บนเส้นทางของระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งเป็นแนวทางในการบริหารปกครองบ้านเมืองของเราในขณะนี้นั้น ยังมีทั้งความสุขและความทุกข์สลับกันตลอดมา บางครั้งหัวเราะ บางครั้งร้องไห้ กับสิ่งที่เกิดขึ้น
โดยเฉพาะจากเหตุของเรื่องอำนาจ
อำนาจที่ยื้อแย่งกันในการบริหารปกครองบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นการยื้อแย่งอำนาจกันระหว่างนักการเมืองด้วยกันเอง หรือระหว่างคนถือปืนกับนักการเมือง แม้กระทั่งการแย่งอำนาจกันเองระหว่างพวกถือปืนด้วยกันเอง ก็เคยเปรากฏให้เห็นมาแล้ว
คนถือปืนหรือทหารจึงมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองในบ้านเรามาโดยตลอด นับตั้งแต่การเปลี่ยนแปลงการปกครองปี พ.ศ.2475 จนถึงขณะนี้ จะผิดแผกแตกต่างกันไปบ้างในบางครั้งบางคราวก็อยู่ที่เรื่องบทบาทที่แสดงของทหาร ว่าเป็นตัวเอก ตัวรอง หรือเป็นตัวกำกับ ซึ่งขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในสถานการณ์นั้นๆ
ทหารจึงมีบทบาทหรือวนเวียนอยู่กับการเมืองในบ้านของเรามาโดยตลอด แม้บางครั้งจะไม่ใช่เรื่องของทหารที่จะเข้าไปเกี่ยวข้อง เพราะไม่ใช่หน้าที่ของทหารก็ตาม แต่ทหารก็ถูกดึงเข้าไปใช้ประโยชน์ทางการเมืองของนักการเมือง ไม่ว่าจะทางตรง หรือทางอ้อม อย่างที่เคยเห็นมาแล้วในบางยุคบางสมัย แม้กระทั่งในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองในตำแหน่งรัฐมนตรี หรือตำแหน่งอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาชีพของทหาร
หรือในบางยุคบางสมัยที่มีการปฏิวัติรัฐประหารเกิดขึ้นในประเทศ ทหารก็จะมีบทบาทสำคัญยิ่งขึ้นในการกุมบังเหียนทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นทหารที่ยังอยู่ในประจำการ หรืออยู่นอกประจำการ ซึ่งเข้ามาเป็นผู้กำหนดทิศทางหรือเป้าหมายตามวัตถุประสงค์ของการใช้ปืนขณะนั้น ซึ่งทหารเหล่านี้แหละที่บางคนได้ปลื้มและยินดีกับผลประโยชน์ที่ตนได้รับ แต่ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวของทหารผู้นั้น ไม่ใช่ทหารในกองทัพทั้งหมดที่จะเห็นดีเห็นงามไปด้วยกับการกระทำดังกล่าว
ยังมีทหารที่ดีๆและรักชาติบ้านเมือง รักเกียรติยศศักดิ์ศรีของความเป็นทหารในกองทัพ ทหารดีๆเหล่านี้รู้ดีว่าอะไรถูกอะไรผิด และภัยคุกคามจริงๆ ของประเทศชาติบ้านเมืองที่กำลังเผชิญอยู่นั้นมีอะไร และจะต้องจัดการแก้ไข หรือบริหารจัดการกันให้ถูกต้องอย่างไร เพื่อให้ถูกต้องและเหมาะสมกับสถานการณ์ เหมาะสมกับความต้องการของส่วนรวมในประเทศ
ทหารดีๆ ในกองทัพทั้งสาม ไม่ว่ากองทัพบกกองทัพเรือ และกองทัพอากาศ รู้ดีอยู่แก่ใจว่าบ้านเมืองของเราในขณะนี้กำลังตกอยู่ในสภาพที่เลวร้ายมากน้อยแค่ไหน เพียงแต่ว่าอาชีพของคนที่เป็นทหารนั้นมีความแตกต่างจากคนอาชีพอื่นๆ เพราะนอกจากจะเป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนประชาชนทั่วๆไปแล้ว ยังต้องอยู่ในกฎเกณฑ์ที่ต้องปฏิบัติตน ให้อยู่ในกรอบของระเบียบวินัยทหารด้วย กองทัพจึงเป็นองค์กรทหารที่ค่อนข้างมีความเข้มแข็งกว่าองค์กรพลเรือนอื่นๆ ทั้งในด้านการปกครองบังคับบัญชาและการสั่งการ การกระทำใดๆของทหารในกองทัพจึงดำรงอยู่ในลักษณะดังกล่าวนี้ ภายใต้ความอดกลั้นของความรู้สึกต่างๆ จากเสียงต่อว่า เสียงด่าของผู้คนในบ้านเมืองขณะนี้ที่นับวันจะไม่พอใจกับการบริหารจัดการบ้านเมืองด้วยอำนาจปืนที่ยังไม่มีอะไรดีขึ้นแก่ชีวิตความเป็นอยู่ของเขา ทั้งๆ ที่เมื่อตอนที่ใช้ปืนเข้ามามีอำนาจนั้น ผู้คนส่วนใหญ่จะชอบเพราะทนไม่ไหวกับการทำงานของ “นักการเมืองที่ไม่ดี”แม้จะมาจากการเลือกตั้งก็ตาม แต่บริหารจัดการบ้านเมืองกันอย่างไม่โปร่งใส ไร้ธรรมาภิบาล ทุจริตคดโกงกันเพื่อหาประโยชน์ตนไม่รู้จักจบจักสิ้น การถือปืนเข้ามาของทหารเพื่อขับไล่พวกอย่างนี้ออกไป ผู้คนทั้งหลายยินดี
เกือบ 5 ปีที่ผ่าน ความรู้สึกของผู้คนส่วนใหญ่ในบ้านเมืองก็เปลี่ยนไป เพราะรู้สึกและเห็นว่าการทำงานเพื่อแก้ปัญหาสำคัญๆของบ้านเมือง โดยเฉพาะในเรื่องเศรษฐกิจ ปากท้อง ของชาวบ้านในระดับล่าง และระดับกลาง นั้นไม่มีอะไรที่ดีขึ้นตามความคาดหวัง และดูจะย่ำแย่ลงไปกว่าเดิมด้วยซ้ำไป ยกเว้นพวกในระดับสูงจริงๆที่ยังอิ่มปากอิ่มท้อง
เสียงต่อว่าต่อขานและเสียงวิจารณ์ในทางลบดังขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งเสียงตำหนิเพราะไม่ชอบใจทหาร ซึ่งความจริงแล้วมีไม่กี่คนในระดับหัวหน้าที่เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการทำหน้าที่ทางการเมืองในขณะนี้ แต่ก็ส่งผลไปถึงทหารที่อยู่ในกองทัพด้วย
โดยเฉพาะพฤติกรรมของวิธีการในการสืบทอดอำนาจที่ผู้คนทั้งหลายเห็นว่า ผู้มีอำนาจและคนประจบสอพลอรอบข้างกำลังใช้วิธีการบางอย่างเพื่อให้พวกตนยังคงดำรงอยู่ต่อไปได้เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขกฎหมาย กฎระเบียบข้อบังคับ หรือการตั้งคณะกรรมการต่างๆ ขึ้นมาจนจำไม่ไหวว่ามีอะไรบ้าง เพื่อให้ดำเนินการเรื่องนั้นเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง ผู้คนทั้งหลายในบ้านเมืองที่เห็นอย่างนี้แล้วพากันส่ายหน้าแข่งกับพัดลม
วิธีการสืบทอดอำนาจที่ผู้คนทั้งหลายเห็นอยู่ในขณะนี้นั้นก็คือ การส่งเสริมคนของตนและกีดกันคนอื่น ด้วยการใช้อำนาจจากปืนอย่างไม่เป็นธรรม ไม่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับและตามธรรมเนียมปฏิบัติ เพราะมี “กฎหมายพิเศษที่ตัวกำหนดขึ้นเอง” จัดการให้คนนั้นคนนี้พ้นจากตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ หรือให้ไปอยู่ห่างไกล อย่างที่เห็นกันอยู่ในการแต่งตั้งโยกย้ายที่ทำกันอยู่ในขณะนี้ ทั้งข้าราชการพลเรือน ข้าราชการตำรวจ และข้าราชการทหาร เพื่อประโยชน์ตนและพวก
ทหารที่ดีๆในกองทัพรู้ดีว่า คำต่อว่าคำวิพากษ์วิจารณ์ที่ไม่ดี และเป็นไปในทางลบต่อทหารที่กำลังเกิดขึ้นมากในขณะนี้ ที่มาที่ไปก็เกิดจากการกระทำของทหารที่ไม่ดี แม้มีอำนาจอยู่ในขณะนี้ ทั้งที่อยู่นอกกองประจำการ และอยู่ในกองประจำการบางคนนั่นเอง ที่ประพฤติตนไม่เหมาะสมกับ “ความเป็นทหารของประเทศชาติ”
จนทำให้ทหารดีๆในกองทัพทั้งสามเสียหายไปด้วย
(อ่านต่อวันอังคาร)
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี