การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. ในวันที่ 22 พ.ค.นี้ กำลังอยู่ในความสนใจของคนทั้งประเทศ
1. คุณต้น-สุชาติ ชวางกูร อดีตนักร้องชื่อดัง ได้ให้ข้อคิดความเห็นที่น่าสนใจ บางตอนระบุว่า
“... ผมมีหลักอย่างไรในการที่จะเลือก คนมาทำหน้าที่เป็น“ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” ในคราวนี้ ผมใช้หลักการง่ายๆไม่ซับซ้อน อยู่ ๒ อย่างครับ
หลักการที่ ๑ process of elimination มี ๓ “อย่า”
๑. “อย่าเลือกเพราะเชื่อผล poll” ... ต้องไม่ลืมว่าโพลต่างๆ ที่ทำกัน ใช้หลักการทางสถิติ คือ การสุ่มตัวอย่าง จากจำนวนประชากรผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งทั้งหมด 4 ล้านคน กลุ่มตัวอย่างที่เขาไปเลือกสุ่มขึ้นมาแค่หลักพันคิดเป็นเพียง ๐.๐๐๐๕ เปอร์เซ็นต์ของจำนวนผู้ที่มีสิทธิ์ออกเสียงเลือกตั้ง.....ก็ดูเอาแล้วกัน จำนวนไม่ถึง ๑/๑๐ ของ ๑ เปอร์เซ็นต์จะมาเป็นตัวแทน ความคิดของคนทั้งหมดได้อย่างไร?? วิธีการเลือกสุ่มกลุ่มตัวอย่างมันก็ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “bias” ได้อีกเช่นกัน ถามตัวคุณเองสิว่า คุณเคยอยู่ในกลุ่มตัวอย่างของโพลต่างๆเหล่านี้หรือไม่??? ผลของโพลคืออะไร??? ก็คือความคิดของคนอื่นไม่ใช่ความคิดของคุณ..
๒. อย่าเลือกเพราะ เขาบอกต่อๆกันมาว่าคนนี้เก่งคนนี้ดี....ให้ดู ว่าเขาทำอะไรมาบ้าง?? มีผลงานอะไรบ้าง ที่เป็นรูปประธรรมจับต้องได้ ทำได้จริงๆ ไม่ใช่มาขายฝัน เพ้อเจ้อกับ โครงการนู่นนี่นั่นโน่น โครงการหรือไอเดียต่างๆ มันเป็นสิ่งดี แต่มันจะไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ ถ้ามันมาก่อนเวลาอันควร มาก่อนเทคโนโลยี มาก่อนความพร้อมของประชาชนที่จะรับมันได้ จะมาขอโอกาสอะไรกัน ถ้าไม่เคยพิสูจน์ตัวเองว่า มีผลงาน กรุงเทพมหานครงบประมาณ 6 หมื่นกว่าล้าน ไม่ใช่พื้นที่สำหรับจะมาฝึกงานลองผิดลองถูก ดังนั้นจึงต้องเลือกเอาคนที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ก็มากับอายุ...อายุน้อยๆ จะเอาประสบการณ์จากที่ไหน??? อัลเบิร์ตไอน์สไตน์กล่าวไว้ว่า knowledge is nothingmore but experienced.
๓. อย่าเลือกถ้ามีประวัติ การเกี่ยวข้องเชื่อมโยง กับบุคคล คณะบุคคลกลุ่มก้อนการเมืองที่ มีพฤติกรรมโกงกินบ้านเมือง จาบจ้วงล่วงละเมิด สถาบันเบื้องสูงของชาติ ดูถูก ดูแคลนด้อยค่ารากเหง้าของความเป็นไทย ลบหลู่บรรพบุรุษ บรรพชน เข้าข่าย เนรคุณ ทั้งหลาย มันไม่ใช่ความคิดใหม่อะไรที่จะพยายามลบล้างของเก่าของที่มีมาแต่ดั้งเดิม สิ่งที่สั่งสมกลั่นกรองมาตามกาลเวลา จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีอัตลักษณ์โดดเด่นไม่เหมือนใคร. นักการเมืองกลุ่มไหนที่มีความคิดต่อต้าน ล้มล้างรากเหง้าสิ่งเหล่านี้ อย่าเลือกครับ เพราะคุณจะไม่ได้ความสงบสุขในบ้านเมือง คุณจะได้ความแตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ายรบราฆ่าฟันด่าทอ มีแต่ความเครียด ความทุกข์ตลอดกาล. การจะเปลี่ยนแปลงบ้านเมือง ไปในทางที่ดี ต้องเปลี่ยนด้วยพลังบวก ไม่ใช่พลังลบ ถ้าใช้พลังลบมาเปลี่ยนแปลง... หายนะครับ...หายนะ
หลักการที่ ๒ คือ บารมีต่อเนื่อง
๑. สืบสาน-รักษา-ต่อยอด... ในช่วงเวลาที่เราไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯกันมา ให้สังเกตดูว่ามีโครงการอะไรดีๆที่เกิดขึ้นและเราอยากจะให้มันอยู่ต่อไปหรือดำเนินต่อไปให้เสร็จสมบูรณ์ เช่น โครงการคลองสะอาด โครงการน้ำสะอาดในคลอง โครงการยกเลิก บ้านที่รุกล้ำลงไปในคลองสาธารณะต่างๆโครงการเรื่องการคืนพื้นที่ทางเท้า โครงการ พัฒนาแหล่งเสื่อมโทรม โครงการรักษาความปลอดภัย ฯลฯ เลือกคนที่จะดำเนินโครงการดีๆ เหล่านี้ให้ต่อเนื่องต่อไปใครที่คิด จะล้มล้างเปลี่ยนแปลงความอึดอัดคับใจของคนกรุงเทพฯที่ต้องอยู่กับความเหลวแหลกของนักการเมืองในการที่จะรักษาฐานเสียงโดยไม่ไปจัดการเรื่องการบุกรุกพื้นที่ทางน้ำ พื้นที่ทางเท้าให้มันกลับมา เละเทะอีกครั้งอย่าเลือกนะครับ โครงการดีๆ ของผู้สมัครแต่ละคนถึงแม้เขาจะไม่ได้มาเป็นผู้ว่าก็สามารถที่จะนำมา ทำได้ หากประชาชนเรียกร้อง
๒. ความต่อเนื่องของการบริหารงาน ปฏิเสธไม่ได้หรอกครับว่า หน่วยงานราชการของกรุงเทพมหานคร ทุกหน่วยมีเสือสิงห์กระทิงแรดเจ้าพ่อเจ้าแม่ ประจำอยู่ทุกที่แหละ การที่คนจะมาเป็นผู้บริหารกว่าจะรู้เช่นเห็นชาติว่าใครเป็นอย่างไรก็คงจะต้องใช้เวลา ในการลองผิดลองถูกดูท่าทีชั้นเชิง ประลองอิทธิฤทธิ์อิทธิฤทธิ์เดช กันพอสมควรทีเดียว หากไม่มีความต่อเนื่องของการบริหาร ก็จะต้องเสียเวลามาต่อกร ลองผิดลองถูก กับเจ้าพ่อเจ้าแม่เจ้าถิ่นในแต่ละหน่วยงานของกรุงเทพฯอีกนาน ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ที่เห็นผ่านๆมาผู้ว่าฯท่านก่อนๆ ไม่ได้ประสบความสำเร็จในการดำเนินงานให้กรุงเทพมหานคร มีความ ลื่นไหลในการบริหารก็เพราะด้วยสาเหตุนี้แหละ
๓. “บารมี” ต้องเลือกคนมีบารมีมีฤทธิ์เดช ถึงใครจะบอกว่าโอ้ยมันล้าหลังความคิดแบบนี้ มันไม่ล้าหลังหรอกครับ มันเป็นความจริงของชีวิตไม่ใช่แต่เฉพาะสังคมไทย สังคมใดๆในโลก ประเทศใดๆในโลก ก็มีทั้งนั้น ประเทศที่หลายคนคิดว่า มีประชาธิปไตยเป็นอันดับ ๑ อันดับ ๒ ของโลก มีความเป็นอยู่ที่ดี มีทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีโปร่งใสอะไรบลาๆๆ..ก็มีเรื่องของบารมีทั้งนั้นแหละ คนไม่มีบารมี ไม่มีฤทธิ์เดชเป็นผู้บริหารไม่ได้ อย่าปฏิเสธความเป็นจริง... สัจธรรม เรื่องของโลกในอุดมคติในตำราในทฤษฎีมันก็คือเรื่องที่อยู่ในตำราในทฤษฎี มันไม่ได้เป็นจริงไปตามบริบทของสังคมมนุษย์...”
2. เพจดัง Vaccine ได้นำความเห็นบางส่วนข้างต้นในการเผยแพร่ และได้ตั้งประเด็นชวนคิดต่อไปด้วยว่า
“ถึงเวลารวมใจเลือกตั้งเชิงยุทธศาสตร์ สกัดผู้ว่าฯอิสระ ที่เป็นเสาไฟฟ้าของใครคนนั้น
“ส่งเสาไฟฟ้าลงก็ชนะ” คนที่เกิดทันเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ครั้งก่อน คงจำประโยคเด็ดของพรรคเพื่อไทยของนายใหญ่ทักษิณได้ ประโยคนี้เองที่ทำให้เกิดแลนด์สไลด์ คนกทม.แห่ออกมากาให้คุณชายสุขุมพันธ์ุแทนที่จะกาให้จูดี้ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ จากพรรคเพื่อไทย
รอบนี้เพื่อไทยจึงไม่ส่งผู้สมัครผู้ว่าฯ แต่ก็รู้ๆ กันว่า ชัชชาติคนของใคร
ทั้งเพื่อไทย เสื้อแดง หรือส้มสามนิ้ว ชะช่าเข้าได้หมดเพราะพวกเดียวกัน...”
3. น่าสนใจว่า ระยะเวลาที่เหลืออยู่ ใครจะมาวิน
อย่าลืมว่า ที่ผ่านมา สนามเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. คือ สนามปราบโพลอย่างแท้จริง
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี