วันอาทิตย์ ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ /

วันจันทร์ ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566, 02.00 น.
การฉีดวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ เกิดผลเสียรุนแรงจริงหรือ

ดูทั้งหมด

  •  

ภัยสุขภาพที่มีปัญหาอย่างรุนแรงในขณะนี้น่าจะไม่มีเรื่องใดมากไปกว่าเรื่อง มลพิษทางอากาศจากฝุ่นละออง PM2.5 ที่มีปริมาณเพิ่มขึ้นเกือบจะทุกๆ วัน ในช่วง 5-6 วันที่ผ่านมานี้ โดยหากวัดตามดัชนี AQI ตามที่ได้เคยกล่าวไว้แล้วในคอลัมน์นี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา จะพบว่ามีค่า AQI เกินกว่า 100 มาโดยตลอด ไม่ใช่เกิดเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครเท่านั้น แต่ยังเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศซึ่งค่าดังกล่าวถือว่าเป็นค่าที่มีปริมาณมาก ถึงระดับที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพอย่างแน่นอน จึงเป็นเรื่องที่ทุกท่านต้องพยายามป้องกันตัวเองให้ดีที่สุด โดยหลีกเลี่ยงการอยู่กลางแจ้งเป็นช่วงเวลายาวนานโดยไม่จำเป็น และหากมีอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจควรจะต้องไปพบแพทย์

ในช่วงระยะ 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้  จะมีข่าวที่อาจจะก่อให้เกิดความเข้าใจผิด วิตกกังวล และไม่สบายใจออกมาเป็นระยะ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิดโดยเฉพาะชนิดที่เรียกว่าเอ็มอาร์เอ็นเอ ซึ่งในประเทศไทยก็ได้มีการฉีดวัคซีนชนิดนี้ให้กับประชาชนเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในการฉีดตั้งแต่เข็มที่ 3 หรือที่เรียกว่า Booster dose เป็นต้นมา


มีคลิปจากต่างประเทศอย่างน้อย 2 คลิปที่ถูกนำมาเผยแพร่จนเป็นกระแสที่มีการพูดถึงกันทั่วไป คลิปแรกเป็นเรื่องการสัมภาษณ์ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทผู้ผลิตวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอบริษัทหนึ่ง ที่เดินทางไปร่วมประชุมที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยในคลิปจะปรากฏภาพของนักข่าวที่เดินตามและพยายามถามถึงการที่วัคซีนไม่ช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อ และผลเสียของวัคซีนที่เกิดขึ้น ถึงระดับที่ทำให้ผู้ได้รับการฉีดต้องเสียชีวิต โดยสอบถามว่าบริษัทจะไม่รับผิดชอบอะไรเลยหรือ และมีคำตำหนิติเตือนที่ค่อนข้างจะรุนแรง ว่าบริษัทสร้างกำไรมหาศาล บนความสูญเสียของผู้คนจำนวนหนึ่ง

ส่วนอีกคลิปหนึ่งนั้น เป็นคลิปที่แสดงถึงการที่นักวิชาการชาวญี่ปุ่นผู้หนึ่งได้สอบถามกับผู้บริหาร ที่คาดว่าเป็นของกระทรวงสาธารณสุขในลักษณะของการโจมตีกล่าวหาอย่างรุนแรง ทำนองว่า ทั้งๆ ที่รู้ผลเสียของวัคซีนตัวนี้ และผลเสียที่กล่าวถึงกันมากคือเรื่องการอักเสบของหัวใจทำให้ผู้ได้รับวัคซีนจำนวนหนึ่งต้องเสียชีวิต แล้วทำไมกระทรวงจึงยังปล่อยให้มีการใช้วัคซีนชนิดนี้ในประเทศของตน

คลิปทั้งสองเรื่องนั้น หากนำไปถามในแวดวงของอาจารย์แพทย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่านในประเทศไทย รวมทั้งผู้ที่ติดตามเรื่องวัคซีนโควิด-19 มาโดยตลอดก็จะทราบว่าเป็นผลงานและการนำเสนอของกลุ่มที่ถูกเรียกรวมว่า antivac ซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนหนึ่งในบางประเทศ โดยกลุ่มดังกล่าวเป็นกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการใช้วัคซีน เอ็มอาร์เอ็นเอในการป้องกันโรคโควิด-19 โดยเป็นการมองภาพเพียงด้านเดียว คือภาวะไม่พึงประสงค์ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากการฉีดวัคซีนชนิดนี้ และไม่มีการพูดถึงผลดีที่จะได้รับจากวัคซีนเลยแม้แต่น้อย

เพื่อเป็นการสร้างความเข้าใจที่ดีให้เกิดขึ้นไม่เกิดความหวาดวิตกต่อการฉีดวัคซีนโควิด-19 ซึ่งน่าจะต้องมีการฉีดซ้ำเป็นระยะทุก 6 เดือนเพื่อให้ภูมิต้านทานที่ร่างกายสร้างขึ้นจากการฉีดวัคซีนครั้งก่อนที่เริ่มมีระดับลดต่ำลงจนอาจจะไม่พอเพียงต่อการป้องกันการเกิดอาการรุนแรงหากมีการติดเชื้อให้ร่างกาย  ได้สร้างภูมิขึ้นมาใหม่เพื่อเสริมกับภูมิเดิมที่ยังพอมีเหลืออยู่บ้าง

จึงขออนุญาตนำบทความ ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์ของศาสตราจารย์แพทย์หญิงกุลกัญญา โชคไพบูลย์กิจ ซึ่งเป็นอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญ ภาควิชากุมารเวชศาสตร์  คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลและเป็นผู้ที่ได้ศึกษาติดตามเรื่องวัคซีนโควิด-19 มาโดยตลอด ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ไว้เมื่อวันที่ 28 มกราคม ที่ผ่านมา มานำลงไว้ในคอลัมน์นี้

บทสัมภาษณ์ของศาสตราจารย์แพทย์หญิงกุลกัญญา

เท่าที่อ่านบทสัมภาษณ์ เขาค่อนข้างจะโจมตีวัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ บอกว่าการฉีดวัคซีนโดยใช้โปรตีนหนามของไวรัสเข้าสู่ร่างกายนั้นเป็นอันตราย  lipidnanoparticle เป็นอันตราย ทั้งนี้ ผู้ให้สัมภาษณ์ไม่พูดเกี่ยวกับว่าถ้าไม่ฉีดวัคซีน ทุกคนจะติดเชื้อไวรัสและได้รับโปรตีนหนามของไวรัสจากการติดเชื้อตามธรรมชาติทุกคน หนีไม่พ้นเช่นกัน

มีส่วนหนึ่งของการให้สัมภาษณ์ว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนกับผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีนนั้นตายจากโควิดไม่ต่างกันรวมทั้งบอกว่าภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติจะไม่เกิดถ้าฉีดวัคซีน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผู้ที่ฉีดวัคซีนมีโอกาสติดเชื้อตามธรรมชาติน้อยลงเนื่องจากมีภูมิคุ้มกันจากวัคซีน

ทั้งนี้ทำให้คนเข้าใจผิดว่าวัคซีนไม่ได้ประโยชน์ แถมยังทำให้เกิดอันตรายต่างๆ นานา ซึ่งที่จริงแล้วเป็นที่ประจักษ์จากรายงานทั่วโลกว่า ตั้งแต่เริ่มมีการฉีดวัคซีนก่อนที่ไวรัสอ่อนฤทธิ์ลงไปเองด้วยการกลายพันธุ์เป็นสายพันธุ์โอไมครอนนั้น ผู้ที่ได้รับวัคซีนมีโอกาสป่วยหนักและเสียชีวิตน้อยกว่าผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีนอย่างชัดเจน ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องควรจะเอาข้อมูลออกมาโต้แย้งโดยทันที  ไม่ใช่ปล่อยให้สื่อแบบนี้แพร่ออกไปโดยไม่มีการส่งข้อมูลที่เป็นความจริง

ผู้ที่ฉีดวัคซีนไม่ได้ตายมากขึ้น จริงอยู่ว่าอาจเห็นจำนวนผู้ที่ติดเชื้อในระยะหลังนั้นมีแต่ผู้ที่ฉีดวัคซีน  เพราะผู้ที่ฉีดวัคซีนซึ่งมีมากมายทั่วโลก และอาจติดเชื้อได้ เมื่อมีระดับภูมิคุ้มกันลดลงตามกาลเวลาหลังฉีด เช่นเดียวกับการติดเชื้อตามธรรมชาติที่สามารถติดซ้ำได้ เมื่อภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นหลังติดเชื้อลดลงไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็นลักษณะของโรคติดเชื้อไวรัสระบบทางเดินหายใจ แต่ผู้ที่ฉีดวัคซีนเมื่อเป็นโรคก็จะอาการไม่หนักเลย แตกต่างกับผู้ที่เป็นโรคโดยไม่ได้ฉีดวัคซีน ซึ่งแม้จะเป็นโอไมครอนก็มีอาการหนักกว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนมาก  ในขณะนี้ผู้ที่เสียชีวิตเข้าไอซียูเกือบทั้งหมดเป็นผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน ข้อมูลเหล่านี้ควรจะได้นำมาเผยแพร่ให้เห็นชัดๆ และปล่อยเผยแพร่ไป ในขณะที่คลิปวีดีโอเหล่านี้ถูกเผยแพร่

เป็นความจริงที่หลังฉีดวัคซีนแล้ว จะมีเหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ที่ร้ายแรงเกิดขึ้นได้ ซึ่งอาจจะเกิดจากวัคซีนส่วนนึง แต่ส่วนใหญ่ไม่ได้เกิดจากวัคซีนแต่เป็นภาวะหรือโรคอื่นที่เผอิญเกิดขึ้นใกล้เคียงหลังฉีดวัคซีน วัคซีนโควิด-19 ก็เช่นเดียวกับวัคซีนอื่นๆ ที่อาจจะทำให้เกิดอาการแพ้รุนแรง วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอพบสัมพันธ์กับการเกิดกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบและเยื่อหุ้มหัวใจอักเสบเพิ่มมากขึ้นประมาณหนึ่งในแสน แต่เป็นภาวะที่มีอาการน้อยมาก  ซึ่งเป็นผลจากปฏิกิริยาการอักเสบที่ถูกเหนี่ยวนำให้เกิดขึ้นในขณะที่ร่างกายตอบสนองต่อวัคซีน แม้ว่าจะมีรายงานเคสที่มีหัวใจเต้นผิดจังหวะและดูจะรุนแรง แต่ก็เกิดขึ้นได้น้อยมากน้อยกว่าหนึ่งในล้าน เทียบไม่ได้เลยกับภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบที่เกิดขึ้นได้มากและรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด-19 ตามธรรมชาติ

มีความจริงอีกอย่างหนึ่งคือ วัคซีนทุกชนิดรวมทั้งเอ็มอาร์เอ็นเอสามารถกระตุ้นโรคต่างๆที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันซึ่งคนคนนั้นเป็นอยู่  ไม่ว่าจะเป็นโรคออโต้อิมมูนต่างๆ  โรคจากความเครียดต่างๆ ทำให้โรคดั้งเดิมกำเริบขึ้นมาได้  ซึ่งเป็นผลพวงจากกระบวนการกระตุ้นภูมิคุ้มกันค่ะ หลายคนฉีดแล้วมีอาการนู่นนั่นนี่ซึ่งเป็นโรคดั้งเดิมของตนเองกำเริบขึ้นมา ก็จะไม่ต้องการฉีดวัคซีนผู้ป่วยกลุ่มนี้ก็สามารถใช้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป LAAB ได้ค่ะ

โดยสรุป เป็นอีกหนึ่งคลิปที่พยายามทำให้คนกังวลใจเรื่องวัคซีนมากขึ้น เป็นความจริงว่าวัคซีนอาจจะมีอาการข้างเคียงได้ แต่เป็นความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เพราะปลอดภัยในภาพรวมมากกว่าที่จะปล่อยให้ติดเชื้อตามธรรมชาติ ซึ่งจะเสียชีวิตมากมายก่ายกองและเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังโควิดมากมายจากนี้อีกมหาศาล

ทั้งหมดนั้นคือคำสัมภาษณ์ ที่อาจารย์ได้มีคำสรุปไว้อย่างชัดเจน

ด้านสถานการณ์การเกิดโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ในรอบสัปดาห์ ระหว่างวันที่ 22-28มกราคม พบว่า มีผู้ป่วยโควิดที่ต้องรับไว้รักษาในโรงพยาบาล 472 ราย เฉลี่ยต่อวันคือ67 ราย และมีผู้เสียชีวิต 29 ราย เฉลี่ยต่อวันคือ4 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่ลดต่ำกว่ารอบสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างมาก ทำให้เชื่อได้ว่าความวิตกกังวลว่าจะมีการระบาดของโรคโควิด-19 กลับมาอีกครั้งหนึ่งหลังจากที่มีการเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ รวมทั้งจากประเทศจีนเข้ามาได้อย่างเสรีนั้น  น่าจะเป็นไปได้น้อย

ถือได้ว่าการวางแผนจัดการเรื่องโควิด-19 ของรัฐบาลไทยและกระทรวงสาธารณสุข ตลอดจนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในช่วงที่ผ่านมานั้น  เป็นการดำเนินการที่มีประสิทธิภาพ ทำให้โรคนี้ถูกควบคุมไว้ได้อย่างดี ตลอดทั้งความร่วมมือของประชาชนชาวไทยในเรื่องการสวมหน้ากากอนามัยยังเป็นไปอย่างเข้มแข็ง ซึ่งเป็นผลดีต่อทั้งตัวเองและส่วนรวม  นับเป็นเรื่องที่น่าชมเชยเป็นอย่างยิ่ง

นายแพทย์ปิยะ เนตรวิเชียร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:52 น. 'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!
22:29 น. น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น
22:22 น. ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม
22:13 น. ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย
21:41 น. หนีคดี 19 ปี! รวบแล้ว ‘มือมีด’ วัย 43 แทง ‘นักเรียนนายร้อย’ เสียชีวิต
ดูทั้งหมด
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 กรกฎาคม 2568
ปิดตำนาน156ปี! 'กษัตริย์ชาร์ลส์'ประกาศปลดระวาง'รถไฟหลวง' สมาชิกราชวงศ์ไปใช้รถไฟปกติแทน
'เท้ง'แย่แล้ว!! เจอขบวนรถทัวร์แห่คอมเมนต์แจกพยัญชนะไทยฉ่ำ!!
บิ๊กเนม'ปชป.'ร่วมวงเพียบ!! 'คุณหญิงกัลยา'ตั้ง'พรรคไทยก้าวใหม่' พร้อมตั้ง'สุชัชวีร์'นั่งหัวหน้าฯ
‘ทักษิณ‘ พร้อมลูกสาว ’เอม พินทองทา‘ เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก คดี ม.112
ดูทั้งหมด
ต้องเลือกตั้งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญหรือ
บุคคลแนวหน้า : 6 กรกฎาคม 2568
ชีวิตประจำวันของผม-การทำงาน
หน้าต้องทนสูงมาก จึงทำแบบนี้ได้
วิวาทะ ว่าด้วย‘อภิปรายไม่ไว้วางใจ’
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!

ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม

หนีคดี 19 ปี! รวบแล้ว ‘มือมีด’ วัย 43 แทง ‘นักเรียนนายร้อย’ เสียชีวิต

อุบตอบมีชาติไหนบ้าง?! 'ทรัมป์'ลงนามจดหมายแจ้งภาษีตอบโต้12ประเทศ พร้อมร่อน7ก.ค.นี้

โหดเหี้ยม! คนร้ายซุ่มยิง‘ตำรวจ’ สภ.กรงปินัง เสียชีวิต หน้าร้านสะดวกซื้อใน จ.ยะลา

'องค์ดาไลลามะ'หวังมีพระชนม์ชีพยืนยาวนานถึง130ปี ก่อนกลับชาติมาเกิดเป็นผู้นำทิเบต

  • Breaking News
  • \'อดีต ส.ว.สมชาย\'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!! 'อดีต ส.ว.สมชาย'สรุปฟังไต่สวนพยานคดีชั้น 14 บอกพยานเท็จอาการหนักมาก!!!
  • น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง\'อดีตรองเสธ.กัมพูชา\' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น น้ำใจทหารไทย! เปิดด่านฉุกเฉินส่ง'อดีตรองเสธ.กัมพูชา' ป่วยมะเร็ง กลับบ้านอย่างอบอุ่น
  • ครั้งแรกในรอบ102ปี! \'ฝรั่งเศส\'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม ครั้งแรกในรอบ102ปี! 'ฝรั่งเศส'เปิดให้พลเมืองเล่นน้ำในแม่น้ำแซน การันตีคุณภาพน้ำดีเยี่ยม
  • ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย ไม่ใช่มีแค่ถนนพระราม 2 สะพานพระราม 4 เกิดเหตุป้ายเหล็กขนาดใหญ่ตกใส่รถพังเสียหาย
  • หนีคดี 19 ปี! รวบแล้ว ‘มือมีด’ วัย 43 แทง ‘นักเรียนนายร้อย’ เสียชีวิต หนีคดี 19 ปี! รวบแล้ว ‘มือมีด’ วัย 43 แทง ‘นักเรียนนายร้อย’ เสียชีวิต
ดูทั้งหมด
Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved