค์ทรงจัดทำ โครงการพระราชดำริ คุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชาวพุทธและมุสลิม ทุกคนได้รับประโยชน์ทั้งสิ้น ตนจะดูแลบ้านของพระองค์คิดอยู่แค่นี้!
อดีต ผกก.สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส เล่าว่า ก่อนจะไปตนได้ศึกษาประวัติศาสตร์ และดูว่าตำรวจในพื้นที่กับประชาชนเป็นอย่างไร ที่บ้าน บองอ อ.ระแงะ ซึ่งติดกับ ดุซงญอ สมัยก่อนเมื่อรถตำรวจเข้าไป ชาวบ้านจะออกมาล้อม เพราะถูกบ่มเพาะจาก กลุ่มขบวนการ ที่พยายามสร้างความแตกแยก ว่าตำรวจทำไม่ดีกับบรรพบุรุษของเขา จึงเกิดบาดแผลทางจิตใจ แล้วเขาก็พยายามจะตอกย้ำรอยร้าวนี้
“พยายามจะไปแก้ปัญหาตรงนี้ ด้วยความที่เขาเกลียดตำรวจ ผมต้องทำให้รักตำรวจให้ได้ ซึ่งผมสามารถแย่งมวลชนมาได้เยอะ ทั้งชาวพุทธและมุสลิม ผมเขียนเป็นภาษาอาหรับ สะดาดูฮอกระยัติ ติดไว้ที่รถตำรวจ เวลาชาวบ้านเห็นคำว่า ตำรวจของประชาชน ก็รู้สึกปลาบปลื้มไว้เนื้อเชื่อใจ”
ครั้งไปบ้าน ดุซงญอ ได้แยกออกจาก อ.ระแงะ ก่อนแล้ว แต่ก็ไปเยี่ยมชาวบ้านรวมถึงพื้นที่ใกล้เคียง เพราะถูกประวัติศาสตร์บ่มเพาะมานาน เราทำแบบนี้ตลอดจนเป็นที่รู้จัก และอยู่ในใจของชาวบ้าน คนมุสลิมมีทฤษฎีคือปากต่อปาก หลังละหมาดเสร็จก็นั่งกินกาแฟคุยกัน เจ้าหน้าที่รัฐคนไหนทำดีหรือไม่ดี เขาก็กระจายพูดต่อๆ กันไป ทำให้มีแต่คนอยากเจอ ผกก.นพดล แม้จะตกเป็นเป้าหมายก็ตาม
“ผมไปอยู่ไม่ได้แปลว่าเหตุการณ์จะสงบลง แต่ชาวบ้านมองภาพลักษณ์ตำรวจดีขึ้น”
นามขานบริบัตร 5 เล่าต่อว่า โรงพักอยู่ติดกับ รพ.ระแงะ เราจัดตำรวจมุสลิมไว้บริการแต่ไม่มีคนเข้า ขณะที่ รพ.มีคนใช้บริการเยอะแยะ จึงประสานขอบริการส่งเด็กและคนแก่ ที่จะกลับบ้านโดยเฉพาะเขตบองอ และกาลิซา มีตำรวจพยายามห้ามว่าอย่าเข้าไป เพราะเป็นพื้นที่ล่อแหลมและเสี่ยง ตนได้รับบาดเจ็บครั้งแรกก็ที่ระแงะ ก่อนจะเหยียบกับระเบิดปี 2550 ที่ อ.ตากใบ ตอนเป็น รอง ผบก.ภ.จว.นราธิวาส
“ผมยึดถือเดชะพระบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระราชินีในรัชกาลที่ 9 และหลวงปู่ทวดอีก 1 องค์ นี้คือมิ่งขวัญมงคลทั้งยังเป็นแรงผลักดัน คนชั่วทำอะไรผมไม่ได้ และผมก็ไม่ยอมให้มารังแกคนบริสุทธิ์ การเสียสละในหน้าที่สูงสุด คือชีวิตและเลือดเนื้อ และประวัติศาสตร์ก็ได้จารึกผมไว้แล้ว”
ตำนานปลายด้ามขวาน ทิ้งท้ายช่วงใกล้เกษียณว่า หลังจากนี้คงใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไปเป็นจิตอาสาช่วยผู้ที่รับผลกระทบจากเหตุความไม่สงบ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถามว่าทำไมชอบไปอยู่ จ.นราธิวาส เพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบยังคงมีอยู่ เป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์ตั้งแต่ กบฏยุซงญอ ตำรวจที่รักชาติต้องไปอยู่ที่นั้น และตำรวจที่สูญเสียครั้งแรกเมื่อปี 2491 นั้นคือ ตำรวจสยาม
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี