lก่อนอื่น แม้จะช้าไป ผมขอแสดงความยินดีและขอต้อนรับหัวหน้ากลับสู่บ้านเกิด THAILAND และขอฝาก “ความรู้สึก จากใจจริง” ถึงหัวหน้าฯ
๑.เวลา : ความจริง เวลาเป็นสิ่งหนึ่งที่เที่ยงตรง แต่ความรู้สึกของคนคนหนึ่ง จะมีความรู้สึก “เร็ว ช้า” ตามสิ่งที่อยู่ในใจของตน
(๑) ปี ๒๕๓๗-๒๕๔๑ ที่หัวหน้าเดินเข้ามาที่บ้านพลังธรรม และเดินจากไปฯ
๒๙ ปี ดูผ่านไปรวดเร็ว : แต่ผมคิดว่า “เป็นช่วงเวลาที่หัวหน้าอยู่ในพรรคที่ดีที่สุด” ในแง่ของความมีคุณธรรมตรงไปตรงมา ไม่ซื้อขายเสียง ไม่พูดปดมดเท็จ ฯลฯ หัวหน้า ได้รับความรัก ความจริงใจ จากคนพลังธรรมส่วนที่มีคุณธรรมและผม ขอขอบคุณ ที่หัวหน้าเชื่อใจ และชื่นชมฯ ว่า “เป็นคนมีอุดมคติ” ผมยังคงเคารพ และพูดตรง จริงใจ ต่อหัวหน้าเสมอฯ
(๒) ปี ๒๕๕๑ : หัวหน้า ต้องเดินทางไปอยู่ต่างประเทศจนถึงวันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๖๖ ได้เดินทางกลับคืนมาสู่แผ่นดินไทย
๑๕ ปี คงเป็นเวลาที่ยาวนานมาก สำหรับอดีตนายกฯและเจ้าของพรรคเพื่อไทย
เหตุผลที่แท้จริงของการกลับมา มีตัวหัวหน้าและครอบครัวที่รู้ดีที่สุด!!!
ช่วงเวลาของการเป็นนักโทษสำหรับคดีที่ศาลตัดสินแล้ว จาก ๘ ปี เหลือ ๑ ปี และจะเหลืออีกกี่วัน กี่เดือนเวลาที่จะนอนในโรงพยาบาล หรือนอกในห้องขัง สถานที่ไหนจะยาวนานกว่ากัน
(๓) ช่วงระหว่าง การเป็นนักโทษ กับ การกลับคืนเป็นพลเมืองดีของประเทศคงเป็นเวลาที่มีคุณค่าความหมาย ในอารมณ์ความรู้สึกที่ต่างกันของหัวหน้า-ครอบครัว และประชาชนไทย
๒.ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของหัวหน้าและผู้เกี่ยวข้อง
(๑) เรื่องของหัวหน้า : แน่นอน มันเกี่ยวข้องโดยตรงกับหัวหน้าและครอบครัวลูกหลานอันที่รักยิ่ง โดยเฉพาะ“ยามมีชีวิตสุดท้าย ในฐานะชายชราคนไทยคนหนึ่ง
(๒) แต่เนื่องจากหัวหน้า เป็นผู้นำและมีบทบาทสำคัญต่อการเมืองไทย จึงมีเรื่องที่โยงใยกับบุคคลที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงและโดยอ้อม รวมทั้งประชาชนไทยในภาวะวิกฤตครั้งหนึ่งของชีวิต หัวหน้าคงอยากได้รับความสบายกายใจและความสุขทั้งตัวเองและครอบครัว
ขณะเดียวกัน หัวหน้าได้คิดถึง บ้างไหม?
ผลที่เกิดขึ้น กับผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้อง เช่น ราชทัณฑ์โรงพยาบาลตำรวจ กระทรวงยุติธรรม อัยการ ศาลฯ ความสุขที่แท้จริงของคนคนหนึ่ง ในยามก่อนจากไปสู่ธรรมชาติ ควรจะเป็นความสุขร่วมของ “ตนเอง ครอบครัว และผู้ที่เกี่ยวข้องฯ”
๓.ผู้คนมองหัวหน้าอย่างไร และหัวหน้าอยากจะให้คนคิดถึงอย่างไร?
(๑) หัวหน้าเป็นทั้งบุคคลสาธารณะ และเป็นคนไทยคนหนึ่ง
ก.การเป็นบุคคลสาธารณะ
คนมองหัวหน้า หลากหลาย ตามความรู้สึก รัก ไม่รัก ชอบ เกลียด หลง ชื่นชม นินทาฯ ความเป็นผู้นำที่มีบทบาทสูงเด่น โดยเฉพาะการเป็นนายกรัฐมนตรี และผู้สร้างปั้นนายกฯมาจากบทบาท ความสามารถและศักยภาพ ที่มากประสบการณ์ ที่สร้างขึ้นมาด้วยตนเองแน่นอน คงมีทั้งเรื่องถูกผิด ดีชั่วฯ ปะปนผสม เป็นน้ำพริกผสมน้ำยา เป็นแกงโฮะฯ คนรักคนชอบ และมองต่าง จากคนที่เกลียดชิงชังครอบครัว ลูกๆ และคนใกล้ชิดอาจจะรู้ดีแต่หัวหน้า จะเป็นคนรู้ดีที่สุด แต่จะแสดงออกอย่างไร ตรง ไม่ตรง ก็แล้วแต่หัวหน้า ได้มีส่วนร่วมสร้างที่ดีงามให้กับประเทศและประชาชนแต่ ไม่รู้ว่า จะน้อย หรือจะมากกว่าสิ่งที่ไม่ดี ที่ทำต่อชาติและชาวบ้าน แต่แน่นอน “ตัวหัวหน้า และครอบครัวลูกหลาน” จะเป็นผู้ที่ได้รับมากที่สุด
ข.การเป็นคนไทยคนหนึ่ง
คนไทยที่เป็นพลเมืองที่ดี และไม่ดี จะแยกกันจากอะไร? แน่นอน คนทั่วไปรู้ดี รู้ถูก รู้ผิดรู้จักตนเอง เป็นใคร มาจากไหนชื่ออะไรพ่อแม่ บรรพบุรุษ เป็นใคร มาจากไหนเกิดเมืองไทย หรืออพยพมาพึ่งพระบรมโพธิสมภารฯหน้าที่ที่ดีคืออะไร?การทำเพื่อตนเอง ครอบครัว ลูกหลาน ส่วนรวม และบ้านเมืองคิดและจะทำอะไร ก่อนตาย
อยากให้ลูกหลานคิดถึงเราอย่างไร หลังจากโลกนี้ไปแล้ว อยากให้ประชาชนไทย คิดถึงเราอย่างไร?
๔.ผมคิดต่อ : หัวหน้าอย่างไร?
(๑) หัวหน้าเป็นคนไทยคนหนึ่ง ที่อยู่ กินขี้ปี้นอนตามสภาพวิถีชีวิตของตนเอง ไม่เหมือนใครเป็นทั้งคนปกติธรรมดาเหมือนคนทั่วไปแต่ก็เป็นคนที่มีศักยภาพ และความคิดในการจัดการชีวิตและงานให้สำเร็จได้อย่างน่าทึ้งแน่นอน “การทำการเมืองไทย” มันต้องมีทุกลูกทุกรูปแบบ จึงจะประสบความสำเร็จ
-ต้องมีความรู้ และความเข้าใจสังคมไทย และเรื่องที่จะทำ
-ต้องมีข้อมูลค่อนข้างครบถ้วนมากที่สุด
-ใช้อำนาจเป็น ทั้งเงิน สื่อ มวลชน ผู้ปฏิบัติงาน ความปรารถนาของคนในสังกัดฯ
-มีการจัดการที่ตรงเป้าหมาย
-ใช้ทุกรูปแบบ ทุกฝ่าย ที่ทำให้งานบรรลุ ไม่กังวลผิดถูก (ผู้ชนะเป็นฝ่ายถูก)
-มีคนที่ไว้ใจ และสามารถจัดการได้
-ไม่จมกับความผิดพลาด แก้ไขปรับปรุงใหม่
-ไม่คิดอาฆาตแค้น ไม่ยึดเป็นศัตรูถาวร หากมีประโยชน์ต่องาน
-เป็นคนรักครอบครัว
-เป็นคนอย่านิ่งไม่เป็น ต้องคิดทำอะไรอยู่ตลอด
-เป็นคนมี ๒ อารมณ์ มีสติ และไม่มีสติ (เกิดความผิดพลาดบ่อยๆ)
-การใช้คุณธรรมนำการเมือง หรือ การเมืองนำคุณธรรม
-สรุปบทเรียนตลอดเวลา และเปลี่ยนแปลงได้ หากจำเป็นเพื่อไปบรรลุความสำเร็จ
(๒) หัวใจสำคัญของการขอกลับประเทศไทยแผ่นดินเกิด
ผมเคยเขียนกว้างๆ ถึงเหตุผลของ “ความต้องการกลับแผ่นดินเกิด”
๑.จังหวะเป็นรัฐบาลมีอำนาจ
๒.ต้องการใช้เวลาบั้นปลายของชีวิตที่เหลือมามากกลับมาอยู่กับลูกหลาน
๓.ต้องการกลับมาตายบ้านเกิด
๔.มีปัญหาสุขภาพอยู่ได้อีกไม่นาน
๕.อยู่เมืองไทย จัดการเรื่องพรรค อำนาจ เงิน ได้ดีกว่า
๖.อยู่ดูไบ อยู่ต่างประเทศ เริ่มมีปัญหาขัดแย้ง ฯลฯ
สำหรับเรื่องการตัดสินใจกลับมาเมืองไทยของหัวหน้า หัวหน้าคงคิดแบบที่ชาวพุทธเรียกว่า “โยนิโสมนสิการ” YONISOMANASIKARA หมายถึงการทำในใจให้ดีละเอียดถี่ถ้วน คือ การพิจารณาอย่างรอบคอบถี่ถ้วน ทางพุทธศาสนาถือว่า “มีคุณค่าเท่ากับความไม่ประมาท” หรือ “อัปปมาท” ซึ่งเป็นแหล่งรวมแห่งธรรมฝ่ายดี หรือ “กุศลธรรมทั้งปวง”
เป็นเรื่องของเหตุปัจจัย ที่เอื้ออำนวย ที่จักให้เกิดความสำเร็จตามความปรารถนาของหัวหน้าแม้หลายเรื่องไม่รู้ เป็นเรื่องที่อยู่ในใจของหัวหน้าและคงมีการปรึกษาหารือ กับบุคคลสำคัญฯ ลูก และคุณหญิงอ้อ
แต่หนึ่งในหัวใจของเรื่อง เป็นเรื่องที่ดีงาม งดงาม ปรารถนาจะทำให้ลุล่วงก่อนจากไปหากเป็นจริง จักเป็นเรื่องที่มีผลดีต่อ “หัวหน้าและครอบครัวชินวัตร”
@ นี่เป็นโอกาสครั้งสุดท้ายของหัวหน้า ไม่มีใครจัดการได้ทุกเรื่องอย่างหัวหน้าคุณอ้อ อาจจะเก็งจะเด่นกว่า ในบางเรื่องแต่ในภาพรวมครบเครื่อง มีหัวหน้าคนเดียว
สิ่งที่ดีที่สุด ที่ผมหวังคือความสุขในวาระสุดท้ายของชีวิต ทั้งต่อตัวเอง ที่ได้เกิด ได้อยู่ และได้ตายในแผ่นดินไทย และความสุข การคงอยู่ต่อไปของลูกหลานตระกูลชินวัตรฯ รวมทั้ง การเริ่มต้นมีส่วนร่วมทำให้ประเทศไทยเกิดความรักสมานฉันท์
ด้วยรักและปรารถนาดีอย่างตรงไปตรงมา
ชัยวัฒน์ สุรวิชัย
หมายเหตุ
ขอชมหลาน อุ๊งอิ๊ง ที่มีการพัฒนาและปรับปรุงตนเองได้ดี อย่างน่าฉงน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี