เมื่อวานนี้ ศาลอาญาอ่านคำพิพากษาศาลฎีกา ยกฟ้องนายสรยุทธ สุทัศนะจินดา และพวก ข้อหาร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิ และใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอมเพื่อปกปิดกระทำความผิดของตนฯ ในคดีหมายเลขดำ อ.1748/2559
กองเชียร์ได้เฮ แต่เฮไม่เต็มเสียง เพราะนั่นมิใช่คดีหลัก
คดีหลัก คือ คดีทุจริต
คดีเมื่อวานนี้ คือ คดีปลอมเอกสารเพื่อปกปิดความผิด
1. คดีที่ศาลฎีกายกฟ้องเมื่อวานนี้ ก็ไม่ใช่เพราะว่าปราศจากพยานหลักฐานเอาผิดอะไร
ที่รอดเพราะข้อกฎหมายล้วนๆ
ถ้าเป็นฟุตบอล ก็อาจเรียกว่า ชนะฟาวล์
โดยคดีนี้อัยการโจทก์ ยื่นฟ้องเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2559 สรุปว่า ประมาณกลางเดือนก.ค. 2549 จำเลยทั้งสี่ ร่วมกันนำเอกสารใบคิวโฆษณารายการ คุยคุ้ยข่าว ระหว่างเดือนม.ค.-พ.ค. 2549 จำนวน 139 แผ่น ซึ่งเป็นเอกสารสิทธิที่จำเลยร่วมกันทำปลอมขึ้น ไปใช้ยื่นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ บมจ.อสมท เพื่อเป็นหลักฐานในการโฆษณา และคิดค่าโฆษณาส่วนเกินในรายการคุยคุ้ยข่าว ทำให้พนักงานเจ้าหน้าที่ บมจ.อสมท หลงเชื่อว่าเอกสารใบคิวโฆษณานั้นเป็นเอกสารจริง ทำให้ บจก.ไร่ส้ม จำเลยที่ 1 ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา หรือเสียค่าโฆษณาส่วนเกินน้อยกว่าความเป็นจริง การกระทำดังกล่าวทำให้ บมจ.อสมท ได้รับความเสียหาย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของจำเลยในคดีนี้ เป็นความผิดตามที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำอ.313/2558 ซึ่งเป็นการกระทำกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบทแล้วจึงเป็นการฟ้องซ้ำ และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
ต่อมา ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น
เนื่องจาก มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดในคดีอาญาหมายเลขแดงที่อ.595/2559 ของศาลนี้แล้ว สิทธิการนำคดีอาญาของโจทก์มาฟ้องจำเลยทั้งสี่เป็นคดีนี้จึงระงับไป ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) โจทก์ไม่มีสิทธินำคดีอาญามาฟ้องจำเลยทั้งสี่เป็นคดีนี้อีกให้จำหน่ายคดีโจทก์ออกจากสารบบความ
ในที่สุด ศาลฎีกาก็พิพากษายืน
ชี้ว่าเป็นการฟ้องซ้ำ พิพากษายกฟ้อง และให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
2. นายสรยุทธเดินทางไปฟังคำพิพากษาเมื่อวานนี้ เสร็จแล้วก็เดินทางกลับทันที โดยไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ
นักข่าวรายงานว่า นายสรยุทธ์มีสีหน้าที่ดูตึงเครียด ก่อนขึ้นรถยนต์ส่วนตัวกลับ
เหตุที่เป็นเช่นนั้น ก็น่าจะเป็นเพราะนายสรยุทธย่อมรู้ตัวดี ว่ากำลังจะต้อง “รับกรรม” ในอีกไม่นาน
คดีไร่ส้มทุจริตเงินค่าโฆษณาเกินเวลา ซึ่งเป็นคดีหลักนั้น ขณะนี้ อยู่ในชั้นฎีกา
ยังไม่ทราบว่าจะนัดอ่านคำพิพากษาเมื่อใด?
และไม่อาจก้าวล่วงจะมีคำพิพากษาออกมาอย่างไร?
แต่เมื่อเห็นว่าตนเองรอดจากคดีเมื่อวานนี้แล้วนายสรยุทธก็ยังตึงเครียดอยู่อาจเพราะเจ้าตัวคาดหมายว่า คดีหลักในชั้นฎีกาก็คงจะมีนัดอ่านคำพิพากษาในเวลาอีกไม่นานหลังจากนี้
คดีดังกล่าวนั้น ศาลอาญาคดีทุจริตฯ หรือศาลปราบโกง ได้อ่านคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2560
จำเลย ได้แก่ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด หรือนางชนาภา บุญโต พนักงานจัดทำคิวโฆษณาของ บมจ.อสมท,นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตพิธีกรรายการ “คุยคุ้ยข่าว” ผู้บริหารบริษัทไร่ส้ม และน.ส.มณฑา ธีระเดช พนักงานไร่ส้ม
ศาลชี้ว่า นางพิชชาภาใช้อำนาจหน้าที่โดยทุจริต ไม่รายงานการโฆษณาเกินเวลาเพื่อเรียกเก็บค่าโฆษณาเกินเวลา จาก บจก.ไร่ส้ม จำนวน 17 ครั้ง ทำให้ บมจ.อสมท เสียหาย 138,790,000 บาท และยังได้เรียกรับเอาเงิน 658,996 บาท จากนายสรยุทธและพวก เพื่อเป็นการตอบแทนที่นางพิชชาภาไม่รายงานการโฆษณา
พิพากษาลงโทษจำคุกนางพิชชาภา ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียกรับหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ 6 กระทง
กระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 30 ปี แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ศาลจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 จึงให้จำคุกนางพิชชาภา เป็นเวลา 20 ปี
ส่วนนายสรยุทธ และน.ส.มณฑา จำคุก 6 กระทง กระทงละ 3 ปี 4 เดือนรวมจำคุกคนละ 20 ปี แต่ทางนำสืบเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาศาลจึงลดโทษให้ 1 ใน 3 เช่นกัน คงเหลือจำคุก 13 ปี 4 เดือน
หลังศาลอุทธรณ์อ่านคำพิพากษาผ่านมาเป็นเวลา 2 ปีกว่า นายสรยุทธได้รับความเมตตาจากศาล ให้ประกันออกมาระหว่างรอคำพิพากษาศาลฎีกาซึ่งจนถึงวันนี้ เจ้าตัวคงเตรียมตัวเตรียมใจพร้อมสำหรับทุกสถานการณ์
รอลุ้นคำพิพากษาศาลฎีกา ว่าจะอ่านเมื่อใด?
3. นอกจากนายสรยุทธแล้ว ยังมีผู้ดำรงตำแหน่งการเมือง คนดัง อีกหลายคน ที่มีคดีไปถึงชั้นศาลฎีกาแล้ว และคดีเหล่านั้น มีคำพิพากษาของศาลระดับล่างให้ลงโทษจำคุก
เรียกว่า ลุ้นหนักมาก
อาทิ
3.1 คดีช่วยลูกทักษิณไม่ต้องจ่ายภาษี
ศาลปราบโกงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปแล้ว พิพากษาจำคุก 3 ปี นางเบญจา หลุยเจริญ อดีต รมช.คลัง สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ และอดีตผู้บริหารกรมสรรพากร, น.ส.จำรัส แหยมสร้อยทอง อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย, น.ส.โมรีรัตน์ บุญญาศิริ อดีต ผอ.สำนักกฎหมาย, นายกริชวิปุลานุสาสน์ ผอ.สำนักกฎหมาย กรมสรรพากร
ส่วนน.ส.ปราณี เวชพฤกษ์พิทักษ์ คนใกล้ชิดเลขานุการส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน ณ ป้อมเพ็ชร อดีตภรรยานายทักษิณ ถูกพิพากษาลงโทษจำคุก 2 ปี ฐานสนับสนุน
สืบเนื่องจากกรณีที่นายพานทองแท้ และน.ส.พินทองทา ชินวัตรซื้อหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จำกัด เมื่อปี 2549 คนละ 164,600,000 หุ้น ในราคาพาร์หุ้นละ 1 บาท ขณะที่ราคาตลาดหุ้นละ 49.25 บาท มีหน้าที่ต้องเสียภาษีของส่วนต่างราคาหุ้น คนละ 7,941,950,000 บาท แต่บริวารของนายใหญ่ช่วยเหลือมิให้เสียภาษีแก่แผ่นดิน
ศาลอ่านคำพิพากษาอุทธรณ์ไปตั้งแต่ 19 ตุลาคม 2560 ขณะนี้รอเพียงการตัดสินคดีในชั้นศาลฎีกา
3.2 คดีแก้สัมปทานมือถือ เอื้อประโยชน์เอกชน 4.6 หมื่นล้าน
ศาลปราบโกงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปแล้ว พิพากษาจำคุก 6 ปีนายสุธรรม มะลิลา อดีตผู้อำนวยการองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ทศท.) และให้ชำระเงิน 46,855 ล้านบาท แก่ ทศท. พร้อมดอกเบี้ย
สืบเนื่องจากดำเนินการแก้ไขสัญญาสัมปทานมือถือ ครั้งที่ 6 เพื่อลดอัตราส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายแก่บริษัทเอไอเอส เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2544 โดยปรับส่วนแบ่งรายได้จากการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่แบบใช้บัตรจ่ายเงินล่วงหน้าแก่เอไอเอส
ศาลปราบโกง อ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ เมื่อเดือนมีนาคมปี 2561 ขณะนี้ เหลือแต่เพียงผลการพิจารณาคดีในชั้นฎีกา ว่าจะออกมาอย่างไร?
3.3 คดีธรณีสงฆ์อัลไพน์
ศาลปราบโกงอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ไปแล้ว พิพากษาจำคุก 2 ปีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ (อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย) ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ขณะดำรงตำแหน่งรักษาการปลัดกระทรวงมหาดไทย กรณีไปเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินที่มีคำสั่งให้การจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมใดๆ อันเกี่ยวกับที่ดินธรณีสงฆ์อัลไพน์ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ขณะนี้ คดีอยู่ในชั้นศาลฎีกา
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี