“บุคคลแนวหน้า” ใน
“หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.comสื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้
“ไม้หน้าสาม ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏ รู้เท่าทันนักการเมืองชังชาติ อย่างเท่าเทียม” ... เริ่มด้วย
“ร่างพระราชบัญญัติสมรสเท่าเทียม” ที่จะเข้าสู่การพิจารณาของท่านผู้ทรงเกียรติเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.นี้ แต่ที่จะกล่าวไม่ใช่สาระของกฎหมายสมรสเท่าเทียมซึ่งคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ หากแต่เป็นผลข้างเคียงที่เป็นบวกของสังคมไทย...
nn “เศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บ.แสนสิริ ยักษ์ใหญ่ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์” ซึ่งเคยมีชื่อเป็นตัวเต็งตัวแทน “นายใหญ่แดนไกล-ทักษิณ ชินวัตร” นั่งเก้าอี้ นายกรัฐมนตรีภายใต้คอกจันทร์ส่องหล้า หลัง “นายใหญ่สำรอกถ่มถุย!!” หมดยุค “เบบี้บูมเมอร์” บริหารประเทศ ประกาศจับมือ 8 ธนาคารพาณิชย์ชั้นนำหนุนสิทธิ์ทุกคนควรเท่ากันอย่างเท่าเทียม ปล่อยกู้ให้คู่รักคู่ชีวิตเพศเดียวกัน หรือ “แอลจีบีทีคิว (LGBTQ)” ประกอบด้วยไทยพาณิชย์, กรุงเทพ, กรุงไทย, กสิกรไทย, อาคารสงเคราะห์, ออมสิน, ทหารไทยธนชาต, และยูโอบี โดยมีเงื่อนไขในการกู้ร่วม “คู่รัก LGBTQ” จะต้องมีเอกสารรับรองการอยู่ร่วมกัน โดยจะสามารถกู้ได้สูงสุด 90-95% ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับคุณสมบัติผู้กู้ร่วมและความมั่นคงทางอาชีพหรือการเงินของผู้กู้เป็นหลักด้วย หลังจากความเดิมก่อนหน้านี้ฝ่ายสินเชื่อมองว่า “คู่รักประเภทนี้เสี่ยงเลิกรากันมากกว่าคู่รักคู่ชีวิตปกติชายหญิง”...
nn
“ประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย” ที่ประกาศตัวเป็นความหวังใหม่ของประชาชนที่จะสร้างปรากฏการณ์
“แลนด์สไลด์” ฉกอำนาจรัฐจัดตั้งรัฐบาล ประกาศชัดเตรียมสอบ
“พฤติกรรม 7 งูเห่า” ที่ยืนหยัดรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนลงมติรับหลักการร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2566 สวนมติพรรคเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา คุยขรม
“หัวกระไดไม่แห้ง” มี
“ตลกบนหลังคารถ” อยากมาร่วมกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคมากมายเนื่องจาก
พรรคเป็นที่คาดหวังของประชาชน??
... ยังฉวยโอกาสแซะ “ลุงตู่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” แบบที่เรียกได้ว่า ข้อความที่สำรอกไม่รู้ว่าสื่อถึงใคร“เล่นการเมืองต้องโปร่งใส อย่าเป็นอีแอบ” แม้จะเคยเป็น “ชายคนหนึ่งที่ผ่านรั้วคณะเราชมพู-ม่วง” มาก็ตามที “ไม้หน้าสาม” แม้จะยึดมั่น“เชื่อฟังพี่ ดีกับเพื่อน คอยเตือนน้อง” แต่อยากเตือนสติศิษย์พี่ให้หยุดคิดตริตรอง หากระจกมาส่องหรือตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูความเป็นจริงว่าข้อความที่เอ่ยควรบอกใคร “อีแอบ” ที่ว่านักการเมืองคนไหน, ค่ายไหน ใส่ผ้าถุงนุ่งกระโจมอก เห่าหอนประจานตัวเองอยู่ไกลบ้านในสังคมการเมืองปัจจุบัน
... ตอบให้ชัดด้วยใจที่เป็นกลางไร้อคติ โมหจริตว่าวาทะที่กล่าวหา
“พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” หลังการสมัครเข้าเป็น
“สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ” และอาจจะก้าวขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคบริหารงานภายในพรรคแทนที่
“พี่ใหญ่ - พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ” เองนั้น
สมควรสมเหตุสมผลหรือไม่พฤติกรรมเยี่ยงนี้
“เห่าใบตองแห้ง” โดยแท้ แต่จะกล่าวเยี่ยงนั้นก็
“สงสารสุนัข” ที่ต้องถูกนำมาเปรียบเปรยกับพฤติกรรมคนเหล่านี้ เพราะพฤติกรรมของบุคคลที่ถูกคนเยี่ยงนี้กล่าวหานั้น ตรงไปตรงมาเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศไทยที่ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ยุติธรรมพัฒนาประเทศในทุกพื้นที่ไม่แบ่งแยกเลือกปฏิบัติ...
nn “พระธรรมโกศาจารย์ - พุทธทาสภิกขุ (เงื่อม อินทปญฺโญ)” ท่านแสดงวาทธรรมทางการเมืองใกล้เคียงกับเรื่องราวนี้ว่า “การเมืองคืออะไร นักการเมืองคือบุคคลเช่นไร เราควรจะจัดการการเมืองกันไปทางไหน เป็นสิ่งที่ต้องมาถามกัน และหาคำตอบให้ได้ เพื่ออนาคตที่สดใสหรือเพื่อให้เกิดฟ้าสางทางการเมืองกันต่อไป การเมืองที่แท้จริงต้องเป็นการสร้างสันติภาพโดยไม่ต้องใช้อาชญา หมายถึงใช้สติปัญญา ทำความเข้าใจซึ่งกันและกันในหมู่ส่ำสัตว์ที่มีชีวิตทั้งหลาย เพื่ออยู่กันเป็นผาสุก”...
nn ขณะที่นักการเมืองส่วนหนึ่งปวารณาตัวเป็นทาสรับใช้ใน “ระบอบทักษิณ” หลงใหลในความเจริญด้านวัตถุ ไม่มีความละอาย ทว่าต้นตำรับ “ระบอบทักษิณ” ก็มีจิตใจที่ไม่รู้สึกถึงความละอาย ไม่มีความกลัวต่อผลของการกระทำ ตกเป็น “ทาสของกิเลส เป็นทาสของเนื้อหนัง” เมื่อเป็นทาสของกิเลสของเนื้อหนังก็จะห่างไกลจะละทิ้งพระธรรมคำสอนของพุทธองค์ ละทิ้งศาสนา แม้แต่วัฒนธรรมของบรรพบุรุษก็จะถูกละทิ้ง ได้แต่คอยจ้องเอาเปรียบกันไปวันหนึ่งๆ เท่านั้น เพื่อให้ได้มีโอกาสแสวงหาความสุขสนุกสนานเป็นทาสทางเนื้อหนัง...
nn นี่คือต้นเหตุที่ทำให้ระบบการเมืองเปลี่ยนไปในปัจจุบัน เมื่อละทิ้งศาสนา พระธรรมคำสอนก็ไม่มีศีลธรรม เมื่อไร้ศีลธรรมความโลภความโกงการทุจริตคอร์รัปชั่นก็เกิดขึ้น จึงเป็นบรรยากาศการเมืองอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน บ้านเมืองไร้ความสงบไร้สันติภาพ ... นักการเมืองนายทุนจะสูบเอาส่วนเกินของคนส่วนใหญ่ ไปเป็นความมั่งคั่งร่ำรวยของตน...
nn “ไม้หน้าสาม” ไม่ได้พับจรรยาบรรณสื่อมวลชนไว้ในถุงยาง ตั้งหน้าตั้งตาอวย “ลุงตู่”ในฐานะนายกรัฐมนตรีประเทศไทยออกหน้าออกตาจนเกินงาม แต่ชื่นชมและเห็นด้วยกับวาทะที่ท่านพูดไว้ช่วงหนึ่งในงานสัมมนากำหนดยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวประเทศไทยที่จังหวัดภูเก็ตตอบโต้“โลภะและโมหะของนักการเมืองฝ่ายค้าน” ว่า“ผมไม่เคยเป็นนายกฯ มาก่อน ก่อนเป็นนายกฯ ครั้งนี้ เคยเป็นแต่ ผบ.ทบ.อาจจะเป็นนานหน่อยแต่ทำให้งานมันเดิน อย่างมียุทธศาสตร์ ไม่ใช่ผมอยู่จนตายคารัง แหม่..ขึ้นอยู่กับประชาชนอยู่แล้ว”แล้วอย่างนี้ประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง จะไม่สนับสนุนให้ “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกคำรบเชียวหรือ...
nn ทิ้งท้ายฉบับนี้“ไม้หน้าสาม” ฝากข้อความที่น่าฟังเรื่องหนึ่งที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม” กล่าวถึงผู้ต้องขัง “เพื่อนศาสดาสื่อ - สรยุทธ สุทัศนะจินดา” ที่เคยเรียกขานคนเหล่านี้ว่า “ผู้ต้องขังบางคน การได้ออกจากเรือนจำ เหมือนข้าราชการได้ไปดูงานยุโรป ผู้ต้องขังที่อยู่ในเรือนจำตลอด การได้ออกมาลอกท่อ กทม. ก็เหมือนได้ทัศนศึกษาท่องเที่ยว...nn
ไม้หน้าสาม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี