อุบาทว์ชาติชั่วมาก สำหรับคนบางจำพวก...
บางพวกที่อยากเห็นโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน กรุงเทพฯ-โคราช-หนองคายล้มเหลว ล้มเลิก
บางพวกอยากเห็นเสาตอม่อรถไฟความเร็วสูงที่เดินหน้าสร้างไปมากแล้วในขณะนี้ ถูกทิ้งค้างไว้ ไม่สำเร็จตามแผน
อยากได้เห็นสภาพเหมือน “โฮปเวลล์” เพื่อดิสเครดิตว่าเป็นความล้มเหลวของรัฐบาลลุงตู่และได้ขัดขวางการเชื่อมต่อทางการค้าและเศรษฐกิจกับประเทศจีน
สมใจสหรัฐอเมริกา พ่อบังเกิดเกล้าของคนบางกลุ่ม!!!!
คนบางกลุ่ม ปั่นกระแสเรื่องตำแหน่งสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา อ้างว่าอยุธยาจะถูกถอดจากการเป็นมรดกโลก (ห่างกว่า 2 กิโลเมตร)
อ้างมั่วๆว่า รถไฟความเร็วสูงผ่ากลางมรดกโลก
เมื่อชัดเจนว่ามั่ว ก็สร้างประวัติศาสตร์นอกกระแส เรื่องเมืองเก่าอโยธยาขึ้นมาอีก หาว่าตั้งอยู่ทับเมืองเก่าอโยธยา ที่ยังไม่มีการขุดค้น!!!!
ทั้งๆ ที่ สถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาที่จะสร้างนั้น ก็อยู่ที่ตั้งเดิมของสถานีรถไฟนั่นเอง !!!
ถ้าทับ มันก็ทับมาตั้งแต่เริ่มมีรถไฟผ่านอยุธยาแล้ว!!!
น่าเวทนามาก.. ยังอุตส่าห์วาดมโนภาพห่วงหาอาวรณ์จากจินตนาการ ทั้งๆ ที่ หากใช้วิธีแบบนี้ทั่วทุกสารทิศของอยุธยาก็มีโอกาสจะมีของเก่าอยู่ใต้ดินทั้งหมด เพราะความรุ่งเรืองในอดีต เท่ากับว่า จะไม่ให้มีรถไฟความเร็วสูงเลยในอยุธยา จะต้องไปสร้างสถานีไกลๆ แล้วค่อยนั่งรถต่อเข้ามาอีก ซึ่งเป็นการสร้างกำแพงปิดกั้นการพัฒนาเชื่อมต่อจากรถไฟความเร็วสูงโดยปริยาย
ที่น่าเสียใจแทนคนอยุธยาที่อยากจะเห็นบ้านเมืองจริญก้าวหน้า คือ สส.พรรคก้าวไกล จังหวัดพระนครศรีอยุธยาเอง ที่เข้ามาปั่นกระแสเรื่องนี้
แต่เหลือเชื่อตรงใช้จินตนาการ จับแพะชนแกะ เป็นตุเป็นตะ เพื่อจะถ่วงความเจริญในโครงการที่เป็นความร่วมมือระหว่างประเทศ และเริ่มสร้างช่วงอื่นๆ ไปแล้ว เหลือแต่ตรงอยุธยานี่เอง
แฟนเพจ โครงสร้างพื้นฐาน ประเทศไทย Thailand Infrastructure ซึ่งติดตามโครงการมาแต่ต้น เคยวิพากษ์วิจารณ์เสนอแนะไปหลายเรื่อง
ครั้งนี้ ทนไม่ไหวกับความพยายามบิดเบือน จึงได้ให้ข้อมูลและแง่คิดที่น่าสนใจมาก บางส่วนระบุ ดังนี้
“ขอร้อง!!! อย่าให้สถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา เป็นแพะทางการเมือง!!!
ตำแหน่งสถานี อยู่ตรงนี้ตั้งแต่แรก!!! จาก 2 ล้านๆ มา EIA 2556 สู่แบบก่อสร้างล่าสุด ห่างมรดกโลกกว่า 1.5 กิโลเมตร
ผมเห็นกระบวนการปั่นกระแส เรื่องตำแหน่งรถไฟความเร็วสูงอยุธยา
ที่อ้างว่าอยุธยาจะโดนถอน มรดกโลก จาก UNESCO บ้างล่ะ
สร้างประวัติศาสตร์นอกกระแส เรื่องเมืองเก่าอโยธยา บ้างล่ะ ทั้งๆที่รู้มาเป็นร้อยปี แต่ไม่มีใครมาขุดค้น พอจะสร้างรถไฟความเร็วสูง ก็เป็นห่วงกันขึ้นมา
โดยดราม่าเหล่านี้ถูกนำด้วยกลุ่มคน นักวิชาการ นักโบราณคดี และที่หนักสุด คือ “นักการเมือง”ทั้ง สส. ระดับประเทศ และนักการเมืองท้องถิ่น
ซึ่งมาพูดแบบ มองมุมเดียว และมีข้อเรียกร้องแบบที่หาจุดร่วมไม่ได้ จนสงสัยว่า สรุปคือ ไม่ต้องการให้สร้างใช่มั้ย???
แต่ทั้งหมดทั้งสิ้น ต้องขอบคุณ และชื่นชม ชาวอยุธยา ที่มีการตั้งคำถามกลับไปยังคนที่มาโจมตี และคัดค้านการสร้างสถานีอยุธยา ว่ากลุ่มคนเหล่านี้ขัดขวางความเจริญ และมองการพัฒนาแต่มุมเดียว!!!
*** ล่าสุด มีการตั้งประเด็น อ้างอิง ม.44 เป็นหนึ่งในสาเหตุในการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา ซึ่งจะทำลายโบราณสถานในอยุธยา
ซึ่งเป็นความบิดเบือนอย่างที่สุด เพราะตำแหน่งสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา มันอยู่ในตำแหน่งนี้ มาตั้งแต่โครงการ 2 ล้านๆ แล้ว!!!! จนออกมาเป็นแบบ และอนุมัติใน EIA 2556
สรุปแล้วมันยังไง เดี๋ยวผมมาเล่าให้ฟังอีกทีครับ
———
ย้อน Time line สถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา
- เดิม สถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา อยู่ในโครงการรถไฟความเร็วสูง สายเหนือ ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-พิษณุโลก
ซึ่งมีการศึกษาเสร็จตั้งแต่ปี 2556 เพื่อเตรียมจะเข้าแผนก่อสร้างตามโครงการ 2 ล้านๆที่เรารู้จักกัน
แต่พอมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด และรูปแบบโครงการ เลือกทำสายอีสาน ช่วงที่ 1 กรุงเทพฯ-โคราช ก่อน ก็เลยมีการปรับข้อมูลจากที่เคยศึกษาไว้ มาใช้กับสายอีสานแทน
ซึ่ง EIA เล่มนี้มีมติผ่านในปี 2560
- จากนั้นมีการปรับก่อสร้างอาคารสถานี พร้อมทำการแก้ไขผลการศึกษาใหม่ ในช่วง 2562
โดยในครั้งนี้ ก็มีการใช้สถานที่ก่อสร้างเดิม แต่มีการปรับปรุงรูปแบบอาคารให้สอดคล้องกับโบราณสถาน วัดใหญ่ชัยมงคล ซึ่งเป็นทรงจั่วขนาดใหญ่
แต่ในครั้งนี้ มีการแย้งเรื่องการบดบังทัศนียภาพของเมืองอยุธยา ทำให้ที่ปรึกษา ได้มีการปรับแก้ไขแบบ ลดมิติของอาคารลงมากว่า 30%
แต่สุดท้ายก็ “ไม่ผ่าน” จึงทำให้ โครงการถอยหลังกลับไปที่แบบ และการศึกษาโครงการ จาก EIA ปี 2556 และปรับแก้รายละเอียดอาคารสถานีจากตรงนั้นแทน
- แต่กรมศิลป์ อ้างถึง UNESCO ว่ากลัวการก่อสร้างสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยาไปกระทบเขตมรดกโลกอยุธยา
โดยทาง UNESCO ขอให้ทำ การศึกษาผลกระทบกับโบราณสถาน (HIA) ซึ่งไทยเราไม่เคยทำ และไม่มีข้อกำหนดรวมถึงกฎหมายควบคุมให้ทำ
ซึ่งสุดท้าย การรถไฟฯก็จ้างที่ปรึกษาทำแล้วและประชุมไปจนครบ ซึ่งเล่มศึกษา HIA ก็เสร็จ และตรวจรับไปแล้วบางส่วน
- มีกลุ่ม “อนุรักษ์เมือง อโยธยา” ซึ่งไม่ใช่อยุธยา และไม่ได้มีสถานะ มรดกโลกใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตรงนี้ แต่กลุ่มนี้อ้างว่า เป็นต้นกำเนิดอยุธยา
ซึ่งพื้นที่อโยธยาที่ “อ้างถึง” คือพื้นที่รอบสถานีรถไฟอยุธยา ยาวไปจนถึงเจดีย์วัดสามปลื้ม
แต่!!! ในพื้นที่นี้ ยังไม่ถูกขุดค้น และปัจจุบันประชาชนก็เข้าใช้พื้นที่เต็มไปหมดแล้ว
————
ปัญหากับโครงการรถไฟความเร็วสูง
ทางคนคัดค้านเขาบอกว่าการก่อสร้างทั้งทางวิ่งยกระดับ และสถานีรถไฟความเร็วสูง มีผลกระทบกับโบราณสถานใต้ดินที่ไม่ถูกขุดค้น แต่ก็ไม่เห็นว่าจะขุดเมื่อไหร่!!!
ซึ่งทางคนคัดค้านมีข้อเสนอ คือ
1. ทำทางวิ่งและสถานีอยุธยาเป็นรูปแบบใต้ดิน!!!!
ระยะทาง 5 กิโลเมตร
ใช้งบประมาณ 10,300 ล้านบาท
ใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 5 ปี!!!!
แล้วยังไม่รวมกรณีที่ขุดใต้ดินแล้วไปเจอวัตถุโบราณ ซึ่งอย่างที่รู้ว่าเมืองอยุธยาเป็นเมืองโบราณ ขุดไปทางไหนก็เจอวัตถุโบราณ
แล้วถ้าขุดไปเจอ จะต้องย้ายแนวอีกมั้ย??? ต้องเสียเวลาโยกย้ายวัตถุโบราณอีกกี่ปี??
สุดท้ายและสำคัญที่สุด พื้นที่เมืองอยุธยาเป็นพื้นที่ลุ่มน้ำท่วมเป็นประจำ แถมท่วมสูงขึ้นทุกปี แล้วถ้าอุโมงค์น้ำท่วมใครจะรับผิดชอบ มูลค่าเสียหายเท่าไหร่??? คุ้มกันมั้ย???
2. ทำทางรถไฟเลี่ยง!!!! เมืองอยุธยา ไป 30 กิโลเมตร จาก บางปะอิน-บ้านภาชี!!!!
ระยะทาง 30 กิโลเมตร
เวนคืนใหม่ตลอดเส้นทาง ค่าเวนคืนประมาณ 3,750 ล้านบาท
ต้องย้ายสถานีอยุธยาออกไป (ไปไหนก็ไม่รู้ กลางทุ่งสักที่)
ใช้งบประมาณ 22,630 ล้านบาท!!!
ใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 7 ปี!!!!
เอาจริงๆ ข้อเสนอนี้ มันเป็นเรื่องที่ไม่ควรมีเลยด้วยซ้ำ เพราะมีทั้งเรื่องผลกระทบของประชาชน แล้วไม่ส่งเสริมการเดินทางอะไรกับเมืองอยุธยา และอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาเลย!!!
ผมว่าถ้าจะทำแบบนี้ไม่ทำสถานีอยุธยาเลยซะดีกว่า สร้างไปก็ไม่มีคนใช้บริการซะเปล่าๆ
3. ย้ายสถานีอยุธยาไปที่สถานีบ้านม้า
ซึ่งเป็นการย้ายสถานีออกจากจุดเดิมไปอีก 5 กิโลเมตร ซึ่งตรงสถานีบ้านม้าอยู่ใกล้กับถนนสายเอเชีย (ทางหลวง 32)
ต้องเวนคืนพื้นที่โดยรอบเพื่อสร้างสถานี ค่าเวนคืนประมาณ 200 ล้านบาท
ใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท
ใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 5 ปี!!!!
ซึ่งเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่พอเป็นไปได้ แต่ก็ไม่ได้ประโยชน์กับเมืองอยุธยา และอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยาเท่าที่ควร!
แต่คำถามคือ เราต้องการให้ผู้โดยสารเดินทางไปไหน เราก็ควรจะพาผู้โดยสารไปใกล้กับปลายทางให้มากที่สุด ซึ่งตำแหน่งสถานีเดิมเป็นตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดแล้วจริงๆ
เพราะการย้ายออกไป 5 กิโลเมตร จะสร้างปัญหาการเชื่อมต่อระหว่างสถานีรถไฟความเร็วสูงกับ เมืองอยุธยา ต้องมาลงทุนระบบขนส่งมวลชนเชื่อมต่อระหว่าง 2 สถานีอีก!!
***แต่เป็นสิ่งนักการเมือง และนักเก็งกำไรต้องการให้ย้ายไปเพื่อสอดคล้องกับที่ดินที่ได้มีการดักซื้อไว้เป็นจำนวนมาก เป็นของใครบ้างก็ลองไปตามหากันครับ
———
ซึ่งข้อเสนอเหล่านี้ก็เป็นการแก้ปัญหาที่สร้างปัญหามากกว่า ทำให้ทางที่ปรึกษา เสนอทางเลือกคือ
1. จัดทำผังเมืองเฉพาะเพื่อควบคุมการเจริญเติบโตของเมืองโดยรอบสถานีรถไฟความเร็วสูง
ใช้งบประมาณ 80 ล้านบาท
ใช้เวลาเพิ่มขึ้นอีก 1 ปี
ซึ่งกรณีนี้จะไปสอดคล้องกับ โครงการ TOD อยุธยา ซึ่งจะไปวางเขตผังเมืองเฉพาะ เพื่อพัฒนาให้สอดคล้องกับบริบทของพื้นที่
แต่ก่อนหน้าก็มีการตีกลับโครงการ TOD อยุธยา เพราะทางกรมศิลป์ แจ้งว่าเป็นพื้นที่อนุรักษ์ ที่จะประกาศในอนาคต
2. สร้างทางวิ่งก่อน แล้วค่อยหาตำแหน่ง และรูปแบบสถานีที่ทุกฝ่ายพึงพอใจ
ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท
โดยกรณีนี้สามารถสร้างได้ทันทีและไม่กระทบกับแผนการก่อสร้าง หลังจากทุกอย่างลงตัวค่อยเริ่มสร้างสถานีตามแบบที่ทุกฝ่ายลงตัว
แต่ปัญหาคือสถานีอยุธยาจะเปิดช้ากว่าสถานีอื่น 3-5 ปี เพราะอาจจะต้องไปทำ EIA แก้ไขก่อน ซึ่งกว่าจะผ่านกระบวนการต่างๆ ก็จะช้าไป
————
ซึ่งตัวอาคารสถานีรถไฟอยุธยา ที่กลับไปใช้แบบสถานีรถไฟความเร็วสูงตามรูปแบบเดิม ที่ใช้เสนอ EIA ปี 2556 ซึ่งก็เป็นแบบสวยเหมือนกัน แต่เรียบง่ายลงมาเยอะ เน้นใช้วัสดุเป็นหลังคาและอาคารใส
ความสูงในส่วนต่างๆ ของอาคาร
- หลังคากลางอาคารสูงสุด อยู่ที่ 37.45 เมตร
- ระดับชั้น 3 ชานชาลารถไฟความเร็วสูง 19.00 เมตร
- ระดับชั้น 2 ชานชาลาพื้นที่ขายตั๋วและรอรถ 10.25 เมตร
- ระดับชั้น 1 สถานีเดิม ชานชาลารถไฟทางไกล และชานชาลารถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงในอนาคต 1.50 เมตร
ซึ่งถ้ายืนตามแบบนี้ สามารถสร้างได้ “ทันที“ เพราะทำตามกฎหมายไทยหมดแล้ว
———
ล่าสุด ผมพึ่งเห็นการจัดทัวร์ พาอินฟลูเอนเซอร์ ต่างๆเดินทางไป ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ “อโยธยา“
ซึ่งหนึ่งในรายละเอียดของการเสวนา ในครั้งนี้คือ “มรดกเผด็จการ ม.44 ทำลายมรดกโลก อโยธยา” {สรุปว่าอยุธยา หรือ อโยธยา ที่ได้มรดกโลกนะครับ}
โดยตรงนี้เห็นชัดเจนว่า เป็นการตั้งธง และผูกเรื่องเพื่อสร้างให้สถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา กลายมาเป็นแพะ และเป็นมรดกของ ม.44 ซึ่งคนละเรื่องตามที่ผมให้ข้อมูลมาตั้งแต่แรก!!!
———
ตอนนี้ก็ต้องฝากคนอยุธยา ช่วยกันให้ข้อมูล และรักษาสิทธิ์ให้กับตัวท่านเอง เพื่อการพัฒนาที่เหมาะสมกับเมืองอยุธยาครับ...”
ในเพจโครงสร้างพื้นฐานฯ ยังได้ยกตัวอย่างการพัฒนาสถานีรถไฟความเร็วสูงใกล้ๆมรดกโลกในญี่ปุ่น ซึ่งก็ไม่ได้ถูกถอดมรดกโลก แถมได้ประโยชน์แก่เมืองนั้นๆ ด้วย
หยุดบิดเบือนปั่นกระแสถ่วงปมสถานีรถไฟความเร็วสูงอยุธยา!!!
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี