ว่าที่ รธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยวันศุกร์ที่ 30 เม.ย. ว่า ภายหลังที่ นางสุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน ทำเรื่องร้องขอให้ส่งนายพริษฐ์ ไปโรงพยาบาล หลังพบว่า มีสภาพร่างกายที่อ่อนเพลีย ซึ่งล่าสุด ทางเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯได้เข้าตรวจร่างกาย และพบว่า มีอาการอ่อนแรงและถ่ายเป็นเลือด จึงได้นำตัวส่งไปยังโรงพยาบาลรามาธิบดี เพราะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินอาหาร เพราะต้องมีการส่องกล้องดูกระเพาะอาหารว่ามีแผลหรือไม่
“รวมทั้งยังต้องมีการให้อาหารทางหลอดเลือด ซึ่งอาการดังกล่าวเกิดจากการอดอาหารมาหลายวัน ซึ่งล่าสุด แพทย์กำลังตรวจดูอาการและกำลังให้การรักษา ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทางเรือนจำมีการดูแลนักโทษทุกคนเป็นอย่างดี หากพบว่ามีการเจ็บป่วยก็พร้อมที่จะนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อรักษาทันที”
กรณีนายเพนกวินที่ได้รับสิทธิพิเศษออกไปนอนพักสบายใน รพ.รามาฯ แสดงว่าต้องมีนักการเมืองที่มีอิทธิพลในกระทรวงยุติธรรมเข้ามาแทรกแซง เพราะเพียงหนึ่งวันก่อนหน้ากรมราชทัณฑ์เป็นผู้แถลงเองว่าอาการของจำเลยในคดี 112 คนนี้ ยังเป็นปกติที่แพทย์และ รพ.ของกรมราชทัณฑ์ดูแลรักษาได้
กรมราชทัณฑ์แถลงถึงอาการของจำเลยว่าไม่ร้ายแรง คงเป็นเหตุผลหนึ่งที่นอกเหนือจากความดื้อรั้นของจำเลยที่ไม่เคารพ ก.ม. ไม่เคารพศาล ไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรม มีพฤติกรรมกระทำผิด ก.ม. ซ้ำซากทำให้ศาลพิจารณาไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวจำเลยชั่วคราว
ขบวนการต่อต้านและเป็นปฏิปักษ์ต่อสถาบันสมคบกันเคลื่อนไหวกดดันให้ศาลปล่อยตัวจำเลยคนนี้เป็นอิสระระหว่างพิจารณาคดีมาแล้วถึง 10 ครั้งแต่ศาลอุทธรณ์ยกคำร้องคือ ไม่ให้ประกันตัวเหมือนเดิม
ขบวนการต่อต้านสถาบันกลับเหิมเกริมถึงกับอาละวาดในบริเวณศาล แม่ของจำเลยซึ่งไม่เคยสำเหนียกว่าลูกของนางทำผิดกฎหมายร้ายแรงอย่างไร แทนที่จะสั่งสอนแนะนำลูกให้เลิกทำ ก.ม.เพื่อให้ได้ประกันตัว นางกลับโทษศาลว่ากลั่นแกล้งลูกของนางเพื่อจงใจจะให้ลูกของนางตาย
ล่าสุดนางถึงกับโกนหัวประท้วงสิ่งที่นางอ้างว่าเป็นความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นกับลูกของนางและหลังจากนางโกนหัวเลขานุการ รมว.ยุติธรรม ก็ออกมาแถลงข่าวว่า จะส่งจำเลยคดีร้ายแรงคนนี้ไปรักษาตัวใน รพ.รามาธิบดี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเกรดเอ ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย
ทำให้สังคมตั้งคำถามและเกิดความสงสัยว่าที่จำเลยแสดงการอดอาหารและแสดงพฤติกรรมชั่วร้ายได้เพราะมีนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ให้ท้ายหรือไม่ รวมถึงขบวนต่อต้านสถาบันฯที่ไม่เคารพศาล ไม่เคารพ ก.ม. ไม่เกรงกลัวใครเพราะมีนักการเมืองใหญ่ให้ท้ายหรือไม่
พฤติกรรมของนักการเมืองที่คนอดสงสัยไม่ได้คือทำไม รมว.ยุติธรรม ถึงได้เข้าไปให้กำลังใจจำเลยในคดีอาญามาตรา 112 ถึงในเรือนจำเมื่อคราวจำเลยถูกศาลสั่งจำคุกครั้งแรก
และในกรณี น.ช.ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เมื่อคราวถูกศาลตัดสินจำคุกในความผิดบุกบ้านป๋าเปรม ระหว่างต้องขัง น.ช.ณัฐวุฒิ ได้สิทธิพิเศษใส่ชุดสากลออกมาพบปะทักทายสรวลเสเฮฮากับพรรคพวกได้ในพิธีศพพ่อของนักโทษ
กรมราชทัณฑ์แถลงตอนนั้นว่าเป็นระเบียบที่เพิ่งแก้ไขใหม่ก่อนหน้าอนุญาตให้ น.ช. ใส่เสื้อนอกออกร่วมพิธีศพพ่อเพียงหนึ่งวัน แต่หลังจากนั้นและก่อนหน้านั้นก็ไม่เคยมีนักโทษคนใดได้รับสิทธิพิเศษอีกเลย
จากปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นกับ น.ช.ณัฐวุฒิ และนายเพนกวินจำเลยในคดีอาญามาตรา 112 ทำคนสงสัยว่ามีนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่ในพรรคแกนนำรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีส่วนสนับสนุนให้ท้ายขบวนการล้มเจ้าด้วยหรือไม่
เพราะมีนักการเมืองระดับแกนนำกลุ่มหลายรายที่แยกตัวจากพรรคการเมืองของสัมภเวสีหนีคุกที่โกงแผ่นดิน ปล้นชาติ อาฆาตพยาบาทสถาบันย้ายมาอยู่ร่วมกับพรรคแกนนำรัฐบาลในเวลานี้
ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ที่ประชาชนสงสัยว่า ทำไมรัฐบาลถึงลอยตัวไม่ลงมือทำอะไรปล่อยให้คนชั่วช้าเลวทรามย่ำยีสถาบันสูงสุดของไทยได้ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
กลุ่มชั่วร้ายมุ่งทำลายสถาบันหลักของชาติเคลื่อนไหวอยู่แรมปีเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมายทำได้แค่จับแล้วปล่อยๆ จนประชาชนทนไม่ได้ยื่นไม้ตายว่าจะเอา ก.ม.มาไว้ในมือคือ จัดการกับอันธพาลระรานสถาบันเสียเอง
สุดท้ายเมื่อกระบวนทางกฎหมายเริ่มเอาจริงเอาจังกับคนร้ายคือไม่ให้ประกันตัวระหว่างพิจารณาคดีกับจำเลยที่ไม่หลาบจำไม่สำเหนียก จำเลยถึงขนาดลุกขึ้นยืนบนม้านั่งอ่านแถลงการณ์ด่าศาลและประกาศอดอาหารจนได้รับการปล่อยตัว
แต่ศาลพิจารณาว่าการอดอาหารเป็นการสมัครใจไม่อนุญาตประกันตัว ถึงจุดนี้นักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่คงได้แรงกดดันมาจากแดนไกลให้ทำอะไรสักอย่าง ดังที่มีปรากฏใหม่ให้จำเลยได้ไปพักผ่อนนอนสบายใน รพ.เกรดเอของประเทศไทย ในขณะประเทศชาติขาดแคลนเตียงคนไข้อันเกิดจากภัยไวรัสโควิด-19
ในภาวะที่สาธารณสุขประสบกับวิกฤติโควิด-19 บุคลากรทางการแพทย์มีงานล้นมือ นักการเมืองยังใช้อิทธิพลแทรกแซงจัดการให้จำเลยซึ่งเกิดอาการข้างเคียงโดยสมัครใจ มาเพิ่มงานให้แพทย์พยาบาลและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่กำลังขาดแคลน
จึงขอเตือนรัฐบาลของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่า นี่เป็นฟางชิ้นสุดท้ายที่ทำให้หลังอูฐหัก
สุทิน วรรณบวร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี