วันพฤหัสบดี ที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันพุธ ที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
บาปของ‘ทักษิณ’ใน‘สงครามยาเสพติด’

ดูทั้งหมด

  •  

เมื่อบ่ายวันที่ 27 พฤษภาคมเมื่อวานนี้, อดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร โผล่ออกมาจากที่กบดานบ้านจันทร์ส่องหล้า ซึ่งคนทั่วไปคิดว่า“หนีไปแล้ว” หลังจากกลายเป็น“บุคคลสูญหาย”เกือบหนึ่งเดือน นับตั้งแต่ไปปรากฎตัวที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา เพื่อไปยื่นคำร้องต่อศาลขออนุญาตเดินทางไปการ์ตา แต่ศาลไม่อนุญาต และเป็นวันเดียวกับที่แพทยสภาชี้ว่าทักษิณ“ป่วยทิพย์” ไม่ได้ป่วยวิกฤต จนทำให้แพทย์ 3 คนที่เกี่ยวข้องถูกสั่งลงโทษ

“ทักษิณ ชินวัตร”ปรากฏตัวในฐานะที่ปรึกษาประธานอาเซียน ตามคำเชิญของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการติดตาม เร่งรัดการดำเนินงานป้องกัน ปราบปราม และแก้ไขปัญหายาเสพติด (ครส.) ที่เชิญให้“ทักษิณ”มาแสดงปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ยาเสพติด อาชญากรรมข้ามชาติ มุมมองและความท้าทายต่อการแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน” ณ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) โดย“ทักษิณ”เดินทางมาถึง ป.ป.ส. ด้วยรถยนต์โรลส์-รอยซ์ สีกรมท่า ทะเบียน ฐฐ 267 กรุงเทพมหานคร เมื่อเวลา 13.10 น.


การปรากฏตัวของ“ทักษิณ ชินวัตร”ครั้งนี้ เหมือนกับเป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริงที่เรียกประชุมรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับทราบนโยบาย โดยนั่งหัวโต๊ะเป็นประธานที่ประชุม และแสดงอำนาจบาตรใหญ่กดปุ่มสั่งการ รวมทั้งยังมีการ“หักหน้า-คาดคั้น-ไล่บี้”ทุกหน่วยงาน ที่มีส่วนต้องรับผิดชอบกับการแก้ไขปัญหายาเสพติด

ผู้เข้ารับฟังโอวาทและรับมอบนโยบายจากอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นจำเลยในคดีมาตรา 112 และมีปัญหาเรื่องกรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”มัดคออยู่ในขณะนี้ ก็มี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี และกำกับดูแลกระทรวงยุติธรรม และเป็นประธาน ป.ป.ส. อันถือได้ว่าเป็นตัวหลัก และเป็น“เบอร์ใหญ่”ของรัฐบาล“แพทองโพย”ที่เข้าร่วมประชุม

นอกจากนั้นก็มี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่เป็นเจ้าภาพจัดงานในครั้งนี้ ซึ่งพูดให้ชัดก็คือ เป็นการสนองงานให้แก่“นายใหญ่”ที่เป็นนายกรัฐมนตรีตัวจริง, นายอนุทิน ชาญวีรกูร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย, นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสารณสุข และข้าราชการระดับสูงที่เกี่ยวข้อง เช่น นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย, พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. เป็นต้น

“ทักษิณ ชินวัตร”ซึ่งจริงๆ แล้ว ล้มเหลวกับการแก้ปัญหายาเสพติด สมัยทำ“สงครามปราบปรามยาเสพติด” ในปี 2546 ยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ที่มีประชาชนเสียชีวิตไปมากว่า 2,500 ศพ จากการปฏิบัติการในช่วง 3 เดือน ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์-30 เมษายน 2546 ได้กล่าวในการแสดงปาฐกถาพิเศษครั้งนี้ โดยอ้างถึงชาวบ้านพูดกันว่า “เศรษฐกิจวันนี้ไม่เป็นไร รอได้ เพราะรู้ว่ามันยาก แต่ยาเสพติดมันรอไม่ไหว เดือดร้อนกันไปหมดแล้ว“

“ทักษิณ ชินวัตร”พูดต่อไปอีกว่า และเป็นการพูดเหมือนลืมตัวจากที่เคยโกหกกรณี“ป่วยทิพย์-ชั้น 14”ว่าป่วยวิกฤต และทั้งที่เป็นนักโทษก็ยังละเมิดกฏระเบียบกรมราชทัณฑ์ นอนดู ที.วี.แบบ“นักโทษเทวดา”ที่มีอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่นๆ อีกด้วย โดยกล่าวว่า “ตอนผมป่วย ผมนั่งดู ที.วี.อยู่ เห็นพวกเด็กๆ ไล่ฆ่า ไล่แทงปู่ย่าตายาย พ่อแม่ ผมนั่งคิด คิดเหมือนตอนที่ผมเห็นที่มหาวิทยาลัยเกษตรฯ ที่มีเรื่องเกิดขึ้น และผมสั่งลุยเป็นการด่วน แต่วันนี้มันเยอะ เยอะกว่าสมัยนั้นมาก ก็เลยกังวลว่า เราจะเริ่มต้นตรงไหนดี ผมก็เลยอยากเอาประสบการณ์มาเล่าให้ฟัง”

และ“ทักษิณ ชินวัตร”ยังพูดพาดพิงไปถึงกลุ่มว้าแดงในประเทศเมียนมา ว่า “แต่คงไม่ได้พูดแต่เรื่องความหลังตามประสาคนแก่ แต่ว่ามันเป็นสิ่งที่เราต้องปรับเข้ากับภาวะปัจจุบัน ภาวะปัจจุบันกับเมื่อในอดีตมันต่างกัน สมัยก่อนนั้น พ่อค้ารายใหญ่อยู่ในประเทศไทย แล้วก็การผลิต อยู่ต่างประเทศครึ่งหนึ่ง ไทยครึ่งหนึ่ง แต่วันนี้การผลิตแทบจะร้อยเปอร์เซ็นต์ อยู่ที่ว้าแดงนั่นแหละ”

อีกประเด็นหนึ่งที่“ทักษิณ ชินวัตร”มอบนโยบายให้รัฐมนตรีและข้าราชการระดับสูงที่เข้าประชุม ในรูปแบบอำพรางว่าเป็น“ปาฐกถาพิเศษ”ในครั้งนี้ และได้กล่าวปรามาสผู้ที่เกี่ยวข้อง เหมือน“หักหน้า”ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนว่า “รู้จุด(แหล่งผลิตที่ว้าแดง)แล้ว แต่ว่าเฉยไม่ได้ และนักค้ารายใหญ่หลบหนีหมายไปอยู่ข้างบ้านหมด แต่ว่าก็ยังมีเครือข่ายในประเทศไทย แล้วก็มีพ่อค้ารายย่อยฝังตัวอยู่ในหมู่บ้าน ทุกหมู่บ้าน ไม่มีใครไม่รู้หรอก ว่าใครคือพ่อค้ายาเสพติดในแต่ละหมู่บ้าน ยกเว้นเจ้าหน้าที่ไม่รู้เรื่อง เจ้าหน้าที่ไม่รู้เรื่อง เพราะว่าแกล้งไม่รู้เรื่อง หรือไม่อยากรู้เรื่อง ก็ไม่รู้ แต่ว่าเดี๋ยวค่อยคุยกัน เพราะฉะนั้น วันนี้การแก้ปัญหาตรงนี้ต้องประยุกต์จากเก่า”

และอีก 3 ย่อหน้า จากการมอบนโยบายการแก้ปัญหายาเสพติด ให้แก่รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูง ในฐานะนายกรัฐมนตรีนอกเหนือรัฐธรรมนูญ ซึ่ง“ทักษิณ ชินวัตร”ได้สำแดงตนไม่ต่างจากเมื่อครั้งอดีต จากการประกาศตัวเป็นแม่ทัพในการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดขั้นแตกหัก แบบใช้วิธี“ตาต่อตา-ฟันต่อฟัน” หรือ“Iron Fist” ที่เรียกว่า“กำปั้นเหล็ก”-ดังนี้

“แหล่งผลิตยาเสพติดอยู่ในว้าแดง เขตติดต่อสามเหลี่ยมทองคำ รัฐฉาน วันนี้ผมมีความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านค่อนข้างดี เพราะเป็นคนแก่ที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงพยายามไล่ตามความสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านให้เกิดประโยชน์ แต่บังเอิญไปไหนไม่ค่อยได้”

“ดังนั้น ถึงเวลาที่เราจะต้องขอความร่วมมืออย่างจริงจังกับประเทศเพื่อนบ้าน แหล่งผลิต ถ้าเมียนมาบอกว่าจัดการไม่ได้ เพราะเป็นชนกลุ่มน้อย เราคงต้องขอจัดการเองมั้ง เพราะมันเป็นศัตรูของเรา”

“ ศัตรูของเรา มันอยู่ในพื้นที่ไหน ถ้าเขาจัดการไม่ได้ เราต้องขออนุญาต วิธีจัดการของเราก็มีวิธี ที่สากลรับได้ และต้องจัดการเรื่องแหล่งผลิต คิดว่าอีกไม่กี่เดือน 1 - 2 เดือนนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องไปพบปะกับเพื่อนบ้านทั้งหมด เพื่อผนึกกำลังกันให้ว้าแดงเลิกผลิตยาเสพติด ถ้าคุณยังผลิต คุณคือศัตรูของประเทศไทย เราไม่ควรมีความปราณีกับศัตรู นี่เป็นสิ่งที่ผมคิดว่ารัฐบาลจะต้องมีความชัดเจน และต้องเกิดขึ้น”

ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ใครจะเชื่อมือ“ทักษิณ ชินวัตร”อย่างไรก็ตาม แต่สมัยที่“ทักษิณ”เป็นนายกรัฐมนตรี และทำสงครามปราบปรามยาเสพติดนั้น “ทักษิณ”ได้ใช้วาทกรรมปลุกเร้าข้าราชการและเจ้าหน้าที่ระดับผู้ปฏิบัติให้ใช้ความรุนแรง อาทิ  “ภายใต้แสงอาทิตย์ ไม่มีอะไรที่ตำรวจไทยทำไม่ได้”, “การทำงานหนักของท่าน 3 เดือน ถ้าจะมีผู้ค้ายาตายไปบ้างก็เป็นเรื่องปกติ”, “บางทีถูกยิงตายแล้วต้องถูกยึดทรัพย์ด้วย ผมคิดว่าเราต้องเหี้ยมพอๆ กัน” และ “ที่อยู่ของขบวนการค้ายาเสพติดมี 2 ที่ คือถ้าไม่ไปคุก ก็ไปวัด”

ผลจากการ“ทำสงครามปราบปรามยาเสพติด” ภายใต้แม่ทัพที่ชื่อ“ทักษิณ ชินวัตร” เพียงแค่ 90 วัน มีผู้เสียชีวิตจากคดีฆาตกรรมถึง 2,819 ศพ ซึ่งในจำนวนนี้พบว่า มีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดและถูกตำรวจวิสามัญฆาตกรรมถึง 1,370 ศพ และก็ทำให้หลายองค์กรทั้งในและต่างประเทศเห็นว่า เป็นนโยบายที่ส่งเสริมการใช้ความรุนแรงและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง เพราะมีผู้บริสุทธิ์จำนวนมาก รวมทั้งผู้หญิงและเด็ก ถูกวิสามัญฆาตกรรมหรือถูก“ฆ่าตัดตอน”โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสียงทักท้วงจาก“ยูเอ็น” ซึ่งเห็นว่า“ผู้เสียชีวิต” ที่ถึงแม้ว่าบางส่วนจะเกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็ตาม แต่ก็ยังถือว่าเป็น“ผู้บริสุทธิ์” สมควรที่จะต้องนำคดีขึ้นสู่การพิจารณาของศาล ไม่ใช่ใช้วิธี“ศาลเตี้ย”ตัดสินจากการ“ฆ่าตัดตอน” และเสียงทักท้วงของยูเอ็นครั้งนี้ ยังถูก“ทักษิณ ชินวัตร”โต้กลับว่า “ยูเอ็น ไม่ใช่พ่อ”

ที่สำคัญอย่างยิ่ง, และต้องหมายเหตุไว้ก็คือ การทำสงครามปราบปรามยาเสพติดตามนโยบายของ“ทักษิณ ชินวัตร” ยังปรากฏด้วยว่า คณะกรรมการตรวจสอบอิสระทุกคณะที่ถูกแต่งตั้งขึ้นมาสอบสวน ภายหลังจาก“ทักษิณ ชินวัตร”พ้นอำนาจไปแล้ว สรุปต้องตรงกันว่า เป็นการก่ออาชญากรรมร้ายแรงตามกฎหมายระหว่างประเทศ คือ เข้าข่ายความผิด“การก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” (Crime against humanity)

อันถือได้ว่า เป็นความผิดเช่นเดียวกับที่อดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ ถูกศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) ดำเนินคดีอยู่ในเวลานี้ จากการทำ“สงครามปราบปรามยาเสพติด”ในประเทศฟิลิปปินส์ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ มีตัวเลขระบุว่า จำนวนผู้ต้องสงสัยคดียาเสพติด ที่ถูกสังหารจากการทำสงครามปราบปรามยาเสพติดในฟิลิปปินส์ ตั้งแต่ดูเตอร์เตเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการในปี 2559 - 2565 ตัวเลขอยู่ที่ 6,252-12,00 ศพ โดยดูเตอร์เตถูกจับกุมเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2568 ซึ่งเวลานี้ถูกควบคุมตัวที่หน่วยกักขังแห่งสหประชาชาติ หรือ“United Nations Detention Unit (UNDU)” ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์

โชคดีของ“ทักษิณ ชินวัตร” ที่ประเทศไทยไม่ได้เป็นภาคีของศาลอาญาระหว่างประเทศ ด้วยเหตุนี้ คดีที่เกิดขึ้นจึงไม่อยู่ภายใต้เขตอำนาจของศาลแห่งนี้ อันทำให้ไม่สามารถฟ้องร้องเอาผิดกับ“ทักษิณ”ได้

หาไม่เช่นนั้นแล้ว ไม่แน่ว่าวันนี้“ทักษิณ ชินวัตร”ซึ่งเข้าข่าย“ฆาตกรผู้ก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ” คงอาจจะติดคุกหัวโต และนอนรอความตายอยู่ในคุกแล้วก็เป็นได้

ไม่ใช่ผู้มีประสบการณ์ ที่ทำให้รัฐมนตรีซึ่งเป็นข้าเก่าเต่าเลี้ยง ต้องเชิญไปเป็น“ปาฐก” เพื่อมอบนโนบายทำสงครามปราบปรามยาเสพติดรอบใหม่กับ“ว้าแดง”อีกครั้ง !

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:55 น. ‘พิเชษฐ์‘ไม่ไหวทนฟัง! ออกโรงโต้-ให้ตรวจสอบ‘งบฯสภาฯ’ 8 พันล้าน ท้าตรวจกระทรวง-หน่วยงานอื่นด้วย
22:45 น. 'ไอซ์'สับเละงบฯ 69 ชี้ทุจริตภาครัฐทำสูญเงิน 5 แสนล้านต่อปี ซัดโยกงบไปลง'ผู้รับเหมา'หมด
22:33 น. 'ฮุนเซน'ลั่นไม่อยากเห็น การปะทะไทย-เขมร! แต่หนุนรัฐบาลส่งทหาร-อาวุธหนัก ป้องกันชายแดน
22:31 น. รวบแล้ว! หนุ่มคลั่งยา-พนันออนไลน์ วิ่งราวทรัพย์สาวพม่า กราบเท้าแม่สำนึกผิด
22:12 น. 'ดร.อานนท์'ฟาดเดือด! บอก'เท้ง'อย่าสาระแน ปมทรัพย์สิน
ดูทั้งหมด
‘หมอวี’ฉายภาพระบบสาธารณสุข อีก 3 ปีพัง ‘รักษาฟรี’อาจเหลือแค่ในความทรงจำ
‘เซเลบผ้าท้องถิ่น’จัดหนัก! ถล่ม‘อิ๊งค์’ไร้กาลเทศะ ไม่รู้ธรรมเนียมปฏิบัติการทูต
'อัยการผู้เชี่ยวชาญพิเศษ'ชี้ ลำดับเหตุการณ์ก็รู้ 'ใครรังแก อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์'
วงการแพทย์ทั่วโลกฮือฮา! ผลวิจัยชี้ยารักษาเบาหวาน ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็ง
สะพัด!‘อิ๊งค์’รับมือไม่ไหว รัฐบาลส่อแตกหัก จับตาก่อน 13 มิ.ย.เขี่ยทิ้ง‘ภูมิใจไทย’
ดูทั้งหมด
รัฐบาลโจรปล้นชาติ
หลักความเป็นตัวของตัวเองในเวทีระหว่างประเทศ
สู้ว้อย?
สำนักงานพระคลังข้างที่ สภาผู้แทนมติเอกฉันท์ 454 ต่อ 0 เสียง
บุคคลแนวหน้า : 29 พฤษภาคม 2568
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

‘พิเชษฐ์‘ไม่ไหวทนฟัง! ออกโรงโต้-ให้ตรวจสอบ‘งบฯสภาฯ’ 8 พันล้าน ท้าตรวจกระทรวง-หน่วยงานอื่นด้วย

รวบแล้ว! หนุ่มคลั่งยา-พนันออนไลน์ วิ่งราวทรัพย์สาวพม่า กราบเท้าแม่สำนึกผิด

น่ากลัว! แผ่นซีเมนต์คอนโดหรูร่วงทับ นักท่องเที่ยวแดนจิงโจ้บาดเจ็บ

'เสก โลโซ'แต่งเพลงใหม่ในคุก! อัปเดตชีวิตที่ไม่เหงา เลี้ยงไอติมเพื่อนทั้งแดน

Synopsis TikTok AR Game #หรือฉันก็เป็นเอเลี่ยน

'ผี'กร่อยอีก! บุกพ่าย'อาเซียนออลสตาร์'ชวดแชมป์ที่มาเลเซีย

  • Breaking News
  • ‘พิเชษฐ์‘ไม่ไหวทนฟัง! ออกโรงโต้-ให้ตรวจสอบ‘งบฯสภาฯ’ 8 พันล้าน ท้าตรวจกระทรวง-หน่วยงานอื่นด้วย ‘พิเชษฐ์‘ไม่ไหวทนฟัง! ออกโรงโต้-ให้ตรวจสอบ‘งบฯสภาฯ’ 8 พันล้าน ท้าตรวจกระทรวง-หน่วยงานอื่นด้วย
  • \'ไอซ์\'สับเละงบฯ 69 ชี้ทุจริตภาครัฐทำสูญเงิน 5 แสนล้านต่อปี ซัดโยกงบไปลง\'ผู้รับเหมา\'หมด 'ไอซ์'สับเละงบฯ 69 ชี้ทุจริตภาครัฐทำสูญเงิน 5 แสนล้านต่อปี ซัดโยกงบไปลง'ผู้รับเหมา'หมด
  • \'ฮุนเซน\'ลั่นไม่อยากเห็น การปะทะไทย-เขมร! แต่หนุนรัฐบาลส่งทหาร-อาวุธหนัก ป้องกันชายแดน 'ฮุนเซน'ลั่นไม่อยากเห็น การปะทะไทย-เขมร! แต่หนุนรัฐบาลส่งทหาร-อาวุธหนัก ป้องกันชายแดน
  • รวบแล้ว! หนุ่มคลั่งยา-พนันออนไลน์ วิ่งราวทรัพย์สาวพม่า กราบเท้าแม่สำนึกผิด รวบแล้ว! หนุ่มคลั่งยา-พนันออนไลน์ วิ่งราวทรัพย์สาวพม่า กราบเท้าแม่สำนึกผิด
  • \'ดร.อานนท์\'ฟาดเดือด! บอก\'เท้ง\'อย่าสาระแน ปมทรัพย์สิน 'ดร.อานนท์'ฟาดเดือด! บอก'เท้ง'อย่าสาระแน ปมทรัพย์สิน
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

ปาก‘ส.ท.ร.’นิสัยถาวรของ‘ทักษิณ’

ปาก‘ส.ท.ร.’นิสัยถาวรของ‘ทักษิณ’

29 พ.ค. 2568

บาปของ‘ทักษิณ’ใน‘สงครามยาเสพติด’

บาปของ‘ทักษิณ’ใน‘สงครามยาเสพติด’

28 พ.ค. 2568

‘สัจจะ’ไม่มีในหมู่โจร

‘สัจจะ’ไม่มีในหมู่โจร

27 พ.ค. 2568

‘แพทองโพย’แอบซุกใครไปอังกฤษหรือไม่ ?!

‘แพทองโพย’แอบซุกใครไปอังกฤษหรือไม่ ?!

26 พ.ค. 2568

กรรมไล่ล่า‘ตระกูลชินวัตร’

กรรมไล่ล่า‘ตระกูลชินวัตร’

23 พ.ค. 2568

ความเหมือน‘ตระกูลชิน’กับ‘ตระกูลมาร์กอส’

ความเหมือน‘ตระกูลชิน’กับ‘ตระกูลมาร์กอส’

22 พ.ค. 2568

ประเทศไทยยุค‘กระปี๋’ขับเครื่องบิน

ประเทศไทยยุค‘กระปี๋’ขับเครื่องบิน

21 พ.ค. 2568

‘แพทองโพย’ทัวร์อังกฤษผลาญเงินหลวง

‘แพทองโพย’ทัวร์อังกฤษผลาญเงินหลวง

20 พ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved