ถืออยู่ในมือท่านและเต็มไปด้วยสาระและข้อเท็จจริงคือ หนังสือพิมพ์แนวหน้า ทุกบรรทัด ตรงไป ตรงมา...
nn ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในช่วงที่ไวรัส “โควิด-19” ระบาดอยู่ในขณะนี้ ก็ถือว่ามีพอกล้อมแกล้ม ไม่ให้คอการเมืองรู้สึกเหงาตามสภาพที่เกิดขึ้น...
nn โดยฝ่ายค้านพยายามเรียกร้องให้มีการเปิดประชุมสมัยวิสามัญเพื่อหารือแนวทางการแก้วิกฤติของประเทศ โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว โดยมีการยืนยันจากปากแกนนำฝ่ายค้านหลายคนว่า จะไม่มีการหลอกด่ารัฐบาล!!!...
nn แต่ปรากฏว่า ฝ่ายรัฐบาลและคนไทยดูเหมือนจะรู้ทัน จึงไม่ได้มีท่าทีที่จะเออออห่อหมกตามฝ่ายค้านเสียเท่าไหร่...
nn ตัวอย่างเช่น วิรัช รัตนเศรษฐ ประธานวิปรัฐบาล ระบุว่า หากฝ่ายค้านหรือใครมีอะไรแนะนำรัฐบาลก็ให้เสนอผ่านเป็นหนังสือ เฟซบุ๊ค หรือไลน์ ผ่านทุกช่องทางได้หมด หรือออกมาสัมภาษณ์ผ่านผู้สื่อข่าว หรือทำหนังสือเปิดผนึกถึงนายกฯ ถึง รมว.สาธารณสุข ได้หมด การที่เอาผู้แทนราษฎรไปพูดกันในสภาเวลาจะทำให้การแก้ไขปัญหาล่าช้าได้....nn เช่นเดียวกับ ณัฏฐพล ทีปสุวรรณรมว.ศึกษาธิการ แนะนำฝ่ายค้านควรส่งสารไปที่รัฐบาลดีกว่าเปิดประชุมสภา...
nn “มือปราบ” เห็นว่า ถึงแม้รัฐธรรมนูญฯ จะเปิดช่องให้มีการขอเปิดประชุมรัฐสภานอกสมัยประชุมฯ...
nn แต่ในกรณีของไวรัสโควิด-19 นั้น ในช่วงสมัยประชุมที่ผ่านมานี้เองฝ่ายค้านก็ได้มีการใช้ช่องทางทางสภาผู้แทนฯ มาใช้สอบถามกับทางรัฐบาล ดังเช่น 2 สส. หมอ พรรคฝ่ายค้าน คือ นพ.เรวัต วิศรุตเวช และ นพ.วาโย อัศวรุ่งเรือง โดยตั้งกระทู้ถามไปถึง รมว.สาธารณสุขโดยมี หมอตี๋-สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข เป็นผู้มาตอบ...
nn จากนั้น ก็มี สส.หลายรายที่ได้ยื่นญัตติด่วนเพื่อจะให้มีการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อศึกษาเรื่องนี้โดยเฉพาะ และมี สส. หลายพรรคก็ได้อภิปรายกันอย่างกว้างขวาง แต่ในที่ประชุมก็ได้ข้อสรุปว่าจะส่งเรื่องให้ กมธ.การสาธารณสุข รับไปดำเนินการ...
nn รวมทั้ง“มือปราบ” ก็เรียกร้องหลายต่อหลายครั้งว่า สถานการณ์ในขณะนั้น (ที่ส่งผลมาถึงตอนนี้) ไม่ควรที่จะมีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ ควรที่จะให้มีการอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 155 เพราะสถานการณ์เข้าข่ายตามที่บัญญัติไว้ว่า “ในกรณีที่มีปัญหาสําคัญเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยหรือเศรษฐกิจของประเทศ สมควรที่จะปรึกษาหารือร่วมกันระหว่างรัฐสภาและคณะรัฐมนตรีผู้นําฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะแจ้งไปยังประธานรัฐสภาขอให้มีการเปิดอภิปรายทั่วไปในที่ประชุมรัฐสภาก็ได้(โดยไม่มีการลงมติ)”...
nn ดังนั้น “มือปราบ”ต้องขอใช้คำของ สส.ผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งที่ระบุว่า อย่าพลาดโอกาสทองย้อนกลับไปยังฝ่ายค้าน เพราะนอกจากพลาดโอกาสที่จะกู้ภาพลักษณ์จาก ฝ่ายแค้น เป็นฝ่ายค้าน (ฮา) ในสายตาชาวบ้านแล้ว ยังถือว่าการเปิดสภาให้ สส.มาประชุมในเวลานี้ ผิดกาลเทศะ เป็นอย่างมากด้วย....
nn ส่วนข้อกังวลว่า เมื่อถึงวันเปิดสมัยประชุมฯ ครั้งต่อไปในวันที่ 22 พฤษภาคม 2563 ปรากฏว่า สถานการณ์การระบาดฯ ยังไม่ดีขึ้นทางสภาฯ จะทำอย่างไรนั้น ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ก็ระบุว่าความจริงยังไม่มีปัญหาในขณะนี้ โดยปกติแล้วกรณีการเปิดสมัยประชุมก็ต้องเป็นตามกฎหมาย ยังมีเวลาถึง 22 พฤษภาคม ตอนนี้มีเวลาพอสมควร ต้องรอดูสถานการณ์ในขณะนั้น....
nn ด้านการประชุมร่วมกันของประธานกรรมาธิการสามัญประจำสภาผู้แทนราษฎร ทั้ง 35 คณะ (แต่มาจริง 18 คณะ) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทางประธานฯชวน ก็ได้มีปรึกษาหารือเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการการป้องกันไวรัสโควิด-19....
nn โดย นพ.สุกิจ อัตโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯก็ได้แถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า นายอนันต์ ผลอำนวย ประธานคณะกมธ.กิจการสภาผู้แทนราษฎร ได้รายงานให้ที่ประชุมทราบว่าก่อนหน้านี้ได้คุยกับนายชวน และได้ของบประมาณต่างๆ ซึ่งมีทั้งหมด 5 เรื่อง...
nn ประกอบด้วย 1.การจัดซื้อเครื่องวัดอุณหภูมิใหม่ที่มีประสิทธิภาพกว่าที่ใช้ในทุกวันนี้ 2.เรื่องอุปกรณ์ป้องกันการฆ่าเชื้อโรคต่างๆ 3.ได้ติดต่อและทำข้อตกลงกับสถาบันบำราศนราดูรในเรื่องการส่งต่อผู้ป่วย 4.ได้ส่งบุคลากรของรัฐสภาไปอบรมความรู้เกี่ยวกับไวรัสนี้ และ 5.ได้รับการอนุมัติให้ทำห้องโรคติดเชื้อความดันลบ โดยห้องดังกล่าวจะเป็นห้องป้องกันไม่ให้เชื้อออกมาสู่ภายนอก...
nn และ “หมอสุกิจ” ยังได้ระบุด้วยว่า การประชุมของ กมธ. จะมีหรือไม่นั้น ก็เป็นไปตามที่ประธานกมธ. ชุดนั้นๆ เป็นผู้กำหนด เพราะบาง กมธ. ก็มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องประชุม แต่ขอความร่วมมือให้แต่ละ กมธ. พยายามเชิญคนนอกมาชี้แจงให้น้อยที่สุด และยังยืนยันว่าจะมีการเปิดสมัยประชุมในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ตามกำหนดเดิม...
nn “มือปราบ” ต้องขอบอกกับบรรดา สส.ผู้ทรงเกียรติในขณะนี้ว่า ใครมีหน้าที่อย่างไรก็จะต้องทำตามหน้าที่และช่วยเหลือกันคนละไม้คนละมือ...
nn เพราะขณะนี้ ก็ยังเป็นช่วงของการปิดสมัยประชุมสภา ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะให้ฝ่ายรัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ฯลฯ ทำหน้าที่เป็น “ทัพหน้า” ในการต่อสู้กับไวรัสตัวนี้....
nn จนถือได้ว่าประเทศไทยเป็นประเทศติดอันดับต้นๆ ในการควบคุมดูแลปัญหาดังกล่าวได้เป็นอย่างดี...
nn ดังนั้น บรรดา สส. ควรเป็นตัวอย่างที่ดีที่ให้ประชาชนที่เลือก(และไม่เลือก) เข้ามามีความภาคภูมิใจด้วยการปฏิบัติตนตามคำแนะนำของแพทย์สส.คนไหนมีแรงมากก็ชักชวนชาวบ้านในเขตเลือกตั้ง ฝึกทำหน้ากากอนามัย ฯลฯ...
nn ซึ่งหาก สส.ช่วยผลักดันในการต่อสู้กับไวรัสตัวนี้จนผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ใช่แค่ “คนไทยจะชนะ” ตามคำพูดของ บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแล้วก็จะสามารถชนะใจชาวบ้านอย่างไม่มีวันลืมแน่นอน....nn สวัสดีครับ
มือปราบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี