lใช้สติปัญญา ความจริง ลดอัตตาตนลง : ชีวิตตน ครอบครัวและเพื่อนมิตร จะมีความสุขเพิ่มขึ้น มองรอบๆ ตัวตัวเอง ครอบครัว เพื่อนมิตร และชุมชน
1.ส่วนที่มีความสุข :
2.ส่วนที่มีความทุกข์ เกิดความขัดแย้ง ฝืนอยู่ด้วยความอึดอัด เพราะสุขมีน้อยลง แต่ทุกข์เพิ่มมากขึ้น
lขอพูดถึงส่วนที่ 2 ส่วนที่เป็นทุกข์ ก่อน
๑.ส่วนนี้ เป็นส่วนไม่น้อย ที่ก่อให้สังคมวุ่นวายมีความขัดแย้ง สาละวนกับการใช้ชีวิตตัวใครตัวมัน ส่วนที่มีความทุกข์ เกิดความขัดแย้ง ฝืนอยู่ด้วยความอึดอัด เพราะสุขมีน้อยลง แต่ทุกข์เพิ่มมากขึ้น
ถ้าหาก เราสำรวจตรวจสอบ ข้อเท็จจริงแล้ว จะรู้ว่า“ปัญหาที่ก่อให้เกิดความทุกข์” ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่โตที่แก้ไม่ได้ มันเป็นปัญหาเล็กๆ ที่ไม่แก้ แต่ปล่อยให้มัน เกิดขึ้นบ่อยๆ ในชีวิตประจำวัน แล้วเกิดการสะสม ขยายตัวด้วย “อารมณ์” แล้วในที่สุด มันจะกลายเป็น “อัตตา ของตน” ที่ฝั่งลึกในก้นบึ้งแห่งใจ มันพร้อมถูกนำออกมาใช้ได้ทุกขณะ และเมื่อมีเรื่องความขัดแย้งใหม่ เพิ่มเติมขึ้นมา มันจะเพิ่มอุณหภูมิขึ้น จนไปถึง “จุดเดือด”
๒ อารมณ์ ของ ๒ คน จะปะทะกัน ไม่ยอม ด้วยทิฐิมานะ หน้าตา ศักดิ์ศรี และบางส่วน ขึ้นไปสูงสุด เกิดแตกหัก : กลายเป็น การหย่า การโกรธ แบ่งพรรคแบ่งพวกกันไปในที่สุด
l๒.การแก้ปัญหา ในเรื่องทำนองนี้ หรือการอยากแก้ไขในเรื่องต่างๆ ของชีวิตและร่างกายเรา ซึ่งความจริง มิใช่แก้ไม่ได้ : แต่ที่ยากมาก เนื่องจาก “นิสัยความเคยชิน ที่เราปฏิบัติมายาวนาน” มันกลับมาเป็นตัวปิดรั้ง ปิดกั้นมิให้เราได้ใช้ “พลังวิริยะ” ของเรา ที่จะไปแก้ไข
การแก้ไข มันต้องมี “ความปรารถนา ทั้งเริ่มจากตัวเราเอง หรือจากถูกบังคับให้ทำ ฯลฯ”
@ มาดู “ความเป็นจริงในการถูกบังคับให้ทำ”ในชีวิตของผู้คนในยุคนี้
คนกินสารพัด ความอร่อย ถูกปากถูกคอ จนทำให้ “ร่างกายอ้วนขึ้นในปฐพี” คนส่วนหนึ่งต้องไปสถานที่ลดน้ำหนัก ยอมเสียค่าใช้จ่ายเป็นหมื่นๆ
เราต้องยอมทำตามที่เขาบอก เขาสั่ง เพราะเสียเงินไปแล้ว และในที่สุด ผ่าน Course นั้นไป เธอและเขาก็ลดน้ำหนักลงได้มาก ความจริงถ้าใจเรามุ่งมั่นเอาจริงพอที่ปรารถนาจะลดน้ำหนักให้ได้จริงๆ เราสามารถทำได้เองโดยไม่ต้องไปจ่ายเงินแพงๆ
การไปนวด โดยเสียค่าใช้จ่ายทุกสัปดาห์เพื่อให้คลายความเมื่อยล้า ก็เช่นกัน เราสามารถแก้ไขได้ ด้วยการออกกำลังกาย ตามท่าบริหารที่ “ศูนย์สุขภาพ” บอกไว้
lมาดูปัญหาต่างๆ ที่ใหญ่ และมีผลสะเทือนต่อครอบครัว เพื่อนมิตรและสังคม จากอัตตาของตน
ในครอบครัว หลังจากผ่านช่วงฮันนีมูน ช่วงแห่งความรักความสุขในครอบครัวมานานพอควร ความขัดแย้ง จะเริ่มเกิดขึ้น มีหลากหลายเรื่อง ซึ่งความจริงเป็นเรื่องเล็กๆ ที่ขยายออกไป การบ่น การขึ้นเสียงกัน ด้วยความคิดเห็นที่แตกต่างกัน (การไม่ได้ใช้เวลามาคุย ปรับความเข้าใจ แก้ไขปัญหา แบบตอนที่รักกันใหม่ๆ ข้าวใหม่ปลามัน) ทำให้แต่ละฝ่ายคิดไปเองว่า “อีกฝ่าย เป็นอย่างนั้นอย่างนี้” และแสดงออกมาบางส่วน มักจะแสดงออก โดย “นิสัยเดิมๆ” ที่เก็บไว้ในลิ้นชัก ในช่วงเวลาแห่งความรักและมาโผล่ขึ้นพ้นผิวน้ำ ในยามแก่ชรา หรือการมีวัยที่เพิ่มขึ้น จากการอยู่กันมานานหลายสิบปี
เรื่องในส่วนของพี่น้องกัน ที่อาจจะมีความคิดเห็นที่ต่างกันไปบ้าง
บางส่วนที่ทำให้ปัญหาหนักหรือแก้ไขยากขึ้น เพราะอาจจะมี “ผู้รักและหวังดี” ที่เป็นฝ่ายเขย หรือสะใภ้ มาเสริมเพิ่มกำลัง ในเรื่องของมรดก หรือ การจัดการทรัพย์สินของตระกูล ที่เป็นส่วนรวมกัน
lเรื่องการขัดแย้งทางความคิด ปัญหาในเรื่องการเมือง ที่เราอยู่ในยุคแห่งความขัดแย้งที่สังคมแบ่งพวกแบ่งฝ่าย ใช้ทุน อำนาจ กลไก เครื่องมือ สื่อ นักวิชาการ มวลชน เป็นเครื่องมือที่ดูเหมือนทวีความรุนแรงมากขึ้น
แต่ในภาพใหญ่ภาพรวม สังคมไทย ยังมีข้อดีมีศักยภาพ เหนือกว่า ความขัดแย้ง ที่มาจากประวัติศาสตร์ที่สร้างสมไว้ ประเพณีวัฒนธรรม ความเป็นประเทศไทยที่ตั้งภูมิประเทศ ทรัพยากรธรรมชาติ บทบาทของสถาบันหลัก และหน่วยงานในหลายด้านของประเทศที่มีศักยภาพในระดับโลกและภูมิภาค โดยรวม ได้สร้างได้ทำไว้ ทำให้ “สังคมไทยโดยรวม” ยังคงอยู่ได้ แต่ก็เป็นอุปสรรค ต่อการพัฒนาให้เจริญก้าวหน้า ไปได้ และ“สิ่งที่ขัดแย้งใหญ่กันอยู่” เป็นเรื่องของ “ความคิด”ที่ไม่ตรงกันที่สำคัญคือ “ไม่ตรงกับสภาพความเป็นจริง” เช่น คำว่า “ประชาธิปไตย เผด็จการ” ผลประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ และบางส่วนฯเราไม่ใช้สติปัญญาความจริง ไปพิจารณา “สภาพความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในสังคมไทย”แต่เราเอา “ตรรกะ” ต่างประเทศ หรือ อัตตา อวิชชามาจับแน่น ไปมองแบบผิดๆ
lการแก้ไขเรื่องเหล่านี้ ไม่ยาก เพราะมันเป็นเรื่องเล็กๆ มิใช่เรื่องใหญ่บาดหูบาดตา
โดยต้องมาจาก
(๑) ความรักความเข้าใจ ความเคารพและปรารถนาดีต่อกัน
(๒) การมุ่งและร่วมกัน แก้ไขปัญหา ลดปัญหา และปรับความเข้าใจกัน
(๓) ความรัก ความสุขร่วมกันในครอบครัว ที่ทั้งสองฝ่ายจะต้องร่วมใจกายสร้างขึ้นมา
ต้องร่วมกันเพิ่มสุข ลดทุกข์ จึงจะเกิดความสุขยั่งยืน
(๔) เข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า “นี่เป็นเรื่องร่วมกันของเรา”มิใช่ของเขา ของเธอ
(๕) เมื่อเห็นปัญหา เห็นสภาพความขัดแย้งที่ลุกลามมากขึ้น ต้องรีบแก้ไข อย่าปล่อยปละละเลย
(๖) อะไรที่อีกฝ่ายไม่สบายใจ ต้องรีบแก้ไข (เน้นที่ตัวเราก่อน) ไม่มีอะไรที่เป็นเรื่องใหญ่ และแก้ไขไม่ได้ และไม่สำคัญเท่ากับความรักความสุขของครอบครัว
(๗) การพูดคุยกัน รับฟังกัน ประจำ และร่วมแสวงหา “ปัญหา และทางแก้ร่วมกัน”
(๘) เมื่อมีความผิดพลาด ต้องยอมรับ และให้อภัยกัน
(๙) ความปรารถนาให้ชีวิตที่อยู่ต่อไปด้วยกัน จนถึงในวัยชรา ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร
(๑๐) เรื่องของครอบครัว เป็นเรื่องสำคัญมากกว่า การมีทิฐิมานะ หวังเอาชนะคะคานกัน
lพวกหาความสุขยาก เพราะมีข้อแม้ต่างๆมาขวางใจตน ซึ่งล้วนแต่เป็นเรื่องเล็ก มิใช่เรื่องใหญ่โต เป็นเรื่องเกี่ยวกับใจของมนุษย์
๑.การควบคุม ลดอัตตา ของตนไม่ได้ หรือไม่พยายามลด
๒.แต่กลับ มีอัตตา การอยากเอาชนะ การถือตัว ว่าตนเก่ง ฉลาดกว่า เป็นฝ่ายถูก เขาผิด เพิ่มขึ้นมากขึ้น
๓.จากการใช้ อารมณ์ ทิฐิมานะ ความดื้อ “โลภ โกรธ หลง” : ตอบโต้ หวังเอาชนะ
๔.ความชอบ ไม่ชอบ รัก เกลียด ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง การเมือง ค่านิยม สถาบันฯ
๕.เกิดจาก อคติ อวิชชา ในบางเรื่อง ที่ตนไม่รับรู้ และปฏิบัติอย่างแท้จริง
lโดยสรุป หากเราใช้สติปัญญา ความจริง ลดอัตตาตนลง : และต้องทำความเข้าใจ ในความจริงให้ถ่องแท้แยกให้ได้ เรื่องใหญ่คืออะไร : ความขัดแย้งไม่พอใจ 90% เป็นเรื่องเล็ก แต่ไม่แก้ แก้ไข ข้อบกพร่องข้ออ่อนที่มีจาก การใช้ชีวิต ความคิด ไปในทางที่ผิด ไม่ถูกต้องชีวิตตน ครอบครัวและเพื่อนมิตร จะมีความสุขเพิ่มขึ้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี