ภายหลังคำสั่งแต่งตั้งโยกย้ายวาระประจำปี 2561ชื่อของ พ.ต.อ.จิรภพ ภูริเดช รอง ผบก.ป.คนหนุ่มรุ่นใหม่ ก็ผงาดขึ้นรักษาราชการแทน ในตำแหน่ง ผบก.ป.หรือ “ผู้การประเทศไทย” อันเป็นตำแหน่งระดับผู้บังคับการที่ว่ากันว่า เปรียบเสมือน ผบ.น้อย เพราะมีอำนาจจับกุมทั่วราชอาณาจักร ประกอบกับชื่อเสียงของหน่วยงานอาร์มสวยแห่งนี้เป็นที่โจษขาน ยอมรับกันมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
พ.ต.อ.จิรภพ หรือ “ผู้การก้อง” นับเป็น รรท.ผบก.ป.คนที่ 36 รับไม้ต่อจาก พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ที่โยกไปเป็น ผบก.ปอศ.สำหรับ พ.ต.อ.จิรภพ ถือว่าเป็น ผบก.ป.ที่มีอายุน้อยที่สุด ในหน้าประวัติศาสตร์ของผู้ที่ดำรงตำแหน่งหน่วยงานที่พึ่งสุดท้ายแห่งนี้ แต่ชื่อชั้น ฝีไม้ลายมือนั้นเกินอายุ เป็นที่ยอมรับ เรามาดูวิสัยทัศน์ และนโยบายการทำงานของ รรท.ผบก.ป.ใหม่เอี่ยมถอดด้ามรายนี้กัน
พ.ต.อ.จิรภพ เผยว่า ได้มอบนโยบายให้กับผู้ใต้บังคับบัญชาไปแล้ว ตั้งแต่วันที่เข้ารับมอบตำแหน่ง โดยเน้นการสะสางคดีที่อุกฉกรรจ์สะเทือนขวัญ เราก็จะลงไปก็จะทำทุกคดี และร่วมกับท้องที่ เราไม่เป็นพระเอกคนเดียว ก็บอกกับลูกน้องว่าเราจะสร้างตำนานกองปราบฯ ไปด้วยกัน เราเน้นทำงานกันเป็นทีม
“มอตโต้ของกองปราบฯ คือ มืออาชีพ เป็นกลาง และเคียงข้างประชาชน ความเป็นมืออาชีพ ก็คือ เราต้องมีความรู้ความสามารถ เช่น ในด้านการสืบสวนสอบสวน มีการฝึกฝนตลอด มีการตั้งโรงเรียนสืบสวนกองปราบฯ ทำให้มีการพัฒนาขีดความสามารถของฝ่ายสืบสวน แล้วก็มีการพัฒนาเครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์ที่ทันสมัยต่างๆ มีการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล ศูนย์วิเคราะห์ เพื่อที่จะได้ใช้ทำงาน เราต้องมีศักยภาพที่เรียกได้ว่า สูงสุด ทันโจรแข่งกับโจรตลอดเวลา ต้องทำได้ทุกอย่างที่สากลเขาทำกันได้”
ผู้การก้อง ระบุอีกว่า ด้วยประสบการณ์และด้วยการทำงานเป็นทีมเวิร์ก เราแบ่งกองกำกับการออกไปตามพื้นที่ต่างๆ ก็จริง แต่เวลามีงานที่ต้องระดม ต้องแห่ เราก็ให้กองกำกับการเจ้าของพื้นที่
เป็นเจ้าภาพ แต่กองกำกับการอื่นก็จะไปร่วม ส่วนกองกำกับการสนับสนุน ซึ่งเป็นตั้งขึ้นมาใหม่ ก็รับหน้าที่เตรียมกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ เครื่องไม้เครื่องมือ ผสมผสานกับแนวทางสืบสวนทั้งเดินดิน ทางอากาศ คือใช้เทคโนโลยี มุ่งให้งานสัมฤทธิผล
“ทุกๆ เคสที่เราทำ จะสามารถตอบคำถามสังคมได้ ต่อไปนี้เรามีความโปร่งใส คือเราทำอะไร ต้องเป็นกลาง โปร่งใส ไม่เข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เมื่อรับงานมาแล้ว สบายใจได้เลยว่ากองปราบฯจะทำงานเต็มที่ และทำอย่างยุติธรรม ไม่กลั่นแกล้งใคร ทำอย่างตรงไปตรงมา ทุกอย่างมีเหตุผล ต้องตอบได้ว่าผู้ที่ถูกจับกุมกระทำผิดอย่างไร ข้อหาอะไร ต้องอธิบายได้หมด ต่อไปเวลาจะไปตรวจค้นจะมีกล้องบันทึกไว้ตลอด”
พ.ต.อ.จิรภพ ยืนยันหนักแน่นว่า ไม่มีอิทธิพลใดๆ มาบีบเราได้ และหน่วยเราไม่เกรงกลัวอิทธิพลอยู่แล้ว กรณีถ้ามีกลุ่มอิทธิพลที่ใด แล้วท้องที่ไม่กล้าทำ เราจะเข้าไป จะโดนกดดันอย่างไร ก็ไม่กลัว เพราะศักยภาพเราทำได้ เราเป็นกองปราบฯ ต้องหาญกล้า ท้าทายเหล่าร้าย อาชญากรที่เป็นภัยคุกคามชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน คงมีหลายๆ เคส ที่คนร้ายอาจมีนักการเมือง หรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง แต่เราก็จะพิสูจน์ให้เห็นว่าเราไม่เกรงกลัว ไม่ว่าฝ่ายไหนเราทำงานตรงไปตรงมา
ผู้การก้อง เผยถึงการจัดกำลัง ว่าหลักการของตนก็คือ ผกก.ต้องเก่ง ดี ขยัน เป็นสเปกที่ว่า เก่ง คือมีความสามารถ ดี ก็คือเป็นคนดีมีคุณธรรม ขยันก็คือตั้งใจทำงาน ไม่จำเป็นต้องรู้จักตนมาก่อน วัดกันที่ผลงาน ทำให้เห็น เปรียบเสมือนเราต้องสร้างแบรนด์กองปราบฯ ให้ดี ให้เป็นที่ยอมรับเชื่อถือศรัทธา
ด้านการพัฒนาหน่วย พ.ต.อ.จิรภพ ระบุว่า ก็มีการฝึกอบรมพัฒนาบุคลากรเป็นระยะ อย่างโรงเรียนสืบสวนกองปราบฯตนก็เป็นผู้ตั้งขึ้นมา เพื่อพัฒนาบุคลากร เช่นชั้นประทวน บางคนอาจไม่มีความสามารถในเรื่องของการตรวจสอบข้อมูล การใช้เทคนิคการสืบสวน เราก็จะอบรมให้สามารถทำได้ทุกนาย มี 2 ระดับ คือ ขั้นพื้นฐานกับขั้นสูง และจะมีการถ่ายทอดความรู้ให้กับตำรวจนอกหน่วยด้วย
อีกประเด็นก็คือเรื่องการจัดทำศูนย์ข้อมูล ให้ชื่อว่า “เรียลไทม์ไคร์มเซ็นเตอร์” เพราะการบริหารข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ เราตั้งศูนย์นี้เพื่อแสวงหาความร่วมมือทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยในส่วนของเอกชน เราก็ช่วยเหลือเขาในส่วนที่ตำรวจเราทำได้ หน่วยงานภาครัฐมีข้อมูลก็ส่งมาไว้ในถังข้อมูลของเรา เพื่อวิเคราะห์ และนำไปใช้งานได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ
“ภูมิใจที่ได้มารับตำแหน่งนี้ แต่อีกส่วนหนึ่งก็รู้ว่าเป็นภาระหน้าที่ซึ่งต้องแบกไว้สองบ่า เราจะต้องนำหน่วยโดยพัฒนาให้มันดียิ่งๆ ขึ้นไป ก็คิดว่าจะเอาผลงานเป็นเครื่องพิสูจน์ ก็จะทำให้ดีที่สุด แต่ผมคนเดียวทำไม่ได้ต้องทำด้วยกันทั้งทีม” พ.ต.อ.จิรภพ กล่าว
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี