“...ถ้าทุจริตแม้แต่นิดเดียว ก็ขอแช่งให้มีอันเป็นไป พูดอย่างนี้หยาบคาย แต่ว่าต้องให้มีอันเป็นไป แต่ถ้าไม่ทุจริต มีความสุจริตและตั้งใจ มุ่งมั่นสร้างความเจริญก็ขอต่ออายุให้ถึง 100 ปี ใครมีอายุมากอยู่แล้ว ก็ขอให้แข็งแรง ความสุจริตจะทำให้ประเทศพ้นอันตราย...”
พระบรมราโชวาทของ ร.9 ที่ทรงให้ไว้เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2546 แก่ผู้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ ขอนำมาเป็นเครื่องเตือนใจบรรดาผู้ที่กำลังจะเข้าทำหน้าที่ทั้งในฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ทั้งหลายในขณะนี้
ทุกคนกำลังมีอำนาจและใช้อำนาจที่มีอยู่ตามหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติ การใช้อำนาจอย่างไม่ลืมหูลืมตาในบ้านเมืองนั้น ล้วนแต่สร้างปัญหาให้กับส่วนรวม และสร้างปัญหาความขัดแย้งให้เกิดขึ้นอีกได้ตลอดเวลา อย่างที่มีคำกล่าวที่ว่า “อำนาจชวนให้โกงเงิน ถ้าอำนาจล้นแผ่นดิน ก็จะโกงกินกันจนสิ้นชาติ” นั่นเอง
อย่ามัวไปทำเรื่องที่ไม่เป็นเรื่องตามใจชอบ เพราะถือว่ามีอำนาจแล้วก็ทำอะไรก็ได้ ขอให้นึกตลอดเวลาว่าจะทำอะไรต้องยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ว่าพวกเขาทั้งหลายที่เลือกตัวเข้ามาทำงานในหน้าที่นั้น พวกเขาต้องการอะไร และกำลังมีชีวิตอยู่อย่างไร
โดยเฉพาะในเรื่องสำคัญๆดังนี้
1.ความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยคนจนขยายตัวมากขึ้น
2.มหาเศรษฐีมีเพิ่มขึ้นจากที่ร่ำรวยอยู่แล้วไม่กี่ราย แต่คนไทยส่วนใหญ่ในประเทศยังอยู่ใต้เส้นความยากจน
3.คนไทยมากกว่า 3 ใน 4 ไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดิน
4.คนไม่มีงานทำเพิ่มขึ้น ขยายตัวเพิ่มขึ้นตามลำดับ
เพียง 4 เรื่องของปัญหาดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการบริหารจัดการบ้านเมืองของคนมีอำนาจที่ผ่านมายังทำงานกันอย่างไม่ได้เรื่อง จะปล่อยให้เป็นอย่างนี้อีกหรือ
การสืบต่ออำนาจของคนบางคน ถ้ายังทำงานกันอย่างเดิมๆที่ผ่านมา ก็เห็นจะกล่าวได้ว่าประเทศชาติและประชาชนต้องตกอยู่ในสภาพเดิมๆ หรืออาจจะแย่ลงไปกว่าเดิมก็ได้ โดยเฉพาะในเรื่องการใช้อำนาจไปในทางไม่ซื่อสัตย์สุจริต คดโกงกันต่อไปตามความอยาก ตามความต้องการของคนมีอำนาจ
ความวุ่นวายในบ้านเมืองก็จะเกิดขึ้นอีก
โดยเฉพาะจากประชาชนที่แม้จะหดหู่ใจแต่ไม่ยอมหดหัว
จะเกิดเหตุการณ์รุนแรงจากการลุกขึ้นสู้ของผู้คน
ความขัดแย้งที่รุนแรงทางการเมืองที่จะขยายตัวสู่สังคมภายนอก มีความเป็นไปได้สูง และมีโอกาสขยายตัวสู่ความรุนแรงและยึดเยื้อ
การเรียกร้องทางการเมืองเป็นธรรมชาติของสังคมก็จริง แต่ความรุนแรงที่จะเกิดขึ้นในรูปแบบต่างๆ ต่อไปนี้ก็ต้องถึงระมัดระวังด้วย การใช้ความรุนแรงต่อประชาชนมือเปล่า เป็นการปฏิบัติการที่ไม่ชอบ และสังคมไม่ยอมรับ แม้กระทั่งต่างประเทศที่เห็นว่า ทำไมประเทศที่บอกว่ามีการปกครองตามระบอบประชาธิปไตย จึงมีการใช้อำนาจที่รุนแรงและโหดเหี้ยมต่อประชาชน
ผู้มีอำนาจต้องรับฟังคำแนะนำ หรือคำเตือนจากผู้อื่นให้มากในเรื่องอย่างนี้ เพราะอดีตที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่ดีว่าผลสุดท้ายแล้วผู้มีอำนาจต้องประสบอย่างไร
ประเทศไทยมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตยมาเป็นเวลายาวนาน ผู้มีอำนาจทั้งหลายจึงน่าพัฒนาตนเองให้รู้จักความยืดหยุ่น ต่อความต้องการของประชาชนในบ้านเมือง จะได้ทำให้เกิดความสันติสุขร่วมกัน อย่าทำให้ประชาธิปไตยต้องกัดกร่อนตัวเอง
การเมืองที่มีลักษณะเผด็จการ เอื้อต่อการผูกขาดอำนาจ สืบทอดอำนาจ ไร้ซึ่งคุณค่าและศักดิ์ศรี ไม่เปิดกว้างต่อการแข่งขันอย่างตรงไปตรงมา ไม่หาวิธีการใดๆในการได้อำนาจอย่างไม่ถูกต้องชอบธรรมตามระบอบประชาธิปไตย คือการแข่งขันที่เป็นธรรม
อย่าคิดว่าต้องเป็นรัฐบาลอย่างเดียวจึงจะทำงานได้ เพราะแม้จะเป็นฝ่ายค้านก็ทำงานได้ด้วยเช่นเดียวกัน ด้วยการตรวจสอบ ติดตาม หรือการชี้แนะ
ข้อเรียกร้องใดๆทางการเมืองของประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน หรือความกังวลใจในการดำรงชีวิตประจำวันในเรื่องของความเป็นอยู่ ในการทำมาหากินที่ยากลำบาก อย่างที่กำลังประสบอยู่ในขณะนี้ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใส่ใจและดำเนินการแก้ไข
ใครก็ตามที่กำลังเข้ามามีอำนาจในการบริหารประเทศหลังการเลือกตั้งครั้งนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องหยุดวิฤกติต่างๆที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองให้ได้ อย่ามัวแต่คิดเห็นว่าทำอย่างไรจึงจะมีอำนาจที่ยาวนานต่อไป
ให้คำตอบต่อประชาชนให้ได้ว่าทางออกยังมีอยู่ด้วยการดำเนินการที่ถูกต้อง
ถ้าไม่เป็นอย่างนี้ บ้านเมืองก็ล้มเหลวต่อไป
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี