แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...nn งานด้านการศึกษา ศิลปวัฒนธรรมนั้น คืองานสร้างสรรค์ความเจริญทางปัญญา และทางจิตใจ ซึ่งเป็นทั้งต้นเหตุ ทั้งองค์ประกอบที่ขาดไม่ได้ของความเจริญด้านอื่นๆ ทั้งหมด และเป็นปัจจัยที่จะช่วยให้เรารักษาและดำรงความเป็นไทยได้สืบไป… (ความตอนหนึ่งจากพระบรมราโชวาท พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยศิลปากร ณ วังท่าพระ วันที่ 12 ตุลาคม 2513)...
nn ในขณะที่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในวันเดือนปีพ.ศ.ใด แต่ก็มีความเคลื่อนไหวของคนที่อยากเป็นผู้ว่าฯ กทม. ปรากฏออกมาเป็นระยะๆ...
nn มีคนบางคนยอมลงทุนส่งโปสต์การ์ดที่พิมพ์รูปหน้าตาของตนเอง แล้วเขียนว่าสวัสดีปีใหม่ แล้วหว่านแหส่งไปตามบ้านต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ จนทำให้เจ้าของบ้านหลายรายงุนงงสงสัยว่าส่งไปเพื่ออะไร ทั้งๆ ที่เลยวันปีใหม่ไปแล้วเกือบครึ่งเดือน...
nn ส่วนรัฐมนตรีรายหนึ่งที่หลายคนวิพากษ์ว่าไม่มีผลงาน เพราะดีแต่ทำเรื่องไร้สาระ ก็ประกาศว่าเมียของตนเอง ซึ่งเป็นลูกนักการเมืองเก่าจะลงชิงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม....
nn ทางด้านฝ่ายค้านยุคปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความแค้นก็ตั้งหน้าตั้งตากดดันให้มีการกำหนดวันเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. โดยเร็ว ล่าสุดแกนนำระดับหางแถวรายหนึ่งของพรรค ที่เคยกินตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ก็ออกมาบ่นว่าไม่เข้าใจทำไมรัฐบาลไม่กำหนดวันเลือกผู้ว่าฯ กทม. ให้แน่นอน...
nn แต่สำหรับประชาชนชาวกรุงเทพฯ จำนวนไม่น้อยที่มีสิทธิเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ก็ได้แต่เฝ้าจับตามองว่าจะมีใครหน้าไหนที่พอจะมีกึ๋น มีความสามารถมีความสะอาด และมีสติปัญญาเพียงพอที่จะเลือกไปทำหน้าที่ผู้ว่าฯ กทม. ได้บ้าง เพราะเท่าที่เห็นทุกวันนี้ก็เป็นแค่พวกเน้นสีสันมากกว่าเน้นสาระ แล้วชาวกรุงเทพฯ ยังวิพากษ์ด้วยว่าสำหรับพรรคการเมืองจำพวกที่พลาดหวังจากสนามการเมืองระดับชาติ อย่าคิดว่าจะได้ชัยชนะจากสนามการเมืองกรุงเทพฯ เพราะคนกรุงเทพฯ มีสติปัญญามากพอ แถมยืนยันว่าไม่มีวันเลือกพรรคที่เจ้าของพรรคจงใจล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยเฉพาะพรรคที่เจ้าของปลุกระดมให้เด็กและเยาวชนชุมนุมประท้วงทางการเมืองอยู่ตลอดเวลา...
nnพูดถึงเรื่องการเมืองระดับท้องถิ่นแล้ว ก็ขอกลับไปดูความไร้แก่นสารสาระของการเมืองระดับชาติกันบ้าง เหตุที่ต้องบอกว่าไร้สาระ หาแก่นสารมิได้ ก็เพราะทุกวันมีแต่เรื่องเบาปัญญาปรากฏให้เห็นเสมอๆ โดยเฉพาะการจิกตีข่วนกัดกันไปมาระหว่าง สส. ระดับหมากเบี้ยของพรรคพลังประชารัฐกับพรรคเพื่อไทย ตัวอย่างเช่น พรรคเพื่อไทยส่งลำโพงของพรรคออกมาเหน็บแนมประชดประชันนายกรัฐมนตรีว่าอยู่มา 7 ปี แต่ไม่มีผลงานใดๆ สู้ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำงานเพียงวันเดียวยังไม่ได้ เมื่อเบี้ยของเพื่อไทยขยับปากแบบนี้ พรรคพลังประชารัฐก็ส่งเบี้ยออกมาโต้ว่าเพื่อไทยอย่าดีแต่นั่งเทียนตีฝีปากดิสเครดิตนายกรัฐมนตรีไปวันๆ แล้วอ้างว่านายกรัฐมนตรีทำงานหนักมากเพื่อประเทศชาติ...
nn ต้องบอกว่านี่คือดัชนีชี้วัดระดับสติปัญญาของนักการเมืองไทยที่แท้จริง ซึ่งสามารถบ่งบอกถึงระดับความรู้ความสามารถทางการเมืองได้อย่างชัดเจนว่า นักการเมืองไทยจำนวนไม่น้อยไร้ความสามารถสรรค์สร้างประโยชน์ทางการเมืองให้กับประชาชน เพราะทำได้แค่เพียงโต้วาทีกันด้วยเรื่องไร้สาระเพื่อให้เวลาหมดไปวันๆ เท่านั้น ถามจริงๆ เถอะ เวลาเลือกบุคคลเข้าพรรค ไม่เคยวัดระดับความรู้ และระดับสติปัญญากันบ้างเลยหรืออย่างไร หรือแค่เห็นว่าใครก็ตามที่ออกเสียงพูดได้ก็ลากเข้าพรรคโดยไม่ต้องพิจารณาระดับสติปัญญา หรือว่าลักษณะอย่างหนึ่งของนักการเมืองไทยคือต้องจิกตีข่วนกัดเก่งเป็นเลิศ...
nn แต่จะว่าไปแล้ว มิใช่แค่เพียงนักการเมืองระดับหมากเบี้ยเท่านั้นที่ดีแต่พูดไปวันๆ เพราะเมื่อมองไปที่นักการเมืองหน้าเก่าที่หลายคนยกเป็นระดับตัวแม่ อย่างเช่นคุณหญิงหน่อย-สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ผู้ชอกช้ำจากพรรคเพื่อไทยมาครั้งแล้วครั้งเล่า ก็มีฝีปากในการถากถางมิใช่ย่อย ล่าสุดออกมาบอกว่าเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เปรียบเสมือนเงินโปรยทาน ใครแย่งได้ก็ได้ไป คนที่แย่งไม่ทันก็อดไป แล้วก็อ้างราวกับว่าพรรคที่สุดารัตน์เคยอยู่มาก่อนไม่เคยกู้เงินสร้างหนี้สินให้กับประเทศไทย โดยอ้างว่าเงินกู้คือเงินที่คนไทยทุกคนต้องร่วมกันใช้หนี้ แล้วก็พูดให้ตัวเองดูดีเกินจริงอีกว่า รัฐบาลต้องเยียวยาด้วยเงินสดให้กับคนทุกครอบครัวโดยทั่วถึง...
nn เมื่อสุดารัตน์พูดเช่นนี้ก็ทำให้มีเสียงโต้กลับทันควันว่าแล้วเมื่อยุคน้ำท่วมจนแตะท้องเครื่องบินที่ดอนเมือง เจ้าของบ้านที่ถูกน้ำท่วมตั้งมากมายหลายพื้นที่ไม่เคยได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลชุดที่บอกว่า “เอาอยู่ๆๆ” ทั้งๆ ที่มีหลักฐานชัดเจนว่าน้ำท่วมเกือบมิดหลังคาบ้าน เรื่องแบบนี้สุดารัตน์จะตอบผู้เสียหายจากการกระทำของรัฐบาลชุดนั้นอย่างไรมิทราบ หรือสุดารัตน์จะตอบว่าไม่เคยรู้ว่ามีเหตุการณ์น้ำท่วมดอนเมืองมาก่อน...
nn ปิดท้ายด้วยเรื่องจีนอนุญาตให้หน่วยรักษาความปลอดภัยชายฝั่ง หรือยามชายฝั่งทะเลสามารถยิงเรือต่างชาติที่ล่วงล้ำน่านน้ำได้ในกรณีที่จำเป็นเพื่อรักษาอธิปไตยของจีน คำสั่งนี้มีผล 1 กุมภาพันธ์ 2564 คำสั่งนี้ทำให้เกิดความวิตกว่าอาจทำให้เกิดความตึงเครียดในเขตทะเลจีนใต้ และทะเลจีนตะวันออก เหตุผลที่ธรรมกรนำเรื่องนี้มาปิดท้ายก็แค่เพียงจะบอกกับพวกโลกสวยที่ชอบถามแบบไร้สติว่ากองทัพต้องมีอาวุธไว้เพื่ออะไร ทราบแล้วเปลี่ยน...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี