เชื่อว่าคนกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คงเฝ้ารอใช้บริการ รถไฟฟ้า ที่จะทยอยสร้างเสร็จในแต่ละเส้นทาง แม้ใช้ระยะเวลาหลายปีแต่อนาคตเราจะมี ระบบขนส่งทางรางครอบคลุมทุกพื้นที่ และสิ่งที่แลกมากับช่วงเวลานี้คือ ปัญหาการจราจร จากแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า ซึ่งบางถนนเดิมทีจราจรติดขัดอยู่แล้ว เช่น ถนนพหลโยธิน ยิ่งเฉพาะช่วง สะพานใหม่ จะสาหัสสากรรจ์อีก 1-2 ปี ครบเวลาสร้างเสร็จ!

คลี่คลายลงได้ส่วนหนึ่งจากวินัยการขับรถ เคารพกฎจราจร สำคัญคือเทคนิคการบริหารการจราจร ของแต่ละโรงพักว่าสามารถตอบโจทย์ ประชาชน ได้มากน้อยแค่ไหน ขณะเดียวกันผู้เข้าใจความรู้สึกนี้อย่าง พ.ต.ท.จิรวัฒน์อารักษ์รัฐ รอง ผกก.จร.สน.บางเขน พยายามจัดการจราจรโดยอาศัยความเชื่อ การที่รถเคลื่อนตัวได้ตลอดเวลาผู้ใช้รถใช้ถนนจะเครียดน้อยกว่า การที่รถจอดอยู่นิ่งเป็นเวลานาน

“มีประสบการณ์ตอนอยู่ทางด่วน สังเกตว่าทางด่วนส่วนใหญ่รถติดก็จริง แต่สามารถเคลื่อนตัวได้ตลอด จึงนำแนวคิดนี้ใช้กับงานจราจรบางเขน ก็ประสบความสำเร็จส่วนหนึ่ง” บางเขน 6 กล่าว

พ.ต.ท.จิรวัฒน์ หรือ รองโอ๊ะ จบ นรต.รุ่น 49เคยรับตำแหน่ง ผบ.มว.ร้อย ตชด.145 ก่อนลงใต้ติดตาม ผบก.ภ.จว.สตูล ย้ายเข้านครบาลเป็น รอง สวป.สน.บางโพงพาง รอง สวป.สน.บางนา สว.อารักขาที่ 4กก.3 บก.ตปพ. ปัจจุบัน (อคฝ.) สวป.สน.ธรรมศาลา สว.จร.กก.2 (ทางด่วน 1) ขึ้น รอง ผกก.2 (ทางด่วน/ทางพิเศษ) บก.จร. โยกออก รอง ผกก.สส.สภ.บางซ้าย กลับมาเป็น รอง ผกก.จร.สน.บางเขน

รองโอ๊ะ กล่าวว่า บางเขนแต่ก่อนจราจรค่อนข้างติดอยู่แล้ว ปัจจุบันมีปัญหาแนวก่อสร้างรถไฟฟ้า ทั้งสายสีเขียวอ่อนและสีชมพูหายไปฝั่งละ 1 ช่องทาง จะทำอย่างไรไม่ให้รถติดกว่าเมื่อก่อน ตนจัดการจราจรในรูปแบบการลดจุดตัด แต่ละแยกให้มากที่สุด ในช่วงเวลาเร่งด่วนแทบไม่มีไฟแดง เราจะปล่อยผ่านไปตลอด แล้วมีตำรวจจราจรคอยประสานงาน เพื่อเร่งระบายรถท้ายแถวไม่ให้ล้นถนน

ตอนนี้เรามีโจทย์เยอะขึ้นความท้าทายคือ ทำให้ประชาชนผู้ใช้เส้นทางพึงพอใจ โรงพักเดียวไม่สามารถคลี่คลายปัญหาได้ ซึ่ง 50 เปอร์เซ็นต์ มาจากโรงพักเรา อีกส่วนประสานงานโรงพักข้างเคียง เพื่อร่วมแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ถ้าต่างฝ่ายต่างโยนรถให้อีกฝั่งหนึ่ง ไม่มีทางที่รถจะไหลลื่นไปได้ทั้งระบบ ตรงนี้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น พยายามระดมแนวคิดว่า แต่ละช่วงเวลาควรเน้นจุดไหนอย่างไร

“ถนนพหลโยธิน และถนนรามอินทรา ไม่ใช่ถนนรถติดที่สุด แต่ก็เป็น 2 สายที่คนรับรู้ว่ารถติด จากการปฏิบัติมาถือว่า ได้รับการพึงพอใจระดับหนึ่ง ผลตอบรับของประชาชนส่วนใหญ่ชอบ รถสามารถวิ่งได้ตลอดเวลาอาจจะมีหยุดบ้าง แต่ก็ไม่อยากให้จอดอยู่นิ่งนานเกิน1 นาที บางเขนเป็นโรงพักอยู่ชานเมือง ก็เน้นรับรถเข้าไปในเมืองให้มากที่สุด ผมได้ทดลองหลายๆ วิธีสิ่งที่เน้นก็คือการประสานงาน”

พ.ต.ท.จิรวัฒน์ พูดถึงการขับเคลื่อนว่า ยุคนี้เราต้องการทำคนน้อยให้เป็นคนมาก ทุกโรงพักมีปัญหาตำรวจจราจรลดน้อยลง เรามีวิธีการสำหรับช่วยในเรื่องนี้ คือระบบกล้องวงจรปิดตามแยกต่างๆ รวมกว่า 60 ตัว ทั้งในและพื้นที่รอบๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากผู้บังคับบัญชา อย่างน้อยเรารู้ความเคลื่อนไหวของเรา ถ้าอยากรู้ของคนอื่นเราจะต้องมีกล้อง ที่สามารถดูได้ทั้งระบบเพื่อแก้ปัญหาในแต่ละวัน

นอกจากนี้ เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ทัน Socialโดยทำ Facebook, Line ของตำรวจจราจรบางเขน ประชาชนร้องเรียนได้ตลอด 24 ชั่วโมง สิ่งสำคัญอย่างแรกตำรวจเราต้องอธิบาย เรื่องข้อกฎหมายให้ประชาชนชัดเจนและกระจ่าง ตนประชาสัมพันธ์ตลอดว่า ตำรวจจับประชาชนแล้วรู้สึกว่าไม่ถูกต้อง สามารถมาโรงพักคุยกับร้อยเวรสอบสวนได้ ไม่ใช่รับใบสั่งแล้วจบกระบวนการยุติธรรม

เรากำชับลูกน้องให้รู้จักหน้าที่ตนเอง นอกจากจะโบกรถตามวันเวลาแล้วก็เลิก ตำรวจจราจรยังมีภารกิจอีกหลายอย่าง โดยเฉพาะการอำนวยความสะดวก และบริการประชาชนเกิดความพึงพอใจ เราต้องทำด้วยใจไม่ใช่เพราะหน้าที่ แล้วจะมีความสุขกับการทำงาน ถึงแม้ยากลำบากก็เอามาเป็นความท้าทาย เพื่อการทำงานที่ไม่มีความน่าเบื่อ และยังเปิดโอกาสให้ลูกน้องทุกคน เสนอแนวคิดการแก้ไขปัญหา

“เห็นอะไรไม่ปกติต้องรีบไปแก้ไข แสดงให้ประชาชนทราบว่า ตำรวจไม่ใช่มีไว้เพื่อจับอย่างเดียว พูดง่ายๆ เราใช้หลักการลดช่องว่างระหว่างตำรวจ กับประชาชนให้เหลือน้อยที่สุด โดยที่ประชาชนมองว่าตำรวจคือที่พึ่งเมื่อเกิดเหตุ แต่ก็เน้นจับกุมต่อเนื่องสำหรับรถที่สร้างปัญหา”

รอง ผกก.จร.บางเขน และที่ปรึกษาด้านธุรกิจการบิน วัย 45 ปี ชาว กทม. ฝากข้อคิดว่า จราจรเป็นงานที่อุทิศตนให้กับสังคม หลายคนอาจจะมองเราในแง่ลบ แต่สำหรับตำรวจจราจรทุกคนมีความภูมิใจ ที่เป็นส่วนหนึ่งแม้จะทำงานตากแดดตากฝน หรือตื่นเช้ากว่าปกติเพื่อบริการประชาชน ทำงานเหนื่อยแค่ไหนพักก็หาย แต่ว่าเราอย่าไปสร้างปัญหาให้หนักใจ เพราะว่าพักยังไงมันก็ไม่หายเหนื่อย… 

ธีรภัทร์ พนาลี