หลังจากที่ “โจโฉ” ได้ยอดกุนซือชื่อ “กุยแก” มาร่วมทีม และได้ยอดนักรบมาร่วมศึก เช่น “แฮหัวตุ้น เคาทูลิเตียน ซิหลง และโจหอง”เป็นต้น โจโฉก็คิดการใหญ่ จะปราบปรามทุกเมืองให้อยู่ในอำนาจโดยเร็ว
แต่ “กุยแก” ได้ทัดทานไว้ว่า โจโฉอยู่ในห้วงเวลาสร้างกองทัพให้เติบใหญ่ จงอย่าเปิดศึกกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่ให้เลือกยึดเมืองที่อ่อนแอทางภาคเหนือ แต่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยอาหาร เมื่อสะสมเสบียงและกำลังพลได้มากแล้ว จึงมาทำศึกกับอ้วนเสี้ยวและซุนกวนต่อไป
โจโฉเชื่อฟังกุยแก จึงเปิดศึกลุยทางเหนือตามแผนกุยแก พอยึดเมืองไหนได้ “กุยแก” แนะนำให้โจโฉใช้นโยบาย “ถุยเถียน” กับประชาชนในเมืองนั้น
“ถุยเถียน” หมายถึง “ทหารพัฒนา” โดยให้กำลังพลของโจโฉ “ห้ามข่มเหงชาวบ้าน” อย่างเด็ดขาด แต่ให้ทหารโจโฉไปช่วยทำนาและเลี้ยงสัตว์กับชาวบ้าน ครั้งต้นข้าวสุกและเก็บเกี่ยวได้ โจโฉจะซื้อข้าวดังกล่าวด้วยราคางาม และซื้อฝูงปศุสัตว์มาทำเสบียง
ส่วนชายฉกรรจ์ทั้งหลาย “กุยแก” แนะให้โจโฉใช้นโยบาย “สมัครใจมาอยู่กับกองทัพโจโฉ” แทนการบังคับไล่ล่าให้มาเป็นทาสนักรบ
จากการใช้นโยบาย “ถุยเถียน” ของกุยแก ทำให้กองทัพโจโฉมีเสบียงอย่างมากมายและมีกำลังพลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ถึงเวลาที่กุยแกแนะนำให้โจโฉทำการปราบปรามเมืองใหญ่ที่อยู่ในอำนาจของลิโป้ อ้วนเสี้ยว เป็นต้น
กรณีขจัดอ้วนเสี้ยวนั้น “กุยแก” ได้แนะนำโจโฉไว้ว่า“อ้วนเสี้ยวไม่ใช่ศัตรูตัวสำคัญ” แม้จะมีกำลังทหารมากและเสบียงอุดมสมบูรณ์ แถมยังปกครองเมืองใหญ่ๆ ถึง 4 เมือง ได้แก่ เมือง
กิจิ๋ว เมืองเองจิ๋ว เมืองอิวจิ๋วและเมืองเต็งจิ๋ว นอกจากนั้นยังมีบุตรชายสามคนที่เป็นนักรบที่แข็งแกร่ง
“กุยแก” แนะนำให้วางแผนขจัด “ลิโป้” ก่อนเพราะถ้าสิ้นลิโป้แล้ว อ้วนเสี้ยวก็เป็นหมูในกระทะ ส่วนบุตรชายของอ้วนเสี้ยวนั้น “กุยแก” มีแผนที่จะยุยงให้เข่นฆ่ากันเอง
โจโฉทำตาม “หวังขจัดลิโป้” ได้แล้ว แต่ยังไม่ทันได้ปราบปรามอ้วนเสี้ยว “กุยแก” ก็มาล้มป่วยตายเสียก่อน
หลังกุยแกตาย โจโฉก็ยังใช้แผนการที่กุยแกวางไว้จนลูกชายอ้วนเสี้ยวต่างเข่นฆ่ากันเอง “จนตระกูลอ้วนรูดม่านสิ้นอำนาจ”
หลังสิ้นกุยแก โจโฉได้ทำศึกต่อไปแบบแพ้บ้าง ชนะบ้างแต่มาสูญเสียครั้งสำคัญที่ “ศึกผาแดง” โดยโจโฉแตกทัพเรือที่ตำบลเซ็กเพ็กในปี พ.ศ.751 ทหารหลายแสนคนตายในกองไฟจากฝีมือวางแผนของ “ขงเบ้ง” และ “จิวยี่”
ระหว่าง “ขงเบ้ง” กับ “กุยแก” ไม่มีโอกาสชี้ขาดว่า “ปัญญาใครเหนือกว่ากัน” เพราะวันที่ “กุยแกฉายแสง” นั้น “ขงเบ้งยังไม่ได้เข้ามาสู่ยุทธจักรชิงอำนาจ”
วันที่ “ขงเบ้งฉายแสง” ชีวิตของ กุยแกก็หาไม่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ต่อมาโจโฉได้ยอดกุนซือชื่อ “สุมาอี้” ซึ่งเป็น “ติ่งกุยแก” ที่เลื่อมใสกุยแกตั้งแต่เป็นเด็กๆ และ “สุมาอี้” นี่แหละที่ทำให้ “วุยก๊ก” ของโจโฉ “ชนะขาด” ในสามก๊ก
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี