สาธารณชนที่สนใจประเด็นพฤติกรรมประหลาดของกลุ่มคนที่ได้ชื่อว่ามีสถานภาพเป็นปัญญาชนในมหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของประเทศไทย พากันตั้งคำถามไปยังสื่อมวลชนทั้งหลายว่า เหตุใด และทำไมจึงไม่นำเสนอข่าวที่ประชาชนกลุ่มหนึ่งรวมตัวไปเรียกร้องให้ผู้บริหารของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจัดการขั้นเด็ดขาดกับนิสิตจุฬาฯ กลุ่มหนึ่งที่แสดงพฤติกรรมอันไม่เหมาะไม่ควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์โดยประชาชนกลุ่มนี้ย้ำด้วยว่านิสิตจุฬาฯ กลุ่มหนึ่งแสดงพฤติกรรมไม่บังควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มาโดยต่อเนื่อง แล้วก็ไม่เคยพบว่าผู้บริหารจุฬาฯ จะแสดงความรับผิดชอบอย่างไรต่อเหตุไม่บังควรเหล่านั้น ทั้งๆ ที่นิสิตกลุ่มดังกล่าวก่อเหตุภายในมหาวิทยาลัย
ก่อนอื่นก็ต้องขอบคุณที่กลุ่มประชาชนผู้รวมตัวไปเรียกร้องในกรณีดังกล่าวข้างต้นไม่เหมารวมว่านิสิตจุฬาฯ ทุกคนมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม เพราะนั่นคือความจริงที่ว่านิสิตจุฬาฯ ทุกคนมิได้แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะไม่ควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะความจริงคือเป็นพฤติกรรมของนิสิตบางคนและบางกลุ่มเท่านั้น แล้วก็ต้องย้ำด้วยว่านิสิตกลุ่มที่มีพฤติกรรมพิสดารมีจำนวนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับนิสิตจุฬาฯ ทั้งหมด เพียงแต่ว่าเมื่อนิสิตจุฬาฯ กลุ่มที่แสดงพฤติกรรมประหลาด แต่กลับได้รับการนำเสนอข่าวโดยสำนักข่าวบางจำพวกอย่างครึกโครม จนทำให้สาธารณชนที่ไม่เข้าใจข้อเท็จจริงคิดเอาเองว่านิสิตจุฬาฯ ส่วนใหญ่แสดงพฤติกรรมไม่บังควรต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
การที่นิสิตกลุ่มหนึ่งจะยกย่องเชิดชู หรือแสดงความคารวะต่อใคร ถือเป็นเรื่องส่วนตัวของนิสิต แล้วก็ไม่ผิดหากนิสิตจะชื่นชม ปลาบปลื้มกับโจชัว หว่อง นักเคลื่อนไหวทางการเมืองบนเกาะฮ่องกง หากการกระทำนั้นเป็นเรื่องของปัจเจกแต่ทว่าการที่นิสิตจุฬาฯ กลุ่มหนึ่งใช้สถานภาพขององค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแสดงความชื่นชมต่อโจชัว หว่อง จนกลายเป็นประเด็นที่ไม่เหมาะไม่ควรนั้น เป็นสิ่งที่นิสิตผู้ก่อเหตุต้องรับผิดชอบ โดยไม่มีทางปฏิเสธการกระทำอันไม่เหมาะสมที่ได้แสดงออกไปสู่สาธารณชน
ถามว่านิสิตจุฬาฯ กลุ่มที่จงใจก่อเหตุและสร้างเรื่องขึ้นนั้นมีเจตนาบริสุทธิ์โดยจริงแท้กระนั้นหรือ นิสิตไม่ทราบหรือว่าคำว่า ทรงพระเจริญ ใช้โดยเฉพาะเจาะจงในกรณีใดแล้วเหตุใดนิสิตจึงใช้คำว่าทรงพระเจริญกับบุคคลที่ไม่เหมาะสมกับถ้อยคำดังกล่าว
มิใช่แค่การใช้ถ้อยคำไม่บังควรเท่านั้น ยังปรากฏอีกว่านิสิตกลุ่มดังกล่าวจงใจทำภาพเสมือนตั้งใจล้อเลียน เสียดสีบุคคลในสถาบันพระมหากษัตริย์อีกด้วย เมื่อภาพและคำที่ไม่เหมาะสมปรากฏต่อสาธารณชนจึงทำให้เกิดปฏิกิริยาจากผู้ที่ไม่เห็นด้วยโดยทันที จึงทำให้เกิดคำถามโดยพลันไปยังผู้บริหารจุฬาฯ ว่า ทำไมจึงปล่อยปละละเลยให้เกิดเรื่องไม่บังควรเช่นนี้ได้ภายใต้ชื่อของหน่วยงานของมหาวิทยาลัย
หากผู้บริหารจุฬาฯ จะอ้างว่านิสิตมีสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก ก็ต้องถามกลับว่า สิทธิเสรีภาพใดๆ ก็ตามของบุคคลต้องมีกฎเกณฑ์ และมีขอบเขตที่เหมาะสม ไม่ขัดต่อหลักกฎหมาย และหลักความสงบสุขของสังคม ใช่หรือไม่ แล้วการกระทำดังกล่าวของนิสิตจุฬาฯ กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นการก่อให้เกิดความไม่พอใจ ไม่สบายใจต่อบุคคลที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่
การกระทำของนิสิตจุฬาฯ กลุ่มที่ก่อเหตุเป็นสิ่งผิดกฎหมายของไทยหรือไม่ เรื่องนี้ผู้บริหารจุฬาฯ ต้องทำเรื่องนี้ให้กระจ่าง หากผู้บริหารจุฬาฯ ยืนยันว่าไม่ผิดกฎหมาย ก็ต้องประกาศออกมาให้ชัด แต่หากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก็ต้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดโดยทันที ไม่ใช่ปล่อยให้เรื่องราวเงียบหายไปเองตามกาลเวลา เหมือนเช่นที่ผู้บริหารจุฬาฯ ชุดปัจจุบันใช้อุบายปล่อยให้เรื่องไม่บังควรต่างๆ ที่เกิดในจุฬาฯ ครั้งแล้วครั้งเล่าเงียบหายไปตามกาลเวลา ผู้บริหารจุฬาฯ ต้องเลิกใช้กลอุบายยื้อเวลา ซื้อเวลา เพื่อให้เรื่องเลวร้ายต่างๆในจุฬาฯ เงียบหายไปกับสายลมและกาลเวลา
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี