ถ้าดูแบบอย่างที่ดี ผมอยากจะเทิดทูนยกย่อง คือ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร (ในหลวงรัชกาลที่ 9) ถึงแม้พระองค์ท่านทรงจากเราไปแล้ว แต่ความดีของพระองค์ท่านจารึกอยู่ในใจเราและบางเรื่องนั้นเป็นมรดกของโลก ในเรื่องความยั่งยืน ปัจจุบันเป็นปัจจัย 17 เป้าหมายในความยั่งยืนของ UN โดยมีหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางไปสู่ความยั่งยืนด้วย
ถ้าจะศึกษาผู้นำ เราต้องเรียนรู้ทั้งดีและไม่ดี เพราะเป็นบทเรียนสำคัญ ปัจจุบันปัจจัยเรื่องโลกร้อนหรือปัจจัยโลกร้อนมีปัญหามาก นับวันรุนแรงขึ้น จึงต้องมองโลกเรื่องความยั่งยืนอย่างมากในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นผู้นำตัวอย่างที่คนไทย และคนในโลกเทิดทูนสรรเสริญท่านและจารึกไว้เพราะพระองค์ท่านทรงเน้นการพัฒนาที่ยั่งยืนและการพัฒนาให้คนไทยพึ่งตนเอง
ปัญหาของคนไทยคือ ไม่มีความสนใจบทเรียนในอดีตเรียนหนังสือไปเพื่อทำงาน ไม่ได้คิด ไม่สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตต้องการแค่ปริญญา แต่ไม่มีปัญญา พระองค์ท่านจึงทรงเปรียบเสมือนเป็นครูใหญ่ของโลกในเรื่องความยั่งยืน
นอกจากนี้การดำรงชีวิตของพระองค์ท่านเรียบง่าย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะพระองค์ท่านทรงรับมาจากสมเด็จย่า
ในยุคปัจจุบันการดำรงชีวิตของคนไทย ควรจะมีลักษณะอย่างไร ใช้ชีวิตอย่างประหยัดและพอเพียง
ในทางตรงกันข้ามมีหลายกลุ่มของคนรุ่นใหม่ไม่ว่า Millennials ยุค Z ยุค Y และ ยุค X จะมีแนวโน้มเป็นสังคมที่เน้น :
1. ชอบอวดด้านวัตถุ มีรถสวย บ้านสวย
2. สังคมขี้โกงคือ ต้องการเป็นผู้มีเงินโดยไม่สนใจว่าโกงหรือไม่สุจริตก็ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว
ยิ่งสื่อโซเชียล นิยมเรื่องวัตถุนิยมเท่านั้น วัดทุกอย่างจากความร่ำรวยโดยไม่มีคุณธรรม จริยธรรม หลักสูตรการศึกษาของไทยยังเน้นเก่งทางวิชาการ เพื่อทำงาน ไม่ได้มีหลักสูตรประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมศีลธรรมไม่สอนให้เด็กรุ่นใหม่มีความรักชาติ ไม่ได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ รากเหง้าของประเทศไทย
บุคคลที่ 2 เป็นตัวอย่างที่ดีผมได้อ่านหนังสือแปลเป็นภาษาอังกฤษของ สี จิ้น ผิง เดิมไม่เห็นว่าเป็นคนมีอะไรน่าสนใจนักคาดไม่ถึงว่า ผู้นำอย่าง สี จิ้น ผิง จะมีความสามารถล้ำลึกอย่างคิดไม่ถึงทำให้พรรคคอมมิวนิสต์ของจีนยกย่องให้เขาเป็นผู้นำตลอดชีวิต ซึ่งไม่เกิดขึ้นง่ายๆ หลังจาก เหมา เจ๋อ ตุงก็มีผู้นำที่อยู่เกิน 10 ปี คือ สี จิ้น ผิง ที่พรรคคอมมิวนิสต์ ให้เป็นผู้นำได้ตลอดชีวิต
ตัวอย่าง 2 เรื่องของการเป็นผู้นำประเทศจีนที่ยากจนที่สุด มีประชากรมากที่สุดในโลก มีระบบเศรษฐกิจที่ล้าสมัย แต่ปัจจุบัน ประเทศจีนสามารถขึ้นมาแข่งกับอเมริกาได้ มีการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4 ครั้ง ซึ่งหวังว่าจีนจะมีโอกาสนำโลกในการปฏิวัติอุตสาหกรรม ยุคที่ 5 หรือ 6 การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งก่อนๆ คือ
1. ประเทศอังกฤษ ยุคเครื่องจักรไอน้ำ 200 ปีที่แล้ว
2. ยุคไฟฟ้า โทรศัพท์ 100 ปีที่แล้ว
3. ยุคอินเตอร์เนต 30 ปี
4. ยุคดิจิทัล และ AI ปัจจุบัน
โดยยุค 1 เป็นของอังกฤษ ยุค 2-4 เป็นของอเมริกา และยุค 5 ยุค 6 น่าจะเป็นของจีนและเอเชีย ประเทศจีนจึงเร่งพัฒนาศึกษา การวิจัย R+D ไม่ได้ขายสินค้าราคาถูกเท่านั้น เขาขจัดคอร์รัปชั่นอย่างได้ผล เม็ดเงิน 100 ไปสู่ประชาชนเกือบครบ
ที่ประทับใจคือเขาเป็นผู้นำที่มองความจริง โดยความจริงReality มาจาก Truth and Fact ทำสิ่งใดไม่รู้ความจริงก็ไม่ควรทำ หากทำก็ไม่สำเร็จ ซึ่งตรงกับแนวคิด 2R’s ของผมบทเรียนที่ดีสำหรับทุกๆคนว่าในการทำสิ่งใด ต้องค้นหาความจริงเสียก่อน
ข้อดีอีกเรื่องของสี จิ้น ผิง คือ เขาพัฒนาประเทศอย่างครบวงจรไม่คิดแค่ประเทศของเขา เพราะเขาทราบว่าโลกนี้ ต้องช่วยกันทำ จึงมีวิธีในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร
1. Innovative นวัตกรรมสำคัญมาก
2. Coordinated ทำร่วมกันเป็นทีมมีการประสานงานทุกๆ ด้านผิดกับไทยต่างคนต่างทำ
3. Green จะต้องเน้นสิ่งแวดล้อม ต้องเน้นความยั่งยืน
3. Open ต้องพัฒนาให้ประเทศอื่นได้รับประโยชน์ด้วย คล้ายๆ แนวคิด Silk and road
4. Inclusive พัฒนาให้ทุกคนได้ผลครบถ้วนไม่ใช่แบบไทย รวยกระจุก จนกระจาย
ประโยชน์ต่อทุกๆ คนเรื่องนี้รัฐบาลบิ๊กตู่มีปัญหามากเพราะยิ่งพัฒนา ยิ่งทำให้มีความเหลื่อมล้ำมากขึ้น ซึ่งในประเทศจีนเขาให้ทุกๆ คนมีส่วนร่วม
ส่วนผู้นำคนที่ 3 ผมยังไม่เคยกล่าวถึงเขา แต่ได้ติดตามมาโดยตลอดขณะนี้ก็กำลังถูกจับตามองคือ Boris Johnson มาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน Theresa May
ข้อดีคือเป็นคนเก่ง เรียนเก่ง เรียนที่ Oxford รุ่นเดียวกับคุณอภิสิทธิ์ เรียนทางด้านภาษา
คนอังกฤษชื่นชมเพราะมีภาวะผู้นำสูง แต่ข้อเสียคือ มี Fixed mindset ที่ไม่เปลี่ยน ต้องการให้สหราชอาณาจักรออกจาก EU คล้ายๆ ทรัมป์ คืออเมริกาเป็นหนึ่งไม่ว่าอะไรจะเกิด ต้องออกให้ได้
เข้ามาเป็นผู้นำได้ไม่ถึงเดือนพยายามให้สหราชอาณาจักรออกจาก EU ภายใน 31 ตุลาคม ซึ่งเขาทำทุกวิถีทางเพื่อออกโดยไม่มีการเจรจามาก่อน
ได้ค้นพบจากเอกสารที่พิสูจน์ว่าถ้าสหราชอาณาจักรออกจาก EU ภายในวันที่ 31 ตุลาคม โดยไม่มีข้อตกลงจะสร้างปัญหาอันใหญ่หลวงต่อคนในประเทศ
1. การค้าระหว่างสหราชาอาณาจักร กับ EU จะมีปัญหามาก
2. จะมีพรมแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือกับใต้
3. ปัญหากฎหมายไม่ชัดเจน เช่น กฎหมายระหว่างประเทศอย่างเช่น ประมง
4. ปัญหาเรื่องคนอังกฤษที่ทำงาน EU และ EU ที่ทำงานในอังกฤษ มีความเสียหายมหาศาล
5. ราคาสินค้า หรือการรักษาพยาบาลจะแพงขึ้นยาต่างๆจะขาดแคลน
6. คนจนในสหราชอาณาจักรจะมีปัญหามาก
แต่ Boris Johnson ไม่วิตกเพราะเขาเชื่อว่าต้องทำให้สหราชอาณาจักรออกให้สำเร็จ โดยไม่ดูว่าผลกระทบคืออะไร เป็นตัวอย่างของผู้นำที่คิดถึงตัวเองคล้ายๆ ทรัมป์ผู้นำเช่นนี้อันตรายและจะมีแนวโน้มว่า คนลงคะแนนจะชอบเพราะสะใจ จึงเป็นตัวอย่างของผู้นำที่มีความสามารถ แต่ใช้ความสามารถในทางที่ผิดๆ
ส่วนคนสุดท้าย ผู้นำที่มีข้อดีส่วนหนึ่งในช่วงแรกแต่อยู่ในอำนาจนานเกินไปเลยหลงอำนาจ กลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี เสียหายเพราะอยู่ในอำนาจนานเกินไป
ผู้นำท่านนี้คือ Mugabe เมื่อ 37 ปี เคยเป็นครู ประเทศนี้เมื่อสมัยหนุ่ม ผมได้ติดตาม เป็นอาณานิคมของอังกฤษ มีทรัพยากรมากมาย ร่ำรวย โดยเฉพาะปลูกยาสูบส่งขายทั่วโลกเรียกว่า ประเทศโรดีเซีย ในทวีปแอฟริกา แต่ Mugabe เป็นครูเก่า แต่รักชาติ จึงนำโรดีเซียสู้กับอังกฤษชนะ ทำให้เขาเป็นฮีโร่
ที่น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ช่วงแรกๆ ที่เขามาเป็นผู้นำคือ ประธานาธิบดีประเทศโรดีเซียต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นประเทศซิมบับเว คนไทยควรจะศึกษาจากเขาคือ ความที่เป็นครูเก่าเห็นการศึกษาของระบอบอังกฤษสนใจเฉพาะคนผิวขาวจำนวนน้อย แต่คนผิวสีถูกละเลย จึงปฏิรูปการศึกษาได้ผล ทำให้การศึกษาภายใต้การนำของ Mugabe สร้างทรัพยากรมนุษย์ได้สำเร็จอย่างมาก
แต่น่าเสียดายเมื่ออยู่ไปได้สักพักก็หลงอำนาจ จึงทำให้เกิดปัญหามากมาย ประเทศซิมบับเวช่วงหลังๆ ยากจนและคนขาดแคลนอาหารหนักมาก เมื่อ 2 ปีที่แล้วถูกลูกน้องปฏิวัติและเพิ่งเสียชีวิตไป
บทเรียนก็คือ ช่วงที่ได้อำนาจการเมืองใหม่ๆ ปฏิรูปการศึกษาได้ดีเพราะยังไม่บ้าอำนาจจึงพัฒนาทุนมนุษย์ ระบบการศึกษาของซิมบับเวถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะลงทุนในมนุษย์คือคนผิวดำและเน้นคุณภาพการศึกษาบทเรียนต่อคนไทย รัฐบาลไทยลงทุนในทุนมนุษย์ไม่น้อย แต่คุณภาพการศึกษาไม่กระจายตอนหลังๆ มีการเมืองมาแทรกแซง เอาอาจารย์และนักเรียนมาเป็นหัวคะแนน การบริหารก็รวมศูนย์ปัจจุบันคนกลุ่มหนึ่งคือคนที่เข้าโรงเรียนประจำจังหวัดในต่างจังหวัดมีคุณภาพพอควร แต่โรงเรียนระดับอำเภอ ตำบล คุณภาพต่ำมีความเหลื่อมล้ำทางการเรียนเมื่อมาเรียนมหาวิทยาลัยจึงมีคุณภาพไม่ดี ยังไม่สอนให้คิดวิเคราะห์เป็น
ผมหวังว่าบทเรียนเหล่านี้น่าจะเป็นบทเรียนสำหรับผู้อ่านจะได้เอาตัวอย่างที่ดีมาทำความเข้าใจและหลีกเลี่ยงแบบอย่างที่ไม่ดีต่อไป
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี