คำภาษาไทยที่ “สุดฮิต” ในวันนี้ คงไม่มีคำใด “กระเดื่องดัง” เท่ากับคำว่า “ทะลุ”

“ทะลุ” ที่แปลได้อย่าง “กำปั้นทุบดิน” ทั้งใน “รูปธรรม” และ “นามธรรม” นั้น คนไทยทุกเพศวัยต่างรู้ความหมายได้อย่าง “แจ่มแจ้ง”

“ในด้านรูปธรรม” หมายถึง “เกิดรูจากด้านหนึ่งไปทะลุอีกด้านหนึ่ง” โดยการ “ทะลุ” นี้เกิดจากสาเหตุมากมาย ตั้งแต่เกิดจาก “ของแหลม” หรือ “ของคม” ทะลวงเป็นรูจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง หรือ “เกิดจากการกระทำของสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย” ใช้ “คมเขี้ยวที่สุดแกร่ง” ทำการ “แทะ” จนเกิดรูทะลุสองด้าน

“ในด้านนามธรรม” หมายถึง “แจ่มแจ้ง” หรือ “กระจ่างชัด”ล้านเปอร์เซ็นต์ในสรรพสิ่งที่อยากรู้จน “ทะลุปรุโปร่ง” เช่น “ทะลุวิชาอาคมสุดขลัง สาปลิงให้เป็นลา สาปหมาให้เป็นคน”ได้อย่างเหลือเชื่อ

กรณี “ใช้กลยุทธ์สุดลับชนะการเลือกตั้ง และทะลุในการใช้วิชามารในการไล่ล่าอำนาจ” ก็ถือเป็นรายการ “ทะลุ” ในด้านรูปธรรม เช่นกัน

ต้องยอมรับว่า “ทะลุ” ที่เป็นคำไทย “มีพลังสุดห้าว” นั้นกลายเป็น “แฟชั่นมาแรงยิ่งกว่าคำใดๆ” ทำให้ “ด้อมส้ม” ทั้งหลายนำมาใช้อย่าง “สุรุ่ยสุร่าย” กันทุกกลุ่มและทุกตระกูล เช่น “กลุ่มทะลุวัง กลุ่มทะลุแก๊ส กลุ่มทะลุฟ้า กลุ่มทะลุดินกลุ่มทะลุเมฆ กลุ่มทะลุโลก และกลุ่มทะลุสะดือทะเล” เป็นต้น

โดยส่วนใหญ่ ใช้คำ “ทะลุ” ที่มีความหมาย “ด้านรูปธรรม” ทั้งสิ้น

ถ้าต้องการให้ “แฟชั่นทะลุ” ครอบคลุมอย่างครบถ้วนน่าจะมี “คนหัวใส” คิดตั้งกลุ่มหรือ “ตระกูลทะลุ” ในด้าน “นามธรรม” ขึ้นมาบ้าง เช่น “กลุ่มทะลุพิษ กลุ่มทะลุอธรรม กลุ่มทะลุวิชามาร กลุ่มศรีธนญชัย กลุ่มแฟร้งค์ อบาเนล และกลุ่มวิญญาณโหดจากขุมนรกทาร์ทารัส” เป็นต้น

ใครก็ตามที่สามารถ “ยึดแฟชั่นทะลุ” ในทุกๆ ด้านทั้งรูปธรรมและนามธรรม ก็จะมี “พลังระดับเทพไตตันและอสูรไซคลอป” ที่ไล่ล่าทุกสิ่งได้สุดง่าย ยิ่งกว่า “ปอกกล้วยเข้าปาก”

กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม