แนวหน้า มั่นคง ตรงไป ตรงมา...
nn ขอขอบพระทัย และขอบใจท่านทั้งหลายเป็นอย่างยิ่ง ที่มีไมตรีจิต พรั่งพร้อมกันมาให้พรวันเกิด รวมทั้งให้คำมั่นสัญญาโดยประการต่างๆ ข้าพเจ้าขอแสดงสนองพร และไมตรีจิตทั้งนั้น ด้วยใจจริงเช่นกัน บ้านเมืองของเราเป็นสุขสืบมา
ช้านาน เพราะเรามีความปึกแผ่นในชาติ และต่างบำเพ็ญกรณียกิจ ตามหน้าที่ให้สอดคล้องเกื้อกูลกัน เพื่อประโยชน์ของชาติ คนไทยทุกคนจึงควรจะตระหนักในข้อนี้ให้มาก และตั้งใจประพฤติตัวปฏิบัติงานให้สมฐานะและหน้าที่ เพื่อให้สำเร็จประโยชน์ส่วนรวม คือความมั่นคงปลอดภัยของชาติบ้านเมืองไทย ขออำนาจแห่งคุณพระรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จงคุ้มครองรักษาท่านทุกคน ให้มีแต่ความผาสุก ร่มเย็นตลอดไป (พระราชดำรัสองค์สุดท้ายของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวโรกาสวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษา ซึ่งเสด็จออกมหาสมาคมนอกพระนครเป็นครั้งแรก ณ ท้องพระโรง ศาลาราชประชาสมาคม วังไกลกังวล อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พระราชทานเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2556)...
nn และแล้วตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยก็เกินระดับ 1 แสนคนไปเรียบร้อยแล้ว โดยตัวเลขล่าสุดของวันอาทิตย์พบว่ามีผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในไทย 101,447 คน รักษาหาย 63,667 คน เสียชีวิต 589 คน แต่ก็มีผู้ตั้งคำถามว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ระบุนี้รวมผู้ติดเชื้อในคุกต่างๆ ทั่วประเทศไทยเข้าไปแล้วหรือยังส่วนที่มีผู้ตั้งคำถามว่า แล้วบรรดานักประท้วงทางการเมืองที่ชูสามนิ้วที่ก่อการประท้วงอยู่ตลอดเวลาคือตัวเผยแพร่เชื้อโควิด-19 ในคุกใช่หรือไม่ เรื่องนี้ต้องรอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สมศักดิ์ เทพสุทิน และอธิบดีกรมราชทัณฑ์ อายุตม์ สินธพพันธุ์ เป็นผู้ชี้แจง
แถลงไขต่อสาธารณชน...
nn แต่อย่างไรก็ตาม ผู้คนจำนวนมากในสังคมไทยได้ทราบแล้วว่าแกนนำผู้ก่อการประท้วงที่ใช้สัญลักษณ์สามนิ้วติดเชื้อโควิด-19 กันหลายราย และแกนนำการประท้วงที่มีรูปร่างใหญ่โตรายหนึ่งก็ออกมาโวยวายว่าบุพการีของตนติดเชื้อ
โควิด-19 ด้วย โดยตั้งคำถามทำนองว่าหน่วยงานของรัฐบาลปกปิดข้อเท็จจริงเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อโรคตัวนี้ จนทำให้พ่อแม่ของตนติดเชื้อไขหวัดมรณะตัวนี้ไปด้วย แต่สำหรับประเด็นแกนนำม็อบสามนิ้วติดเชื้อโควิด-19 ก็ต้องตรวจสอบต่อไปว่า ติดเชื้อจากในคุกหรือนำเชื้อจากภายนอกเข้าไปแพร่ระบาดในคุก...
nn แต่สำหรับพวกที่ไปร่วมประท้วงก่อเหตุวุ่นวายที่เคยตะโกนบอกว่า เรื่องเชื้อโควิด-19 เป็นเพียงการกุเรื่องของผู้มีอำนาจรัฐเพื่อขัดขวางการประท้วงเท่านั้น เมื่อความจริงปรากฏแล้วว่าแกนนำการประท้วงติดโควิด-19 จริงๆ ก็คงทำให้พวกที่เห็นว่าโควิด-19 เป็นเรื่องขำๆ ชิลๆ ก็เกิดอาการหัวเราะไม่ออกในบัดดล...
nn มีคำถามว่า คนไทยจะได้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เมื่อไร คำตอบคือ เมื่อเรามีวัคซีนมากพอสำหรับฉีดให้กับทุกคน ส่วนคนที่ไม่อยากฉีด ก็ไม่มีใครว่าอะไร เพราะมีผู้ต้องการฉีดเป็นจำนวนมิใช่น้อย ใครไม่ฉีดก็ขอให้สละสิทธิ์
ส่วนคนที่ไม่มีความรู้แท้จริงเรื่องวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก็ขอให้เลิกส่งข้อความเท็จไปตาม social media เถอะ แล้วก็ขอเตือนสติคนที่ชอบเสพเรื่องเท็จใน social media ว่า หากต้องการความจริงเรื่องวัคซีนโควิด-19 ขอให้สอบถามจากแพทย์ที่รู้เรื่องนี้เท่านั้น อย่าไปถามหมอผี หมอดู หรือหมอรักษาสัตว์ รวมถึงอย่าไปฟัง สส. จำพวกที่ต่อต้านวัคซีนป้องกันโควิด-19 แต่วิ่งหางชี้รีบไปฉีดวัคซีนตัวนี้ก่อนหน้าคนจำนวนมากของประเทศ...
nn ราคาบ้าน คอนโดมิเนียมอพาร์ทเมนท์ในกรุงเทพฯ แพงระยับจับจิตจริงๆ คุณเอ๋ย เพราะเมื่อเทียบราคาที่อยู่อาศัยของเมืองกรุงเทพฯ กับเมืองอื่นๆ ทั่วโลกโดยเฉพาะเมืองที่ได้รับการจัดอันดับว่าเป็นเมืองที่น่าอยู่ที่สุด10 อันดับแรกของโลก คือ เวียนนา เมลเบิร์น ซิดนีย์ โอซากา แคลเกอรี (แคนาดา) แวนคูเวอร์ โตรอนโต โตเกียว โคเปนเฮเกน และแอดิเลด (ออสเตรเลีย) (อ้างอิงการจัดอันดับจากนิตยสาร The Economist) แล้วพบว่าราคาที่อยู่อาศัยในเมืองเหล่านั้นมีสนนราคาถูกกว่ากรุงเทพฯ เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้ของประชากรแบบหัวต่อหัว วิธีคำนวณว่าราคาที่พักอาศัยในประเทศต่างๆ ถูกหรือแพงเมื่อเทียบกับรายได้ประชากร ก็ทำได้ดังนี้ นำราคาห้องชุดขนาด35 ตารางเมตร หนึ่งห้องแล้วหารด้วยรายได้เฉลี่ยต่อปีของประชากร แล้วดูผลลัพธ์ว่าเป็นเท่าไรถ้าหากผลลัพธ์ต่ำก็นับว่าราคาที่พักอาศัยไม่แพง แต่หากผลลัพธ์สูงมาก ก็ถือว่าราคาที่พักอาศัยของประเทศนั้นๆ แพง ตัวอย่างเช่น ราคาห้องชุดในเมืองแคลเกอรี (ออสเตรเลีย) 3,556,963 บาท รายได้เฉลี่ยของประชากรตัวหัว 125,382 บาท พบว่าราคาห้องพักต่อรายได้ต่อปีอยู่ที่ 2.36 แต่สำหรับกรุงเทพฯ
ราคาห้องชุดอยู่ที่ 2,720,000 บาท รายได้เฉลี่ยตัวหัวอยู่ที่ 26,500 บาท พบว่าราคาห้องชุดต่อรายได้เฉลี่ยสูงถึง 8.55 เท่า นั่นแสดงว่าราคาที่พักในกรุงเทพฯสูงกว่าที่เมืองแคลเกอรี และสูงกว่าเมืองน่าอยู่ที่สุดทั้ง 10 แห่งของโลกด้วย เพราะราคาที่พักเทียบกับรายได้ต่อหัวประชากรยังอยู่ที่ระดับ 6.24 เท่านั้น ในขณะที่กรุงเทพฯอยู่ที่ระดับ 8.55...
nn เมื่อดูตัวเลขนี้แล้วคุณคงเห็นแล้วใช่ไหมว่า ทำไมผู้ทำธุรกิจบ้านและคอนโดมิเนียมในกรุงเทพฯ จึงรวยล้นฟ้าท่วมดินกันทุกราย เพราะฉะนั้นเมื่อเมืองไทยประสบปัญหาโควิด-19 รุกราน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ในไทยก็ร้องโวยวายกันระงม แต่เมื่อคนไทยเห็นถึงผลต่างของราคาที่พักอาศัยระหว่างไทยกับเมืองที่น่าอยู่ที่สุด 10 แห่งทั่วโลกแล้ว คนไทยก็เลยไม่รู้สึกเห็นอกเห็นใจเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในบ้านเรามากนักเพราะเห็นว่าฟันรายได้ไปมากจนเกินบรรยายมานานแล้ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฟันกำไรต่อปีอยู่ที่ระดับ 15-20 เปอร์เซ็นต์ มาเป็นเวลานานแล้ว ในขณะที่คนไทยส่วนใหญ่ทั้งประเทศมีรายได้เพิ่มในแต่ละปีไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์...nn
ธรรมกร
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี