เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ตอบคำถามนักข่าว ปมเกี่ยวกับการปลดล็อกกัญชา ที่มีประเด็นเรื่องสิทธบัตรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ระบุว่า การปลดล็อกเพื่อนำพืชกัญชามาใช้ทางการแพทย์นั้น ขณะนี้ยังมีสิ่งที่ต้องคิดและเร่งดำเนินการกันหลายอย่าง คือ ปัญหาต้องมีการรับรองมาตรฐาน ทั้งในเรื่องของยาที่ทำจากกัญชา
ระบุว่า ถ้าเราผลิตออกมาแล้วมีการทดสอบในการใช้งานกับคนได้แล้ว เราก็สามารถจะเอากัญชาไทยมาผลิตเป็นยารักษาโรคได้ แต่ทั้งนี้เราไปตรงนั้นได้หรือยัง ก็ต้องถามคนที่คิดค้น คือ แพทย์และนักวิจัยต่างๆ เพื่อนำกัญชาไทยมาสู่การผลิตเป็นยารักษาโรค เรายังทำไม่ถึงขั้นตอนตรงนั้นหรือเปล่า ส่วนเรื่องการขอจดทะเบียนลิขสิทธิ์ ถ้าเป็นกัญชาของเขา เขาผลิตของเขามาแล้วเป็นยา เราจะไม่ขึ้นทะเบียนได้หรือไม่ กำลังพิจารณาอยู่ทั้งหมด ไม่ใช่ว่าเราหวังแต่เพียงว่ากัญชาพอจะปลดล็อกได้ ก็ปลดให้ทั้งหมดเลย แล้วไม่ให้ใครมาจดลิขสิทธิ์ได้เลย
“กัญชาไทยก็คือของกัญชาไทย ส่วนกัญชาต่างประเทศก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่สิ่งสำคัญอยากให้คำนึงถึงคนที่เป็นโรคภัยไข้เจ็บวันนี้จะทำอย่างไร เขาเสียโอกาสหรือเปล่า เขาจะเสียชีวิตไหม เพราะรอของเราอย่างเดียว เพราะฉะนั้นต้องคิดให้ถี่ถ้วน ตนยังไม่ตอบว่า ได้หรือไม่ได้อะไรทั้งสิ้น อย่าไปมองประโยชน์จนลืมเรื่องขั้นตอนว่า เป็นอย่างไร ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้ยาเหล่านี้ ก็ต้องมองให้ครบทั้งระบบ นายกฯ กล่าว
1. ประเด็นที่นายกรัฐมนตรีกล่าว มีความสำคัญมาก จะต้องคิดให้ถี่ถ้วน
จะต้องไม่ให้การปลดล็อกกัญชา กลายเป็นการเตะหมูเข้าปากบริษัทค้ายาต่างประเทศ
แต่จะทำอย่างไรให้คนป่วยที่ต้องการใช้ยาจากกัญชาในไทย สามารถเข้าถึงยาได้ และยานั้นต้องมีคุณภาพมาตรฐานด้วย
2. หากห้ามต่างชาติจดทะเบียนยาที่สกัดจากกัญชา ตามสูตรต่างชาติ หรือกีดกันอย่างหนึ่งอย่างใด จะเข้าข่ายถูกฟ้องร้องฐานกีดกันการค้า หรือไม่ จะแก้เกมอย่างไร ก็เป็นเรื่องที่ควรคิดเตรียมการไว้
ฝ่ายที่สนับสนุนให้ปกป้องผลประโยชน์ของคนไทยเอง ก็ควรจะสนับสนุนการตัดสินของนายกฯ หากมีเจตนาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของคนในชาติ แล้วในภายหลังถูกฟ้องร้องเล่นงาน (เหมือนกรณีเหมืองทองคำ)
มิใช่พอนายกฯ ใช้อำนาจปกป้องคนในชาติ แต่พอถูกต่างชาติเล่นงาน คนในชาติเองกลับหันมาต่อว่านายกรัฐมนตรีของประเทศตัวเอง แบบนี้ก็ใช้ไม่ได้
3. หน่วยงานภาครัฐเอง ควรสำเหนียกว่า นี่คือวาระแห่งผลประโยชน์ของคนไทยส่วนรวมทั้งประเทศ
มิใช่โอกาสทองทางธุรกิจของใครคนใดคนหนึ่ง
กรมทรัพย์สินทางปัญญา มีหน้าที่ปกป้องคนไทย ปกป้องผลประโยชน์ชาติไทย อย่าปล่อยให้ต่างชาติจองคิวรอเขมือบสิทธิบัตรสูตรยาสารสกัดกัญชาไปจนคนไทยไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้จริง
4. ขอฝากให้ท่านผู้เกี่ยวข้องในเชิงนโยบายเรื่องกัญชาทุกมิติ ลองอ่านและพิจารณาข้อมูลและความเห็นของนพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ในเฟซบุ๊ค Thiravat Hemachudha ระบุว่า
“...ถ้าเด็กวัยรุ่นเกิน 18 ปี 5-6 คน นั่งกินเหล้าเมาในบ้าน ไม่ได้เอะอะระราน ส่งเสียงอาละวาด
กับเปลี่ยนเป็นจับกลุ่มกันสูบบุหรี่
กับเปลื่ยนเป็นจับกลุ่มกันสูบกัญชา โดยไม่ได้ระคายเคืองต่อใคร ต่อคนรอบข้าง
คำถาม แล้วทำไมต้องจับกัญชา
ถ้าจับ จับเพราะอะไร
เพราะ เช่นนี้หรือ?
1-เพราะเป็นห่วงสุขภาพ คนสูบหรือ ?
ถ้าเป็นห่วงสุขภาพแล้วทำไมจับไปเข้าคุก ปรับเงิน
ถ้าเป็นห่วงสุขภาพ ประหลาด เพราะบุหรี่และเหล้ามีอันตรายมากกว่ากัญชามหาศาล
2- เพราะกลัวติดหรือ?
ถ้ากลัวว่าคนนั้นๆ เด็กนั้นๆ จะติด แล้วทำไมต้อง จับ ปรับ ทำให้เสียอนาคตไปเลยหรือ
มิหนำซ้ำ ความเสี่ยงในการติดกัญชาน้อยกว่าบุหรี่ เหล้า และกัญชาในอีกส่วนของสารประกอบกลับช่วยรักษาติดยาเสพติดอื่นๆได้ด้วย
3-เพราะกลัวจะมีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงอันตรายหรือ?
ก็ถ้าเป็นเช่นนั้น กฎหมายของคนขับรถ กินเหล้า หรือก่อเหตุระคายสังคม ก็มีอยู่แล้ว
ถ้าโทษมากกว่าขับรถกินเหล้า ต้องมีเหตุผล กระบวนการทางหลักฐานมากกว่านั้น
สรุป กฎหมาย กัญชา ที่มีการเอากระท่อมเข้ามา เพื่ออะไรเพื่อใคร?
เพราะห่วงสุขภาพ คนไทย หรือ
เพราะห่วงจะเป็นสังคมเฉื่อยชา หรือ
ก็ในเมื่อ เหล้า บุหรี่ ถูก กม. และร้ายแรงกว่า
กระบวนความคิดเรื่องยาเสพติดต้องควบรวมหลักฐานเรื่องสุขภาพ กลไกการติด ความร้ายแรง (จริงหรือ?) และได้บทสรุปตรงกัน และแก้กระบวน ประกาศ พ.ร.บ. และอื่นๆมากหลายให้เป็นเรื่องเดียวกันในพริบตา ย้ำในพริบตา ถ้าดูเรื่องวิทยาศาสตร์ เป็นหลัก
ไม่ใช่ว่าตามนั่นนี่
คนที่ควรจะได้ประโยชน์จากกัญชา (พืชแห่งความเมตตา) กระท่อม (พืชทรหด) กลับขาดโอกาส
กระท่อมไม่ช่วยให้ยกระดับไปยาบ้า
เบียร์กัญชา THC ต่างประเทศ ก็เท่ากับเบียร์แอลกอฮอล์ ที่คนทำผิดกฎ เช่น กฎจราจร ก็ผิด กม.
กัญชา พืชของแผ่นดิน ย้ำ ย้ำ ย้ำ เพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพ เมื่อใช้ให้ถูก เพื่อในการรักษา ชะลอโรค และคุณภาพชีวิต คนไทยต้องได้ใช้โดยไม่มีการค้ากำไร
ถ้าเอาไปเสพ เพื่อความสนุก ต้องเอาไปเข้าคุก เสียค่าปรับมหาศาล ถูกต้องแล้วหรือ?
มันต้องมีอะไรบ้าง ที่คนไทยมี โดยไม่ต้องถูกเอารัดเอาเปรียบ โดยเฉพาะจากบริษัทยาข้ามชาติ ที่แห่เข้ามาหัวกะไดไม่แห้ง
ถ้ารู้ว่าข้าราชการ นักการเมือง เอื้อประโยชน์ให้
คนไทยทั้งประเทศต้องทำอะไรครับ?”
5. เข้าใจว่าการปลดล็อกกัญชาต้องค่อยเป็นค่อยไป แต่จะต้องไม่เตะหมูเข้าปากหมา
เมื่อคลายล็อกหรือปลดล็อกแล้ว จะต้องทำให้คนไทยส่วนรวมได้ผลประโยชน์ มิใช่แค่กลุ่มธุรกิจบางกลุ่ม
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี