“กบในกะลา” เป็นสำนวนไทยที่มิได้มีความหมายตรงไปตรงมาตามตัวอักษร แต่เป็นถ้อยคำที่มีความหมายเป็นอย่างอื่น เป็นชั้นเชิงชวนให้คิด มีความหมายเป็นนัยในเชิงอุปมาเปรียบเทียบกับคนที่คิด อะไร หรือทำอะไรอยู่ในวงแคบๆ ไม่มองอะไรภายนอก หรือไม่รับรู้อะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกว่าเป็นอย่างไร คนประเภทนี้เป็นคนที่สำนวนไทยเปรียบเทียบว่าเป็นกบในกะลา
ถ้าคนประเภทนี้เป็นคนที่ต้องมามีหน้าที่แก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมหรือในบ้านเมือง ก็จะเป็นคนที่ไม่มองอะไรภายนอก หรือไม่รับรู้อะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นภายนอกว่าเป็นอย่างไร ตาดูหูฟังแต่ในวงแคบๆของตนแล้ว ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นภายนอกก็ยากจะแก้ไขได้
บ้านเมืองของเราขณะนี้กำลังอยู่ในสภาพอย่างนี้
โดยเฉพาะสภาพความขัดแย้งต่างๆ ที่กำลังขยายตัวออกไปหลายเรื่องหลายราวในขณะนี้ ทั้งความขัดแย้งกันเองในกลุ่มคนที่มีอาชีพแตกต่างกัน แต่เอาเปรียบซึ่งกันและกันในเชิงผลประโยชน์ หรือความขัดแย้งระหว่างกลุ่มคนบางกลุ่มกับฝ่ายอำนาจรัฐ ซึ่งสืบเนื่องมาจากหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน ทั้งปัจจัยทางเศรษฐกิจสังคม ปัจจัยทางการเมือง และปัจจัยในการใช้อำนาจรัฐที่รุนแรงเกินเหตุสมควร อย่างที่กำลังเกิดขึ้นให้เห็นขณะนี้
แต่ละปัจจัยดังกล่าวนำไปสู่ความรุนแรงได้ทุกเมื่อ
ทั้งความรุนแรงทางตรงและความรุนแรงเชิงโครงสร้าง
ความรุนแรงทางตรงนั้น โดยผลที่เกิดขึ้นจากความรุนแรงเป็นสิ่งที่มักเห็นได้ชัดเจน อาจเริ่มจากเฉพาะตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แล้วขยายไปยังกลุ่มบุคคลอื่นๆ ซึ่งจะนำไปสู่ฝูงชน ที่เรียกว่า “ม็อบ”
ความรุนแรงเชิงโครงสร้างนั้น หมายถึงอะไรก็ตามที่ไม่ใช่ตัวบุคคลหรือกลุ่มบุคคล เป็นสิ่งที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจรัฐที่กำหนดขึ้นเองเพื่อประโยชน์ตนในบางสิ่งบางอย่างในการบริหารจัดการ โดยไม่คำนึงถึงสภาพความเป็นจริงในระบอบการเมืองการปกครองที่ประชาชนมีส่วนร่วม อันทำให้เกิดช่องว่างระหว่างประชาชนกับฝ่ายรัฐ จนนำมาซึ่งความขัดแย้งที่รุนแรง
ทั้งความรุนแรงทางตรง และความรุนแรงเชิงโครงสร้างดังกล่าวนี่แหละ ที่เคยปรากฏให้เห็นมาแล้วหลายครั้งหลายหนในบ้านเรา เกิดเป็นบาดแผลและความเจ็บปวดในสังคมไทยจนถึงขณะนี้
แม้กระทั่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากภายนอกประเทศที่มีผลกระทบเข้ามาถึงภายในบ้านเราในขณะนี้ก็มีหลายอย่างที่ต้องบริหารจัดการให้ถูกต้อง เช่น การก่อการร้ายสากล อาชญากรรมข้ามชาติ ความขัดแย้งในทางเชื้อชาติ ศาสนา วัฒนธรรม และความคิดเห็นที่แตกต่างหลากหลาย เป็นต้น ที่กำลังเกิดขึ้นในบ้านเมืองของเราขณะนี้เช่นเดียวกัน
คนที่ไม่รับรู้อะไรกับสิ่งที่เกิดขึ้นดังกล่าวในเรื่องของความขัดแย้งต่างๆ ทั้งจากภายในประเทศและจากภายนอก และไม่รับฟังเสียงเตือน เสียงติ เสียงแนะนำหรือเสียงเรียกร้องของผู้คนในบ้านเมืองให้เข้าใจประเด็นปัญหาต่างๆ ที่พวกเขาประสบ และต้องการให้มีการแก้ไข แต่ไม่ยินดียินร้ายที่จะรับฟังด้วยความตั้งใจ ฟังมันอยู่ในหมู่พวกของตนในวงแคบๆอย่างที่เห็นอยู่ในขณะนี้ ก็สมควรจะเป็นคนที่จัดอยู่ในประเภท “กบในกะลาครอบ” นั่นเอง
ปัญหาทุกปัญหาแก้ได้แค่หงายกะลา
หงายกะลาเมื่อไรจะเห็นทางแก้ไขใหญ่ๆ 2 ประการคือ แก้ไขปัญหาความขัดแย้งในกรอบกฎหมายที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่บัญญัติไว้เหมือนๆกันทุกฉบับ(ยกเว้นรัฐธรรมนูญที่ซ่อนอำนาจเผด็จการไว้) และแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยหลักการบริหารที่คำนึงถึงประโยชน์สาธารณะ
ขอสรุปวิธีการของการแก้ปัญหา 2 แนวทาง ดังนี้
1. การแก้ปัญหาความขัดแย้งในกรอบรัฐธรรมนูญ
บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญทุกฉบับที่มีมา ได้กำหนดไว้หลายประการในเรื่องสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ว่ารัฐควรใช้อำนาจอย่างไรได้แค่ไหน โดยเฉพาะในเรื่องศักดิ์ศรีแห่งความเป็นมนุษย์ หรือการใช้สิทธิเสรีภาพของตนโดยไม่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผู้อื่น ซึ่งประการสำคัญที่รัฐต้องคำนึงถึงให้มากก็คือ เรื่องความเสมอภาคและได้รับการคุ้มครองทางกฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง เชื้อชาติศาสนา สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจ ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองที่ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ
นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญยังได้กำหนด “แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐ” ที่กำหนดให้รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดนโยบาย การตัดสินใจทางการเมือง รวมทั้งการตรวจสอบอำนาจรัฐทุกระดับ
2. การแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยหลักการบริหาร
การบริหารจัดการด้วยอำนาจรัฐต้องคำนึงถึงเรื่องประโยชน์สาธารณะ การมีส่วนได้ส่วนเสียของประชาชน การรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนในส่วนเกี่ยวข้องหรือมีผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง ไม่มีทัศนคติต่อประชาชนในทางลบ หรือการมองประชาชนเป็นศัตรู เป็นต้น
แต่ที่ผ่านมา 3 ปีกว่าไม่ค่อยจะเดินไปในทางนี้
ผู้คนในบ้านเมืองแทบทั้งหมดขณะนี้รู้ดีว่า ตนได้รับการปฏิบัติจากฝ่ายอำนาจรัฐในขณะนี้ ดำเนินไปตามกรอบ 2 ข้อที่ยกมาให้ฟังหรือไม่
หงายกะลาออกมาให้เห็นอย่างจะจะอย่างนี้ ถ้ายังมองไม่เห็นอีก ก็ขอให้คิดว่าตัวใครตัวมันก็แล้วกันนะโยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี