เต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริงคือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า WWW.NAEWNA.COM ผ่านไปแล้วสำหรับการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2563 ทั้งในชั้นของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา...
nn ต่อจากนี้ไป ตามที่ วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้กางไทม์ไลน์ให้สื่อมวลชนทราบว่า เมื่อแล้วเสร็จจะมีขั้นตอนกฎหมายที่ต้องทิ้งไว้3 วัน ก่อนเสนอมาที่รัฐบาล และรัฐบาลจะมีเวลาอีก 5 วันเพื่อตรวจสอบ จากนั้นจะนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป เมื่อโปรดเกล้าฯแล้วจะประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงเดือนมี.ค.-เม.ย.นี้ หลังจากนี้รัฐบาลก็เตรียมเข้าสู่การจัดทำงบประมาณปี 2564 ต่อไปซึ่งจะเสนอเข้าสภาฯในเวลาไม่กี่เดือนนี้...
nn ทั้งนี้ ในช่วงของการพิจารณาในฟากฝั่งของ สส. ซึ่งเกิดขึ้นตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฯ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานั้น ปรากฏว่า เป็นไปด้วยความทุลักทุเล...
nn เมื่อฝ่ายค้าน นำโดย สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ ผู้นำฝ่ายค้าน สุทิน คลังแสง ประธานวิปฝ่ายค้าน ผู้การป๊อป-น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย พร้อมพวก ประกาศไม่ร่วมเข้าประชุมฯ ในครั้งนี้ โดยอ้างว่า เพื่อเปิดทางให้รัฐบาลผ่านกฎหมายนี้โดยรวดเร็ว ตามความต้องการของสังคม แต่จะไม่อยู่ร่วมประชุมด้วย...
nn เพราะกังวลว่า อาจจะขัดต่อมาตรา 143 เรื่องกรอบเวลา 105 วัน ซึ่งอาจสุ่มเสี่ยงต่อการกระทำที่ส่อขัดกฎหมาย...nn แต่ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้ชี้แจงว่า ประเด็น 105 วัน สภาฯได้ดำเนินการครบถ้วนแล้วตั้งแต่ 11 มกราคมแล้ว แต่การประชุมวันนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่อง 105 วัน เพราะเป็นกระบวนการใหม่ที่เกิดมาจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ขออย่าไปกังวลว่าเราเสียเกียรติหรือไม่ เพราะการเคารพกฎหมายบ้านเมืองเป็นการกระทำที่มีเกียรติอยู่แล้ว...
nn จากนั้น ก็เริ่มมีการลงมติตั้งแต่มาตรา 1 ชื่อร่างพระราชบัญญัติฯ ไปจนถึงมาตราที่ 31 งบประมาณรายจ่ายของหน่วยงานของศาล ปรากฏว่า วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ขอให้มีการพักการประชุมสัก 20 นาที โดยอ้างถึงความไม่สะดวกของ สส.ในการลุกไปทำธุระส่วนตัว แต่เมื่อเวลาล่วงเลยไปกว่า 1 ชั่วโมงก็ยังไม่เปิดประชุม จนได้ทราบว่าเหตุผลที่แท้จริงคือ ปัญหาองค์ประชุมในการลงมติมาตรา 6 งบกลาง...nnซึ่งปรากฏว่า สส.ทั้งสภา ต่างพยายามหาทางออกในเรื่องดังกล่าว เช่น วีระกรคำประกอบ สส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย เป็นต้นสุดท้ายแล้ว ประธานชวน จึงตัดสินใจให้มีการลงคะแนนใหม่ตั้งแต่มาตรา 1ไปจนกระทั่งจบที่มาตรา 55...
nn ท้ายที่สุดแล้ว ในการพิจารณาวาระ 3ผลการลงมติปรากฏว่า เห็นด้วย 257 ไม่เห็นด้วย 1 งดออกเสียง 3 ...
nnจากนั้น เสี่ยหนู-อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุขเป็นตัวแทนรัฐบาล กล่าวขอบคุณสมาชิกฯ และให้คำมั่นสัญญาว่า จะดำเนินงานบริหารงบประมาณภายใต้ พ.ร.บ.ฉบับนี้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชน ทั้งยังจะใช้จ่ายงบประมาณของรัฐที่ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาอันทรงเกียรติแห่งนี้ด้วยความระมัดระวังตามหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัด...
nn “มือปราบ” ต้องบอกว่า นอกจากคำมั่นสัญญาที่ รองนายกฯ อนุทิน ได้ให้ไว้แล้วว่า จะนำเงินงบประมาณไปใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและทำตามหลักธรรมาภิบาลแล้ว การทำงานของ สส. ในสภานับจากนี้ไป จะต้องไม่มีเหตุสะเพร่าขึ้นอีก เช่น การเสียบบัตรทิ้งไว้ การวานให้ผู้อื่นเสียบบัตรแทนกัน และสารพัดเรื่องที่ทำให้ประชาชนเสื่อมศรัทธาต่อการทำงานของ สส. ในอดีต...
nn เพราะต้องยอมรับว่า การที่มีการเร่งพิจารณากันแบบ ม้วนเดียวจบ นั้น เป็นเพราะหน่วยราชการและชาวบ้านต่างบ่นด้วยถ้อยคำรุนแรง (ฮา) ต่อทั่นผู้ทรงเกียรติทำนองว่า ขาดงบเหมือนขาดน้ำมัน ไม่มีแรงผลักดันในการทำโครงการเพื่อประโยชน์ของประชาชน...
nn แต่เมื่อพูดถึงการเมืองแบบใหม่ ปรากฏว่า เสี่ยเอ๋- อรรถวิชช์สุวรรณภักดี พร้อมคณะ เช่น หมู-วรวุฒิ อุ่นใจ ตัวพ่อแห่งวงการ SME ไทย ครูเป็ด-มนต์ชีพ ศิวะสินางกูร ศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรี เหมือน-เบญจรงค์ ธารณานักแฟชั่นออนไลน์ เป็นต้นก็ได้ร่วมกันจดแจ้งชื่อพรรค “กล้า” ต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา...
nn ทั้งนี้ เสี่ยเอ๋-อรรถวิชช์ ระบุว่า “กล้า” เป็นพรรคแนวสตาร์ทอัพ ที่จะเป็นแพลตฟอร์มเพื่อเปิดพื้นที่ให้คนไทยทุกคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนแปลง เข้ามาทำงานด้วยหัวใจที่มีอุดมการณ์เดียวกันคือหลักปฏิบัตินิยม คือ เชื่อในเรื่องการลงมือทำ ด้วยความเป็นมืออาชีพในเรื่องต่างๆ ที่แต่ละคนสะสมความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ที่ถนัดเชี่ยวชาญจากทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มคนทุกชนชั้น ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ...
nn ทั้งนี้ “มือปราบ” เห็นว่า การเปิดตัวพรรคที่มีแนวทางใหม่ๆ ในวงการเมืองไทย ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีที่สมควรจะให้เกิดขึ้น เพราะการเมืองประเภทสาดโคลนป้ายสีกันนั้น ประชาชนต่างเบื่อหน่ายและเอือมระอามามากแล้ว...
nn แต่อย่างไรก็ตาม จากกระแสเลือดไหลของพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์ ซึ่งผ่านร้อนผ่านหนาวมาจะเป็นปีที่ 74 แล้วนั้น ชวน หลีกภัย ก็ได้ปาฐกถาพิเศษ เรื่องการยกระดับพรรคการเมืองให้เป็นสถาบันทางการเมือง ในการเปิดอบรม พตส. รุ่น 10 โดยกล่าวแนะนำบรรดานักการเมือง (โดยเฉพาะคนที่ยังปักหลักกับ ปชป. ว่า) “พรรคการเมืองมีขึ้นมีลง มีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้น การที่พรรคการเมืองจะดำรงอยู่ได้จึงต้องมีคนที่ตั้งใจจริงอยากมาทำงานการเมือง ไม่ใช่เป็นแค่มาหาอะไรทำ เพราะในยามใดที่พรรคประสบปัญหา คนที่ตั้งใจจริงเขาจะไม่คิดน้อยเนื้อต่ำใจหรือทิ้งพรรคไม่หวั่นไหว แต่ถ้าคนเป็นผู้บริหารพรรคใจเสาะ ผู้คนก็จะหนีไป” !!!!!...nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี