ภายหลังจาก พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. เข้ารับตำแหน่งได้มอบนโยบายแก่ตำรวจ บช.น. โดยเน้นหนักเรื่องการแก้ไขปัญหาจราจร กลางวันจะกวดขันจับกุมจอดรถกีดขวาง ส่วนกลางคืนเน้นการตั้งด่านตรวจเมา ด่านความมั่นคง เพื่อป้องกันปราบปรามผู้ใช้อาวุธ และคิดจะก่อเหตุในยามวิกาล พร้อมย้ำหากภัยใดเกิดขึ้นกับ ปชช.บ่อยครั้ง เช่น ลักทรัพย์ ควรหามาตรการแก้ไขอย่างจริงจัง
พล.ต.ต.สุคุณ พรหมายน รรท.รอง ผบช.น. รับมอบหมายจาก รรท.ผบช.น. ดูแลงานด้านป้องกันปราบปราม (ปป.) เป็นภารกิจสุดท้าทายจะทำอย่างไร กรุงเทพมหานคร ไม่มีเหตุอาชญากรรมหรือลดลงจากเดิม ไม่ยากเกินสำหรับอดีตลูกหม้อนครบาล แม้ช่ำชองงาน สอบสวน แต่เคยสัมผัสครบทุกสายงานจึงมีความสามารถหลายด้าน เขามีแนวคิดนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยป้องกันปราบปรามเหตุ
ย้อนประวัติ พล.ต.ต.สุคุณ จบ นรต.รุ่น 38 เริ่มรับราชการเป็น รอง สว.(สอบสวน) สน.ปทุมวัน และ สน.บางรัก ย้ายสายมา รอง สว.สส.สน.พลับพลาไชย 2 สว.(สอบสวน) สน.บางโพงพาง สว.สส.สน.พระราชวัง สวป.สน.ทองหล่อ นายเวรอดีต ผช.ผบ.ตร. รอง ผกก.สส.สน.ทองหล่อ และ สน.ท่าเรือ ขึ้น ผกก.สน.คลองตัน ผกก.ฝอ.5 บช.น. ผกก.สน.พระราชวัง รอง ผบก.น.5 รอง ผบก.น.1
รองหนุ่ม วัย 55 ปี บอกว่า หลังจากขึ้น ผบก.น.3 ได้โยกไปเป็น ผบก.ภ.จว.อ่างทอง ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี รอง ผบช.ภ.3 และกลับเข้ามาเป็น รอง ผบช.น. ถือว่ามีโอกาสเห็นการทำงานของทั้ง 2 หน่วย ซึ่งเป็นนครบาลที่งานและภารกิจหนักกว่า จริงแล้วคนอยู่ภูธรไม่อยากจะกลับเข้ามา ถ้าคิดในแง่ทำงานหนักและเรื่องสุขภาพ จิตใจ แต่ถ้าความท้าทายแน่นอนว่าต้อง นครบาล ที่เราจะมาพิสูจน์กัน
“กระดาษแผ่นเดียวกันที่ทาง ตร.ส่งมาให้ สมมุติเรื่องการระดมกวาดล้างสุดท้ายงานต่างกัน นครบาลต้องทำทุกอย่างในเรื่องเดียวกันทั้งหมดด้วยเวลาที่จำกัด ปัญหาอุปสรรคเยอะกว่า คนขาดแคลนพอๆ กัน ภาระมีแต่ทวีคูณจากความเจริญของบ้านเมือง การแบกรับและการตรวจสอบจึงมีสูง”
ความยากนั้นคือปัญหาหลายๆ เรื่องเกิดขึ้นใน กทม.ยกตัวอย่างคนเร่ร่อน จรจัด และขอทาน ที่ตนรับผิดชอบอยู่หรือปัญหาอื่นๆ ที่ต่างจังหวัดไม่มี ทุกคนมุ่งหน้าเข้ามาล่าฝันแสวงหางานทำ บางส่วนตกงานบวกกับค่าครองชีพสูงขึ้น จึงทำให้สังคมเมืองอาชญากรรมสูงขึ้นตาม ตรงนี้ตนเล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยี เพื่อทดแทนกำลังพลที่ขาดแคลนไป ซึ่งตำรวจส่วนใหญ่ขอกลับต่างจังหวัด
ขณะที่ปริมาณงานเพิ่มมากขึ้น และปัญหาอุปสรรคมีอยู่เหมือนเดิม การทำงานทุกอย่างจะตรวจค้นหรือจับกุมมีทั้งเรื่องข้อกฎหมาย และคนที่อาจจะทำให้งานไม่ราบรื่น คนต่างจังหวัดพูดง่ายส่วนคนกรุงมีความรู้ เราต้องใช้ศิลปะ รู้ข้อเท็จจริง และข้อกฎหมายอย่างชัดเจน ฉะนั้นปัญหามันยากขึ้นหลายเท่าแน่นอน โจทย์เราคือทำอย่างไรไม่ให้มีอาชญากรรม ภายใต้อุปสรรค ขวากหนาม ที่เกิดขึ้นเหล่านี้
นโยบายในการป้องกันปราบปรามคิดว่า ต้องนำเทคโนโลยีเข้ามาสู่การทำงานมากขึ้น เช่น ตอนนี้ทาง ตร.ได้มีวิทยุรุ่นใหม่สำหรับแก้ปัญหาเดิมๆ เป็นการควบคุมสายตรวจหรือผู้ใช้วิทยุ สามารถรู้จุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ รถสายตรวจ เพื่อการส่งกำลังไปสกัดป้องกันเหตุ รวมถึงการติดต่อสื่อสารจากเดิม เยิ่นเย้อ เสียเวลาก็เปลี่ยนเป็น Digital 4.0 และการตรวจตู้แดงจากสมุดจดมาเป็นระบบ QR Code
“ส่วน Police i lert u ที่นายกรัฐมนตรีแนะนำประชาชนไปใช้ อันนี้ก็เป็นประโยชน์ทุกคนควรจะมี Application ตัวนี้ เพื่อกรณีเกิดเหตุสามารถกดใช้ แล้วตำรวจสามารถระงับเหตุได้ทันท่วงที”
น.1-2 กำชับการทำงาน 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.รอบคอบ ใช้ยุทธวิธีไม่ใช่เข้าสุ่มสี่สุ่มห้าแล้วโดนสวนกลับมา 2.รัดกุม มีการวางแผน กำหนดทิศทาง และภารกิจให้ถูกต้อง และ 3.รวดเร็ว ทำงานในกรอบเวลาที่กำหนด สายตรวจควรถึงที่เกิดเหตุไม่เกิน 10 นาที รวมทั้งมีบทบาทป้องกันหรือสกัดกั้นการหลบหนีของคนร้าย ตนมองว่ายุคสมัยนี้ตำรวจต้องเป็น มืออาชีพ และทำงานด้วยความรวดเร็ว
ตำแหน่ง รอง ผบช.น.ในด้านที่ตนรับผิดชอบมีความตั้งใจว่า การป้องกันปราบปรามในนครบาลจะได้ผลยิ่งๆ ขึ้น ไม่เฉพาะสถิติที่เกิดขึ้น แต่จากของจริงที่ไม่ได้ถูกแจ้งความ ถ้าเราสามารถป้องกันเหตุได้จะเป็นสิ่งดีที่สุด ฉะนั้นงานป้องกันปราบปรามท้าทายที่ ไม่ให้มีเหตุเกิด ถ้ามีการวางแผนดี ทั้งการตั้งจุดตรวจหรือการแสดงตนให้เห็นเด่นชัด เชื่อว่า กทม.เป็นเมืองที่น่าอยู่โดยสงบสุขและปลอดภัย
“ทำงานใน บช.น.จะใกล้ชิดกับกลุ่มคนจำนวนมาก ล้วนต้องเผชิญผลกระทบอะไรหลายๆ อย่าง ผมเห็นความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนเป็นฐานที่ตั้ง เพื่อเข้าไปแก้ปัญหาให้เขาซึ่งมันคือแรงบันดาลใจ อยากให้ผมทำงานตรงตามหน้าที่ของเราต่อไป” รรท.รอง ผบช.น. ชาวกรุงเทพฯ กล่าว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี