“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า www.naewna.com สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทยทันเล่ห์เหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีอย่างเท่าเทียม”...nn ความจริงเรื่องแรกที่ต้องแสดงให้ปรากฏสัญญาณการจัดตั้งรัฐบาลกรณี “พรรคเพื่อไทย” ชนะการเลือกตั้ง “ดีเอ็นเอสัมภเวสี...อุ๊งอิ๊ง-แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยตอบชัดผ่านสื่อโทรทัศน์... “พรรคเพื่อไทย ไม่ปิดประตูตายในการจัดตั้งรัฐบาลร่วมกับ พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ “ลุงป้อม – พลเอกประวิตรวงษ์สุวรรณ” ชายชราผู้มาทำการเมืองด้วย “ใจบันดาลแรง” ที่ “ทักษิณ”ตอแหลคำโตไม่เคยคุยกันมากว่า 17 ปีแล้ว จึงไม่น่าแปลกใจที่ “นางประวีณ์นุชอินทปัญญา ภรรยา พล.อ.นพดล อินทปัญญา เตรียมทหารรุ่น 6 เพื่อนเลิฟพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ” อยู่ลำดับที่ 22 ในบัญชีรายชื่อ สส.พรรคเพื่อไทย” เหนือ “อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (ลำดับ 26), เหนือ “พวงเพ็ชรชุนละเอียด” แม่ทัพนครบาล (ลำดับ 98), “สุขุมพงศ์ โง่นคำ” อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในรัฐบาลนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ (น้องเขยทักษิณ ชินวัตร) และอดีตกรรมการในคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านกฎหมาย ในรัฐบาล “ลุงตู่-พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ที่กลับมาพรรคเพื่อไทยคอกเดิมอีกครั้งหลังฝุ่นควันรัฐประหารจาง (ลำดับที่ 50) แน่นอนดีลนี้ต้องมีหน่อไม้ในกอไผ่แน่ ต่างกันสิ้นเชิงกับ “พรรคก้าวไกล” ที่ประกาศชัดเจนไม่มีโอกาสจับมือกับ “พรรคพลังประชารัฐ” หรือ “พรรครวมไทยสร้างชาติ” ที่มีนายพล 2 ป. ที่มีส่วนสร้างรัฐประหารเมื่อ 22 พ.ค. 2557อยู่ในพรรคอย่างเด็ดขาด...

nn สถาบันการเมือง “ค่ายสีฟ้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม - พรรคประชาธิปัตย์” ยุค “อู๊ดด้า – จุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์”นำทัพผู้สมัครสส.ระบบบัญชีรายชื่อของพรรคไปลงสมัครรับเลือกตั้งในวันแรกของการรับสมัคร พร้อมพรรคคู่แข่งขันอีก 49 พรรค ต้องจับสลากเบอร์ประจำพรรค “อู๊ดด้า” ผู้ไม่สนใจมู ลั่น “ได้เบอร์ไหนไม่ซีเรียสไม่สำคัญเท่าผลงาน-ประสบการณ์ของพรรค” นั่นไงเลยได้เลขสองตัวเบอร์ 26 ซะเลยก็ไปลุ้นกันในอีก 50 วันข้างหน้าจะได้โควตา สส.บัญชีรายชื่อมากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาภายใต้การนำของ “มาร์คทาสแมว – อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” หรือไม่ (ซีเรียส) เช่นกัน...

nn พูดถึงการเลือกตั้ง ล่าสุดพรรคเพื่อไทย ก็เปิดเผยชื่อ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี”อย่างเป็นทางการแล้วหลังทำก็ปล่อยลูกล่อลูกชนมาพักใหญ่ก็ไม่มีอะไรให้สังคมไทยตื่นเต้น นอกจาก “สมเพช” พฤติกรรมของคนบางคนในจำนวนนี้ที่ประกอบด้วย “ชัยเกษม นิติสิริ, แพทองธาร ชินวัตร, เศรษฐา ทวีสิน” นึกว่าจะมี“แลซซี่ – สุนัขแสนรู้ผู้กตัญญูรู้คุณ 1 ใน 3 สุนัขที่ฮอลลีวู้ดจารึกชื่อไว้ใน ฮอลล์ ออฟ เฟรม” ซะอีก โถวาสนาของคนเรียนเก่งเป็นสุนัขยังไม่ได้ เป็นแค่ “ควาย-กระบือ” ให้สนตะพายต่อไป...nn “ตาดูดาว เท้าติดดิน รวยแล้วไม่โกง” จริงหรือ!?! … Forbes รายงานการสำรวจมหาเศรษฐีผู้มั่งคั่งของโลก พบว่า “ทักษิณ ชินวัตร นักธุรกิจและอดีตนักการเมืองไทยวัย 73 ปี ที่หลบหนีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ไปพำนักอยู่ “มหานครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” ได้รับการจัดอันดับใน ปี 2023 ให้เป็นมหาเศรษฐีลำดับที่ 1,434 จากทั้งหมด 2,540 คนของโลก พบว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นจากปีก่อนมากกว่า 100 ล้านเหรียญสหรัฐ จากกำไรในการลงทุนและธุรกิจในต่างประเทศ...

nn ในระบอบทักษิณ “ทุนสามานย์” อาศัยอำนาจรัฐและเผด็จการรัฐสภากอบโกยผลประโยชน์เข้าธุรกิจครอบครัวและพวกพ้องมากมาย... สังคมไทยคงยังไม่ลืม “แปลงสัญญาสัมปทานเป็นภาษีสรรพสามิต” เพื่อผลประโยชน์ของ “บริษัท ชิน คอร์เปอเรชั่น” วันนี้สังคมรับทราบกรณี “ขายบ้านแถมสัญชาติ” ที่เกิดขึ้นในระบอบทักษิณอีกเช่นเคยครั้งนั้นนักการเมืองทุนสามานย์ที่บริหารประเทศดำเนินธุรกิจ 2 อย่าง 1.โทรคมนาคม 2.อสังหาริมทรัพย์ ยุคนี้ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยและระบอบทักษิณ” ทำธุรกิจ “อสังหาริมทรัพย์” นาฬิกาจะหมุนไปหยุดตรงการเอื้อประโยชน์ให้แก่ธุรกิจครอบครัวและคนรอบข้างหรือไม่ ซ.ต.พ. ...

nn พรรคการเมืองหาเสียงเลือกตั้งขายฝันเลิกเกณฑ์ทหาร เพื่อให้บริษัทต่างๆ มาจ้างงานให้เกิดประโยชน์และสร้างรายได้บางพรรคยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกา ความที่ “ไม้หน้าสาม” เข้ารับการตรวจเลือกเป็นทหารตามวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามที่ชายสัญชาติไทยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ต้องเข้ารับการตรวจคัดเลือกเพื่อเป็นทหารรับใช้ชาติรับใช้สังคมไทย จึงสามารถบอกได้ตรงนี้เลยว่า การเข้ารับการฝึกเป็นทหารให้อะไรมากกว่าที่ “ช้างแข็งแรง” คิดนัก สำรอกสำรากบางเรื่องด้วยความไม่รู้มันน่าขำราวไร้ภูมิปัญญาจริงๆ สังคมไทยวันนี้ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า “ไร้ระเบียบวินัย” ทำให้เกิดความสูญเสียมากมายบ่อยครั้ง การเข้ารับการฝึกเป็นกำลังพลไม่ว่าจะเหล่าทัพไหนก็ตามไม่เว้นแม้แต่กองลูกเสือนอกจากวิชาความรู้ความสามารถ มีความกล้าแล้วสิ่งหนึ่งที่ได้รับจากการฝึกโดยไม่ต้องซื้อหาคือ “ระเบียบวินัย”...ไอ้เสียงสำรอกสำรากที่บอกว่าจะให้ภาคธุรกิจเอกชนมาประมูลตัวคนเหล่านี้ไปทำงานเพื่อมีรายได้เลี้ยงครอบครัวมากกว่าที่รัฐเกณฑ์มาฝึกทหาร ประเด็นคือคุณภาพคนเหล่านี้มีมากพอประกอบอาชีพใดได้บ้างนี่ไม่ใช่คำดูถูกดูแคลนแต่ถ้าไม่เคยสัมผัสไม่เคยรู้หยุดคิดตั้งสติศึกษาข้อเท็จจริงซะก่อนไม่อย่างนั้นเสียงสำรอกเรื่องนี้ไม่ต่างอะไรจากคำโกหกตอแหลไร้สามัญสำนึก ชายไทยที่อายุครบเกณฑ์ทหาร ประมาณการเลยว่า ร้อยละ 5-8 ไม่ได้เรียนหนังสือ ไม่รู้ภาษาเลยก็มี จำได้ว่าเคยมีทหารเกณฑ์เข้ามาฝึกต้องใช้หญ้าผูกแขนซ้าย กิ่งไม้ผูกแขนขวา สั่งซ้ายหันขวาหันต้องสั่งหญ้าหันกิ่งไม้หันด้วยบางทีเฉลี่ยความรู้จบการศึกษาไม่เกินมัธยมศึกษาปีที่สาม เพราะเรียนสูงกว่านี้จะเข้ารับการฝึกเป็นนักศึกษาวิชาทหาร ซึ่งได้รับการยกเว้นการเกณฑ์ทหารและได้สิทธิพิเศษในการเป็นทหารเกณฑ์น้อยกว่าปกติ และหากเรียนระดับปริญญาตรีก็จะได้รับการผ่อนผัน และหากคนเหล่านี้เลือกวิธีสมัครเข้าเป็นทหารเกณฑ์ ทหารใหม่ไม่จับใบดำใบแดง เขาจะเข้ารับการฝึกแค่ 6 เดือนเท่านั้นจับได้ใบแดงก็เป็นทหารเกณฑ์แค่ 1 ปี...

nn บรรทัดนี้เขียนเพื่อให้ใครบางคนรู้ ไม่อายขายหน้าปล่อยไก่ สด.9 เขาเรียกว่าเอกสารสำคัญการลงบัญชีทหารกองเกินชายไทยจะได้รับเมื่ออายุครบ 17 ปีบริบูรณ์สัญชาติไทย เมื่อทำบัตรประจำตัวประชาชนแล้วก็ต้องลงบัญชีทหารกองเกินกับสัสดีในแต่ละเขตแต่ละอำเภอ จนอายุ 20 ปี อายุครบเกณฑ์ทหารก็เข้ารับการตรวจคัดเลือกเรื่อยไปจนถึงอายุ 45 ปี เมื่อผ่านการคัดเลือกเป็นทหารจะผ่านหรือไม่ผ่านก็ตามทางราชการจะออกเอกสารที่เรียกกันว่า สด.43 ให้ชายไทยทุกคนที่เข้าตรวจรับการคัดเลือกหรือจับได้ใบดำ ส่วนชายไทยที่จับใบแดงเข้าเป็นทหารเกณฑ์จะได้รับเอกสารสำคัญอีกครั้งที่เรียกว่า สด.8 หรือใบสำคัญทหารกองหนุน หรือ สมุดประจำตัวทหารกองหนุนที่ผ่านการเป็นทหารกองประจำการ ดังนั้นก่อนหน้านี้มีนักการเมืองที่โอ่โอ้อวดขออาสาบริหารประเทศชาติบ้านเมืองพูดถึงสด.9 กับการเกณฑ์ทหารของลูกชาย น่าจะเป็นคนละเรื่องด้วยความไม่รู้ภาษามากกว่า...nn

ไม้หน้าสาม