ยิ่งใกล้เลือกตั้งเข้ามามากเท่าไร? ก็ยิ่งปรากฏ “คู่กัดทางการเมือง” มากขึ้นเท่านั้น

การ “เกิดคู่กัดทางการเมือง” นั้น ประชาชนส่วนใหญ่ต่างเข้าใจว่า นี่คือ “ธรรมชาติของโฮโมซาเปี้ยน” ที่จะต้องเป็น “ผู้ชนะ” ดังนั้น จึงต้อง “ใส่เกียร์ห้า” ทำการ “ด้อยค่า” คู่แข่งขันอย่างถึงพริกถึงขิง

ดังนั้น “การเตะสกัดคู่ต่อสู้” หรือ “โยนขยะพิษเข้าใส่” จึงเป็นปฏิบัติการของนักเลือกตั้งเกือบทุกคนและเกือบทุกพรรคการเมือง ไม่เว้นแม้กระทั่งผู้เฒ่าที่เป็นระดับ “ดาวฤกษ์” และเป็น “ผู้นำจิตวิญญาณ” ของประชาชนบางภูมิภาค ก็ยังออกมา “ตุ๊บตั๊บ” กับฝ่ายคู่แข่งอย่างถึงพริกถึงขิง

เล่นเอา “คอการเมืองต่างอ้าปากค้าง” ที่เกิดรายการ “มวยรุ่นซูเปอร์ยักษ์” ระดับ “เทพอสูรไตตัน”ราวีกับ “ยักษ์พ่นไฟไซคลอปส์” ใน “สงครามชิวหา” เช่น กรณี “ท่านมีดโกนอาบน้ำผึ้ง” ผู้นำจิตวิญญาณของชาวใต้ กับ “ท่านพระอาจารย์สามสีปากภูเขาไฟ” ที่ออกมาปะทะคารมเดือดพล่าน ในเรื่อง “ตกปลาในบ่อเพื่อน” และ “ตกปลาในบ่อตัวเอง เพราะกลัวปลาจะกระโดดไปบ่ออื่น”

เมื่อนักการเมืองระดับ “ขึ้นหิ้ง” ยังตุ๊บตั๊บ จนประชาชนตาค้างก็คงไม่ต้องแปลกใจ ที่ระดับหัวหมู่ทะลวงฟันของทุกฝ่าย จะทำการ “คาบดาบปีนค่าย” อย่าง “สุดมัน”

“มวยคู่หยุดโลก” ในวันนี้ เซียนมวยมุมน้ำเงินแห่งเวที “ราชดำเนิน” ต่าง “ยกโป้ง” ให้คู่ “ช.หมัดภูผาหิน” และ “ส.หมัดทะลวงไส้” ว่า น่าจะเป็น “มวยคู่มัน”

หะแรก ทั้งคู่ปะทะกันด้วย “สงครามน้ำลาย” แล้วกลายเป็นการ “ท้าทายด้วยปะทะทางกำลัง”แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองฝ่ายจะเปิด “เกมตุ๊บตั๊บ” ตำรวจทั้งโขยงเกือบครึ่งร้อย ก็ได้กัน “นักชกมหาภัย”ทั้งสองฝ่ายออกจากกัน เพราะไม่อยากเห็น “ผู้เฒ่าตายแบบศพไม่สวย”

หลังจาก “ช.หมัดภูผาหิน” ถูกแยกออกจาก “ส.หมัดทะลวงไส้” ปรากฏว่า “ช.หมัดภูผาหิน” ได้ไปท้าทายกับคู่อาฆาตอีกราย คือ “ท่านแป๊ะลิ้ม แผ่นดินถล่ม 7.8 แมกนิจูด” โดยเปิด “สงครามน้ำลาย” และต่างฝ่ายต่างส่ง “โดรนกามิกาเซ่” เข้าถล่มกันถึงขั้น“ตัดญาติขาดมิตรจนวันตายตามมา”

ตามมาด้วย การยิงขีปนาวุธล่องหนติดหัวรบนิวเคลียร์เข้าใส่กัน และสุดท้ายต่างสวดชยันโตและสวดกงเต๊กด้วยคำว่า “สุนัขรับใช้”

คอการเมืองฟังแล้วต่าง “งงงวยเป็นเต๊กกอ” เพราะไม่เข้าใจคำของ “ผู้เฒ่าหัวแสง” ที่ออกมาตะโกนคำว่า “หมารับใช้” หมายถึงอะไรกันแน่?

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม