ในวิกฤติย่อมมีโอกาส และทุกวิกฤติก็มักจะมีผู้สามารถพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาสได้เสมอ แต่ก็ต้องยอมรับความจริงว่า หลายต่อหลายธุรกิจก็ไปไม่รอดในช่วงที่สังคมไทยต้องตกอยู่ในขณะที่วิกฤติโควิด-19 แพร่ระบาดอย่างหนักยาวนานนับปี
วันนี้เราจะมาพูดถึงธุรกิจที่ไปได้ดีในช่วงโควิด-19ระบาดหนัก ได้แก่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์สินค้าจำพวกอาหารและเครื่องดื่มแบบ delivery service ธุรกิจด้านสุขภาพ และธุรกิจด้านร้านขายของชำ (grocerystore) รวมถึงธุรกิจขนส่งสินค้าและอาหารไปตามบ้านของผู้สั่งซื้อสินค้า และยังมีธุรกิจที่ไปได้ค่อยข้างดี เช่นการผลิตหน้ากากอนามัย ถุงมือยางสำหรับการแพทย์ และชุด PPE รวมถึงแอลกอฮอล์เจลสำหรับทำความสะอาดมือ และน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เป็นต้น
ยิ่งผู้คนจำนวนมากกลัวการติดเชื้อโควิด-19 มากเสียจนไม่กล้าออกนอกบ้าน และยังมีคนอีกจำนวนมากที่ต้อง Work from Home คนกลุ่มนี้คือลูกค้ารายสำคัญและรายใหญ่ของธุรกิจส่งอาหาร เครื่องดื่ม ขนม และของใช้ต่างๆ ไปถึงบ้านของลูกค้า ซึ่งเรียกกันทั่วไปว่าธุรกิจ delivery สารพัดชนิด จะเห็นว่าการสั่งอาหารด้วยการใช้บริหาร delivery ทุกครั้งนอกจากจะต้องสั่งผ่านผู้ให้บริการ delivery สารพัดยี่ห้อแล้ว ยังพบว่าอาหารทุกชนิดที่สั่งนั้นต้องมีบรรจุภัณฑ์ทั้งกระดาษและพลาสติกโดยไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เพราะยังไม่มีผู้ให้บริการรายใดยินยอมให้ใช้ปิ่นโต หรือภาชนะที่สามารถทำกลับมาใช้ซ้ำได้อีกในการส่งอาหารและเครื่องดื่มที่ลูกค้าสั่งให้ส่งไปที่บ้าน
ส่วนสินค้าประเภท grocery หรือสินค้าอุปโภค-บริโภคในชีวิตประจำวัน ที่เรียกรวมๆ ว่าของชำนั้น ก็มีความต้องการสูงเช่นกัน เพราะคนทุกคนยังต้องกินต้องใช้ของเหล่านี้โดยไม่มีทางหลีกเลี่ยงได้ ดังพบว่าในสหรัฐฯ นั้น Kroger ซึ่งเป็นเชนค้าปลีกที่ใหญ่ที่สุดมีราคาหุ้นเพิ่มขึ้นประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ (อ้างอิงจาก www.kroger.com) ส่วนในประเทศไทยก็พบว่าร้านค้าจำพวกสะดวกซื้อและห้างยักษ์ใหญ่ที่เรียกว่า super store ยังคงทำรายได้ดีแม้บางบริษัทอาจจะอ้างว่ายอดขายลดลงบ้าง แต่ก็ยังไม่เคยพบว่าห้าง super store ใดในประเทศไทยต้องปิดตัวลงในช่วงวิกฤติโควิด-19 ระบาด
ยังมีอีกธุรกิจหนึ่งที่มีรายได้ดีขึ้นในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ได้แก่ธุรกิจ VDO streaming หรือการให้บริการให้คำปรึกษาด้านการแพทย์และสุขภาพผ่านระบบวีดีโอแบบ real time ซึ่งธุรกิจนี้ช่วยให้ผู้ป่วยที่อาการไม่หนักมากไม่จำเป็นต้องเดินทางออกจากบ้านไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลหรือคลินิก แต่สามารถปรึกษาและข้อคำแนะนำการรักษาจากแพทย์ได้โดยตรง ตัวอย่างของเรื่องนี้ที่เห็นได้ชัดคือ รายได้ของบริษัท Teledoc Health บริษัทให้คำปรึกษาด้านการแพทย์ในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาดมีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยมีการระบุว่ามีผู้ใช้บริการมากขึ้นประมาณ 70 เปอร์เซ็นต์ (อ้างอิงจาก www.teledochealth.com)
นอกจากนี้ ยังพบว่าธุรกิจขนส่งสินค้าระหว่างประเทศก็ยังคงมีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ แม้จะไม่เติบโตเท่ากับช่วงที่เศรษฐกิจดี เพราะไม่มีประเด็นเรื่องโควิด-19 แพร่ระบาด แต่ก็พบว่ายังคงเติบโตและสร้างรายได้ ได้อย่างน่าพอใจเมื่อเทียบกับธุรกิจบริการด้านสายการบินพาณิชย์ โรงแรม และบริษัทท่องเที่ยว
เหตุผลที่ชวนคุณคุยเรื่องธุรกิจที่ยังไปได้ดีในช่วงโควิด-19 แพร่ระบาด ก็เพราะต้องการเตือนสติเราทุกคนว่า ในวิกฤติยังมีโอกาส แต่โอกาสจะเป็นของผู้ที่ไม่ยอมจำนนต่อวิกฤติเท่านั้น และอยากให้คุณ ๆ ช่วยกันวิเคราะห์ว่าวิกฤติโควิด-19 ครั้งนี้ รัฐบาลไทยจะสามารถพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้หรือไม่ หรือแค่แก้ปัญหาเรื่องขาดแคลนวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพียงอย่างเดียว รัฐบาลก็จะเอาตัวไม่รอดแล้ว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี