คำว่า “ลูกผู้ชาย” ในภาษาไทยนั้น เป็นคำที่มีความหมาย “สุดลึกซึ้ง” และ “มีพลังบวกอย่างยิ่ง”เพราะเป็นการบ่งบอกถึง “คุณสมบัติของชายที่มีลูกกลมๆ ห้อย” ว่า จะต้อง “เจ๋งแค่ไหน?” และ “เจ๋งอย่างไร?” จึงจะถูกเรียกให้เป็น “ลูกผู้ชาย” ได้
โดยสังคมไทยได้แสดงออกเป็นนัยๆ ว่า ชายที่มี “คุณสมบัติ”ต่อไปนี้ ข้อใดข้อหนึ่งหรือหลายข้อ คือ “ลูกผู้ชายตัวจริง”
“1.เป็นชายที่มีความยุติธรรม 2.เป็นชายที่มีความซื่อสัตย์3.เป็นชายที่เด็ดเดี่ยว 4.เป็นชายที่กล้าหาญ 5.เป็นชายที่มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ตนได้กระทำลงไป และ 6.เป็นชายที่รักศักดิ์ศรี”
ในจำนวน 6 ข้อที่เป็น “เครื่องมือวัดความเป็นลูกผู้ชาย” นั้นดูเหมือนข้อ 5 และข้อ 6 จะเป็นเครื่องมือวัดที่ “เยี่ยมสุด”
ในปีค.ศ.1965 ฮอลลีวู้ดได้สร้างหนังเรื่องดังชื่อ “Sands of the Kalahari” หรือเรื่อง “นรกในทะเลทรายการาฮารี” ออกมาฉาย นำแสดงโดย “สเตร้าท์ ไวท์แมน” และ “สแตนเลย์ บาเกอร์”
เป็นเรื่อง “เครื่องบินเล็กถูกเช่าเหมาลำ” มี 6 ผู้โดยสารและ 1 กะปิตันขับเครื่องบิน เดินทางจากอียิปต์ไปประเทศแอฟริกาใต้ “ขณะบินอยู่เหนือทะเลทรายการาฮารีที่กว้างใหญ่ไพศาลรองลงมาจากทะเลทรายซาฮารา” ได้เกิด “พายุทรายขนาดใหญ่ถล่มรุนแรง” จนเครื่องบินปีกหักแล้วตกกลางทะเลทรายโดย 7 ชีวิตรอดตายอย่างปาฏิหาริย์แต่หมดโอกาสที่จะขอความช่วยเหลือจากโลกภายนอก เพราะเป็นยุคค.ศ.1940
7 ชีวิตตกนรกอยู่กลางทะเลทราย รอดตายอยู่เชิงภูเขาแห่งหนึ่งที่มีน้ำจืด ผลไม้และฝูงลิงป่าที่ดุร้าย โดยกะปิตันคนขับเครื่องบินเป็นชายหนุ่มที่แข็งแรงและทำตัวเป็นผู้นำ
4 วันผ่านไปไวเหมือนโกหก ทุกคนแน่ใจหากไม่หาทางออกจากทะเลทรายแห่งนี้ “ชีวิตคงจบเห่”
ในที่สุด ก็มีผู้โดยสารที่เป็นหนุ่มใหญ่รายหนึ่ง อาสาจะฝ่าทะเลทรายไปหาคนมาช่วย ชายคนดังกล่าวเดินทางไปไม่นาน ก็ถูกฝูงหมาป่าทะเลทรายล่าไปเป็นอาหาร
อีก 7 วันผ่านไป 6 ชีวิตที่อยู่ในนรกทะเลทรายต่างก็ถูก “ปีศาจร้ายที่ซ่อนอยู่ในใจตนเอง” ปล่อย “สันดานดิบออกมา” ด้วยการแย่งอาหารทะเลาะกัน ทำร้ายกัน จนมีชายแก่คนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส และกะปิตันได้สำแดงความเป็นเผด็จการออกมา “บังคับ” ให้ชายวัยกลางคนสองคนออกเดินทางไปคนละทิศเพื่อหาทางออกจากทะเลทรายมาช่วยอีก 4 ชีวิตที่เหลือ
ชายสองคนที่ถูก “บังคับ” ให้เดินทาง รายหนึ่งได้พบหมู่บ้านชาวทะเลทรายร่างจิ๋ว แล้วรอดตายอยู่กับชาวป่าแห่งนั้น
ในขณะที่ชายวัยกลางคนอีกราย “โชคดีอย่างเหลือเชื่อ” ไป “จ๊ะเอ๋” กับกองกำลังทหารกลางทะเลทราย
แล้วในที่สุด ก็มีเฮลิคอปเตอร์บินมาที่หุบเขาที่ 4 ชีวิตยังรอความช่วยเหลือ โดย 3 ผู้โดยสารที่รอดตายได้ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ แล้วใช้โทรโข่งตะโกนเรียกกะปิตัน ซึ่งเป็นผู้ผลักไสให้พวกเขาบางคนไปพบกับความตาย
ปรากฏว่า ใช้โทรโข่งเรียกกะปิตันจนตะวันใกล้ตกดิน “กะปิตันผู้ละอายใจ” กับ “ความโหดที่กระทำต่อผู้อื่น” จึงไม่ยอมออกจากที่ซ่อนมารับความช่วยเหลือ “สุดท้าย” เฮลิคอปเตอร์ก็ต้องบินจากไปเพราะ “ใกล้ค่ำ” และ “พายุทะเลทรายใกล้เกิดขึ้นอีกครั้ง”
หนังจบลงตรงฉาก ฝูงลิงที่ดุร้ายต่างวิ่งเข้าไปทำร้ายกะปิตันอย่าง “สุดหิว”
หนังจบแบบนี้ คนดูหนังคงคาใจ “กะปิตันยอมตาย”ถือเป็น “ลูกผู้ชายหรือไม่?”
กมลศักดิ์ ตั้งธรรมนิยม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี