วันอังคาร ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ /

วันจันทร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 02.00 น.
การฉีดวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ เกิดผลเสียรุนแรงจริงหรือ

ดูทั้งหมด

  •  

ภัยสุขภาพที่มีปัญหาอย่างรุนแรงในขณะนี้น่าจะไม่มีเรื่องใดมากไปกว่าเรื่อง มลพิษทางอากาศจากฝุ่นละออง PM2.5 ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเกือบจะทุกๆ วัน ในช่วง 5-6 วันที่ผ่านมานี้ โดยหากวัดตามดัชนี AQI ตามที่ได้เคยกล่าวไว้แล้วในคอลัมน์นี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะพบว่ามีค่า AQI เกินกว่า 100 มาโดยตลอด ไม่ใช่เกิดเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศซึ่งค่าดังกล่าวถือว่าเป็นค่าที่มีปริมาณมาก ถึงระดับที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอย่างแน่นอน จึงเป็นเรื่องที่ทุกท่านต้องพยายามป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นช่วงเวลายาวนานโดยไม่จำเป็น และหากมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจควรจะต้องไปพบแพทย์

ในช่วงระยะ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้  จะมีข่าวที่อาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด วิตกกังวล และไม่สบายใจออกมาเป็นระยะ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิดโดยเฉพาะชนิดที่เรียกว่าเอ็มอาร์เอ็นเอ ซึ่งในประเทศไทยก็ได้มีการฉีดวัคซีนชนิดนี้ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในการฉีดตั้งแต่เข็มที่ 3 หรือที่เรียกว่า Booster dose เป็นต้นมา


มีคลิปจากต่างประเทศอย่างน้อย 2 คลิปที่ถูกนำมาเผยแพร่จนเป็นกระแสที่มีการพูดถึงกันทั่วไป คลิปแรกเป็นเรื่องการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอบริษัทหนึ่ง ที่เดินทางไปร่วมประชุมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยในคลิปจะปรากฏภาพของนักข่าวที่เดินตามและพยายามถามถึงการที่วัคซีนไม่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ และผลเสียของวัคซีนที่เกิดขึ้น ถึงระดับที่ทำให้ผู้ได้รับการฉีดต้องเสียชีวิต โดยสอบถามว่าบริษัทจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ และมีคำตำหนิติเตือนที่ค่อนข้างจะรุนแรง ว่าบริษัทสร้างกำไรมหาศาล บนความสูญเสียของผู้คนจำนวนหนึ่ง

ส่วนอีกคลิปหนึ่งนั้น เป็นคลิปที่แสดงถึงการที่นักวิชาการชาวญี่ปุ่นผู้หนึ่งได้สอบถามกับผู้บริหาร ที่คาดว่าเป็นของกระทรวงสาธารณสุขในลักษณะของการโจมตีกล่าวหาอย่างรุนแรง ทำนองว่า ทั้งๆ ที่รู้ผลเสียของวัคซีนตัวนี้ และผลเสียที่กล่าวถึงกันมากคือเรื่องการอักเสบของหัวใจทำให้ผู้ได้รับวัคซีนจำนวนหนึ่งต้องเสียชีวิต แล้วทำไมกระทรวงจึงยังปล่อยให้มีการใช้วัคซีนชนิดนี้ในประเทศของตน

คลิปทั้งสองเรื่องนั้น หากนำไปถามในแวดวงของอาจารย์แพทย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านในประเทศไทย รวมทั้งผู้ที่ติดตามเรื่องวัคซีนโควิด-19 มาโดยตลอดก็จะทราบว่าเป็นผลงานและการนำเสนอของกลุ่มที่ถูกเรียกรวมว่า antivac ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนหนึ่งในบางประเทศ โดยกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้วัคซีน เอ็มอาร์เอ็นเอในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยเป็นการมองภาพเพียงด้านเดียว คือภาวะไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการฉีดวัคซีนชนิดนี้ และไม่มีการพูดถึงผลดีที่จะได้รับจากวัคซีนเลยแม้แต่น้อย

เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดีให้เกิดขึ้นไม่เกิดความหวาดวิตกต่อการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งน่าจะต้องมีการฉีดซ้ำเป็นระยะทุก 6 เดือนเพื่อให้ภูมิต้านทานที่ร่างกายสร้างขึ้นจากการฉีดวัคซีนครั้งก่อนที่เริ่มมีระดับลดต่ำลงจนอาจจะไม่พอเพียงต่อการป้องกันการเกิดอาการรุนแรงหากมีการติดเชื้อให้ร่างกาย  ได้สร้างภูมิขึ้นมาใหม่เพื่อเสริมกับภูมิเดิมที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง

จึงขออนุญาตนำบทความ ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ของศาสตราจารย์แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์  คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลและเป็นผู้ที่ได้ศึกษาติดตามเรื่องวัคซีนโควิด-19 มาโดยตลอด ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา มานำลงไว้ในคอลัมน์นี้

บทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์แพทย์หญิงกุลกัญญา

เท่าที่อ่านบทสัมภาษณ์ เขาค่อนข้างจะโจมตีวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ บอกว่าการฉีดวัคซีนโดยใช้โปรตีนหนามของไวรัสเข้าสู่ร่างกายนั้นเป็นอันตราย  lipidnanoparticle เป็นอันตราย ทั้งนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ไม่พูดเกี่ยวกับว่าถ้าไม่ฉีดวัคซีน ทุกคนจะติดเชื้อไวรัสและได้รับโปรตีนหนามของไวรัสจากการติดเชื้อตามธรรมชาติทุกคน หนีไม่พ้นเช่นกัน

มีส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนกับผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนนั้นตายจากโควิดไม่ต่างกันรวมทั้งบอกว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะไม่เกิดถ้าฉีดวัคซีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสติดเชื้อตามธรรมชาติน้อยลงเนื่องจากมีภูมิคุ้มกันจากวัคซีน

ทั้งนี้ทำให้คนเข้าใจผิดว่าวัคซีนไม่ได้ประโยชน์ แถมยังทำให้เกิดอันตรายต่างๆ นานา ซึ่งที่จริงแล้วเป็นที่ประจักษ์จากรายงานทั่วโลกว่า ตั้งแต่เริ่มมีการฉีดวัคซีนก่อนที่ไวรัสอ่อนฤทธิ์ลงไปเองด้วยการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์โอไมครอนนั้น ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนอย่างชัดเจน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรจะเอาข้อมูลออกมาโต้แย้งโดยทันที  ไม่ใช่ปล่อยให้สื่อแบบนี้แพร่ออกไปโดยไม่มีการส่งข้อมูลที่เป็นความจริง

ผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่ได้ตายมากขึ้น จริงอยู่ว่าอาจเห็นจำนวนผู้ที่ติดเชื้อในระยะหลังนั้นมีแต่ผู้ที่ฉีดวัคซีน  เพราะผู้ที่ฉีดวัคซีนซึ่งมีมากมายทั่วโลก และอาจติดเชื้อได้ เมื่อมีระดับภูมิคุ้มกันลดลงตามกาลเวลาหลังฉีด เช่นเดียวกับการติดเชื้อตามธรรมชาติที่สามารถติดซ้ำได้ เมื่อภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นหลังติดเชื้อลดลงไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็นลักษณะของโรคติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจ แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนเมื่อเป็นโรคก็จะอาการไม่หนักเลย แตกต่างกับผู้ที่เป็นโรคโดยไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งแม้จะเป็นโอไมครอนก็มีอาการหนักกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมาก  ในขณะนี้ผู้ที่เสียชีวิตเข้าไอซียูเกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน ข้อมูลเหล่านี้ควรจะได้นำมาเผยแพร่ให้เห็นชัดๆ และปล่อยเผยแพร่ไป ในขณะที่คลิปวีดีโอเหล่านี้ถูกเผยแพร่

เป็นความจริงที่หลังฉีดวัคซีนแล้ว จะมีเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะเกิดจากวัคซีนส่วนนึง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากวัคซีนแต่เป็นภาวะหรือโรคอื่นที่เผอิญเกิดขึ้นใกล้เคียงหลังฉีดวัคซีน วัคซีนโควิด-19 ก็เช่นเดียวกับวัคซีนอื่นๆ ที่อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอพบสัมพันธ์กับการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเพิ่มมากขึ้นประมาณหนึ่งในแสน แต่เป็นภาวะที่มีอาการน้อยมาก  ซึ่งเป็นผลจากปฏิกิริยาการอักเสบที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดขึ้นในขณะที่ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีน แม้ว่าจะมีรายงานเคสที่มีหัวใจเต้นผิดจังหวะและดูจะรุนแรง แต่ก็เกิดขึ้นได้น้อยมากน้อยกว่าหนึ่งในล้าน เทียบไม่ได้เลยกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เกิดขึ้นได้มากและรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 ตามธรรมชาติ

มีความจริงอีกอย่างหนึ่งคือ วัคซีนทุกชนิดรวมทั้งเอ็มอาร์เอ็นเอสามารถกระตุ้นโรคต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันซึ่งคนคนนั้นเป็นอยู่  ไม่ว่าจะเป็นโรคออโต้อิมมูนต่างๆ  โรคจากความเครียดต่างๆ ทำให้โรคดั้งเดิมกำเริบขึ้นมาได้  ซึ่งเป็นผลพวงจากกระบวนการกระตุ้นภูมิคุ้มกันค่ะ หลายคนฉีดแล้วมีอาการนู่นนั่นนี่ซึ่งเป็นโรคดั้งเดิมของตนเองกำเริบขึ้นมา ก็จะไม่ต้องการฉีดวัคซีนผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็สามารถใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป LAAB ได้ค่ะ

โดยสรุป เป็นอีกหนึ่งคลิปที่พยายามทำให้คนกังวลใจเรื่องวัคซีนมากขึ้น เป็นความจริงว่าวัคซีนอาจจะมีอาการข้างเคียงได้ แต่เป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะปลอดภัยในภาพรวมมากกว่าที่จะปล่อยให้ติดเชื้อตามธรรมชาติ ซึ่งจะเสียชีวิตมากมายก่ายกองและเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังโควิดมากมายจากนี้อีกมหาศาล

ทั้งหมดนั้นคือคำสัมภาษณ์ ที่อาจารย์ได้มีคำสรุปไว้อย่างชัดเจน

ด้านสถานการณ์การเกิดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 22-28มกราคม พบว่า มีผู้ป่วยโควิดที่ต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล 472 ราย เฉลี่ยต่อวันคือ67 ราย และมีผู้เสียชีวิต 29 ราย เฉลี่ยต่อวันคือ4 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดต่ำกว่ารอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างมาก ทำให้เชื่อได้ว่าความวิตกกังวลว่าจะมีการระบาดของโรคโควิด-19 กลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่มีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งจากประเทศจีนเข้ามาได้อย่างเสรีนั้น  น่าจะเป็นไปได้น้อย

ถือได้ว่าการวางแผนจัดการเรื่องโควิด-19 ของรัฐบาลไทยและกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมานั้น  เป็นการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้โรคนี้ถูกควบคุมไว้ได้อย่างดี ตลอดทั้งความร่วมมือของประชาชนชาวไทยในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยยังเป็นไปอย่างเข้มแข็ง ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งตัวเองและส่วนรวม  นับเป็นเรื่องที่น่าชมเชยเป็นอย่างยิ่ง

นายแพทย์ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
14:05 น. 'สรวงศ์'โดดป้อง'มนัสนันท์' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว'หลีนวรัตน์'ถูกกระแสโถมใส่
14:04 น. กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย
13:59 น. ด่วนบึ้มปัตตานี! วางระเบิดรถบรรทุกทหาร เจ็บ 2 นาย
13:53 น. ประเดิมสวย! 'น้องพิ้งค์'โค่นจีนขนไก่ไทยแลนด์โอเพ่น
13:51 น. ‘ขนมม่อฉี’ ขนมพื้นบ้านสงขลา-ที่มีมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2-ปัจจุบันหากินยาก
ดูทั้งหมด
ชั้น 14 ส่อวุ่นอีก!!! 'รพ.ราชทัณฑ์'เล็งฟ้องศาลเพิกถอนมติ'แพทยสภา'
'ภูมิใจไทย' แตกหัก 'เพื่อไทย' คดีฮั้ว สว.เป็นเหตุ ส่อคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบฯ 69 - ยุบสภา
หยามเกียรติธงชาติไทย! ทนายแจ้งเอาผิด โพสต์เฟสบุ๊คดูหมิ่น'ธงคือผ้าเช็ดเท้า'
เช็คผลที่นี่!!! 'เลือกตั้งเทศบาล'ส่วนใหญ่แชมป์เก่าคว้าชัย
'El Clásico2025' เมื่อเก้าอี้ดนตรีเริ่มบรรเลง
ดูทั้งหมด
กางเกงยีนส์ลีวายในกองทอง
ศึกป่วยทิพย์ใกล้จบ
เรือของคนโง่
หวงแหนปราสาท ‘ตาเมือนธม” รักชาติ สมเหตุสมผล
‘พรรคส้ม’ไปไม่ถึงดวงดาว
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'สรวงศ์'โดดป้อง'มนัสนันท์' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว'หลีนวรัตน์'ถูกกระแสโถมใส่

ย้ำคำเดิม'ทักษิณ'ป่วยจริง 'อิ๊งค์'แจงปมชั้น 14 เริ่มและจบก่อนเป็นนายกฯ

เปิดเกมรุมกินโต๊ะ! ปูดเบื้องลึก‘สส.กฤษฎิ์’ทิ้ง‘ปชน.’ แฉ‘ส้มตะวันออก’ระส่ำ

(คลิป) FCส้มเดือดพลั่ก!! บุกสภาฯ รุมสาป‘สส.กฤษฎิ์’แถลงแยกทาง‘ปชน.’ซบ'กล้าธรรม'

ประเดิมสวย! 'น้องพิ้งค์'โค่นจีนขนไก่ไทยแลนด์โอเพ่น

‘พล.ท.ยอดชัย’ร้อง DSI สอบเงินสมัครสว.ส่อผิดปกติ แย้มมีผู้สมัครส่งซิกวันลงคะแนน

  • Breaking News
  • \'สรวงศ์\'โดดป้อง\'มนัสนันท์\' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว\'หลีนวรัตน์\'ถูกกระแสโถมใส่ 'สรวงศ์'โดดป้อง'มนัสนันท์' บอกอาจอัดอั้นหลังครอบครัว'หลีนวรัตน์'ถูกกระแสโถมใส่
  • กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย กทม.แถลงปิดศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จตุจักร สิ้นสุด 4 โมงเย็นวันพรุ่งนี้ ขอบคุณทุกหน่วยงานร่วมมือช่วย
  • ด่วนบึ้มปัตตานี! วางระเบิดรถบรรทุกทหาร เจ็บ 2 นาย ด่วนบึ้มปัตตานี! วางระเบิดรถบรรทุกทหาร เจ็บ 2 นาย
  • ประเดิมสวย! \'น้องพิ้งค์\'โค่นจีนขนไก่ไทยแลนด์โอเพ่น ประเดิมสวย! 'น้องพิ้งค์'โค่นจีนขนไก่ไทยแลนด์โอเพ่น
  • ‘ขนมม่อฉี’ ขนมพื้นบ้านสงขลา-ที่มีมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2-ปัจจุบันหากินยาก ‘ขนมม่อฉี’ ขนมพื้นบ้านสงขลา-ที่มีมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2-ปัจจุบันหากินยาก
ดูทั้งหมด
Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved