รัฐบาลโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประกาศจะตั้งศูนย์เฟคนิวส์เซ็นเตอร์ โดยกำหนดว่าจะตั้งภายในสามเดือนนับจากวันให้ข่าวโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เมื่อข่าวนี้ปรากฏออกมาก็ทำให้สาธารณชนโดยเฉพาะกลุ่มวิญญูชนตั้งคำถามว่า จริงหรือ แล้วกระทรวงดิจิทัลฯ ยืนยันใช้ชื่อศูนย์เฟคนิวส์เซ็นเตอร์ (Fake News Center) จริงๆ หรือ
ก่อนอื่นต้องถามกลับไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ ว่า Fake News Center แปลว่าอะไร กรุณาตอบให้กระจ่างด้วยครับ ขอถามย้ำว่าคำนี้แปลว่าอะไร แล้วคุณพุทธิพงษ์ยังยืนยันใช่หรือไม่ว่าจะยังคงใช้ชื่อศูนย์เช่นนี้จริงๆ
ถ้าวิญญูชนและผู้เขียนเข้าใจไม่ผิด ทุกคนต่างก็เข้าใจตรงกันว่ารัฐบาลต้องการตั้งศูนย์ต่อต้านการจงใจให้ข่าวลวง ข่าวเท็จ ดังนั้น จึงขอถามย้ำว่ารัฐบาลต้องการต่อต้านข่าวลวง ข่าวปลอม และข่าวเท็จที่ส่งผลกระทบด้านลบอย่างร้ายแรงต่อสังคม และต่อรัฐบาลใช่หรือไม่ และด้วยเหตุนี้ รัฐบาลจึงคิดตั้งหน่วยงานขึ้นมาเพื่อลบล้างหรือต่อสู้กับข่าวเท็จ ข่าวลวง ข่าวปลอม แต่ทว่าเท่าที่ดูชื่อศูนย์แล้ว กลับกลายเป็นเสมือนว่า รัฐบาลกำลังตั้งหน่วยหรือศูนย์ข่าวเท็จขึ้นมาเสียเอง เพราะไม่มีตรงไหนที่ระบุในชื่อว่าเป็นศูนย์ต่อต้านข่าวลวงหรือข่าวเท็จ จึงขออนุญาตแนะนำว่าควรจะต้องเปลี่ยนชื่อศูนย์ให้บ่งบอกโดยชัดเจนว่าตั้งขึ้นมาเพื่อต่อต้านข่าวลวง
ส่วนประเด็นสำคัญของการต่อสู้กับข่าวลวง ข่าวเท็จ คือการที่รัฐบาลจำเป็นจะต้องให้ข่าวจริงกับสาธารณชนตลอดเวลา และต้องให้ข่าวอย่างเท่าทันกับสถานการณ์ โปรดอย่าลืมว่ารัฐบาลมีเครื่องมือและช่องทางการให้ข่าวสารที่ดีที่สุดในประเทศนี้ เพราะรัฐบาลเป็นผู้ควบคุมกิจการของสถานีวิทยุหลายร้อยคลื่น ทั้งของกองทัพและของหน่วยงานราชการอื่นๆ รวมถึงสถานีโทรทัศน์อีกทั้งสองช่อง คือ ช่อง 9 อสมท และช่อง 11 กรมประชาสัมพันธ์ แต่ปัญหาสำคัญอยู่ที่รัฐบาลมีความสามารถให้ข่าวที่ทำให้ประชาชนเชื่อถือได้หรือไม่ รัฐบาลต้องไม่ลืมว่าถึงแม้รัฐบาลจะควบคุมช่องทางการกระจายเสียงและแพร่ภาพไว้ในกำมือ แต่ถ้าหากให้ข้อมูลที่ไม่น่าสนใจ และไม่มีความชัดเจนเพียงพอ สาธารณชนก็ไม่มีวันบริโภคข่าวนั้น และไม่เชื่อถือข่าวเหล่านั้นด้วย
ดังนั้นการจะตั้งศูนย์หรือหน่วยงานใดๆ ขึ้นมาเพื่อตอบโต้กับการจงใจให้ข่าวเท็จก็คือ รัฐบาลต้องมีชื่อของศูนย์ที่บ่งบอกว่าเพื่อต่อต้านตอบโต้กับข่าวเท็จ ไม่ใช่ตั้งชื่อว่าศูนย์ข่าวเท็จ เพราะจะเท่ากับรัฐบาลเป็นผู้ให้ข่าวเท็จเสียเอง แต่ที่สำคัญที่สุดมากกว่าชื่อของศูนย์ก็คือ รัฐบาลต้องเป็นผู้ให้ข่าวจริงกับสาธารณชน ขอย้ำว่าต้องให้เฉพาะข่าวจริงเท่านั้น หากรัฐบาลเป็นผู้ปล่อยข่าวเท็จเสียเอง ก็เท่ากับรัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนให้เกิดข่าวเท็จขึ้นในสังคมนี้
หวังว่ารัฐบาลคงไม่ถามกลับว่า แล้วรัฐบาลต้องให้ข่าวแบบไหนกับประชาชน จึงจะทำให้ประชาชนไม่ตกเป็นเหยื่อของข่าวเท็จ ก็ต้องบอกว่าข่าวที่สาธารณชนต้องการจากปากของรัฐบาลคือ ข่าวจริงที่มีที่มาที่ไปชัดเจน มีหลักฐานประกอบยืนยัน สามารถตรวจสอบได้ และเป็นเรื่องที่ประชาชนสามารถสืบค้นความจริงได้ตลอดเวลา ถ้ารัฐบาลทำได้เช่นนี้ รับรองว่าข่าวเท็จที่สร้างผลกระทบด้านลบต่อสังคม และต่อรัฐบาลจะหมดสิ้นไป แต่ถ้าหากรัฐบาลยังคงให้ข่าวแบบอ้ำๆ อึ้งๆ พูดจาไม่เต็มปากเต็มคำ หรือให้ข่าวไปแล้ว แต่เมื่อผู้สื่อข่าวซักถามด้วยเหตุด้วยผลก็กลับไม่ตอบ หรือตอบแบบมีอารมณ์เหมือนที่ชอบกระทำกันอยู่ทุกวันนี้ ก็รับรองว่าไม่มีวันที่ข่าวเท็จจะหมดไปจากสังคมไทย เพราะข่าวเท็จจะหมดไปได้ก็ด้วยข่าวจริงเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี