ทำไม “รัฐบาลหนูน้อยถุงเท้าแดง”ถึงดูไร้ผลงานทั้งที่เข้าบริหารประเทศกว่า 90 วันแล้ว ทั้งที่ต้องยอมรับว่านายกรัฐมนตรีคนที่ 29 และรัฐบาลชุดที่ 62 แผ้วถางทางให้มวลปัญหาของชาติเบาบางแล้วพร้อมผลิดอกออกผลในเร็ววัน โดยเฉพาะ รากฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจ หลายโครงการที่ออกผลในรัฐบาลนี้ แม้ไม่มีคำชมเชยจากปากของคนในรัฐบาลก็ยังพอเบลอๆ บลาๆ ให้เป็นผลงานคุณความดีของรัฐบาลนี้ไป ทว่าบางเรื่องไม่ใช่ผลงานบางเรื่องที่สำรอกสำรากในสังคมไทยเป็นสิ่งที่ต้องนำมาเตือนสติรัฐบาลว่าสมควรกระทำให้เป็นเรื่องเป็นราวให้ถูกต้องโปร่งใสเท่าเทียมกัน ไม่ใช่หนีปัญหาไม่แก้ไขไม่ปริปากใดๆ อาทิ
กรณีการแต่งตั้งโยกย้ายนายตำรวจระดับ “ผู้กำกับการฯ”ที่เกิดวาทกรรมว่า “ตั๋วเพื่อไทย” ไม่รู้กาลเทศะ ทำให้สังคมขาดความเชื่อถือ การเชื่อมั่นว่า “น.ช.ทักษิณ ชินวัตร”จะสร้างประโยชน์เพิ่มให้กับรัฐบาลและคนไทยได้
แต่ทุกเรื่อง “หนูน้อยถุงเท้าแดง - เศรษฐา ทวีสิน” ก็อาศัยจังหวะแก้ตัวแบบลิ้นไม่มีกระดูกเฉไฉกล่าวอ้างความหมายเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่ใช่อย่างที่เผยแพร่ในสังคม ลักษณะตีกรรเชียงวนไปรอบเวทีไม่ปะทะไม่ออกอาวุธเยี่ยงนี้จะเอาคะแนนจากไหนมาสู้กับฝ่ายตรงข้ามเล่า
เราจึงได้ยลได้ยินเสียงสำรอกสำรากจากสัมภเวสีผู้นำจิตวิญญาณด้อมส้มผู้หิวกระหายแสงออกมารำทวนร่ายวาทกรรมประดิษฐ์ “90 วันวิเคราะห์ผลงานรัฐบาลเศรษฐา” ... “พิธาคิโอ - พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีท่าสะดุดขาตัวเองหกคะเมนล้มตีลังกากลางอากาศ นางประกาศชัดเจนว่า “ยุทธศาสตร์การบริหารราชการแผ่นดินเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมาก แสดงถึงความมุ่งมั่นในการที่จะรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เป็นความคาดหวัง การบริหารความเชื่อมั่้นของประชาชน และนักลงทุนจากต่างประเทศ “นาง”วิเคราะห์ผลงานรัฐบาลหนูน้อยถุงเท้าแดงว่า อะไรที่รัฐบาลทำดีแล้ว อะไรที่ยังไม่ชัดเจน อะไรที่ต้องเตือน และข้อเสนอแนะของพรรคก้าวไกลต่อรัฐบาลจะเป็นอย่างไร ด้วยกรอบ 5 คิดคือ
เราไม่แน่ใจว่า “หนูน้อยถุงเท้าแดง” ทราบหรือเคยอ่าน “บทความในหนังสือเรื่อง โคลนติดล้อของอัศวพาหุ” หรือจะเรียกให้ถูกต้องว่าบทความปลุกใจในหนังสือ “โคลนติดล้อ”พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาธีรราชเจ้าบ้างหรือไม่จึงขออัญเชิญความสั้นๆ มาเตือนเพื่อให้บังเกิดสติปัญญาในการบริหารประเทศให้เจริญพัฒนาสถาพรยิ่งๆ ขึ้น
โคลน ซึ่งพระองค์หมายถึงปัญหาและอุปสรรคที่กีดขวางตัวถ่วงความเจริญของประเทศชาติ ล้อ ก็คือ ประเทศ
ด้วยพระองค์ต้องการจะปลุกใจให้คนไทยรักชาติและชี้ให้คนไทยได้เห็นถึงข้อบกพร่องของตนเองซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้ประเทศเจริญก้าวหน้าช้ากว่าที่ควรจึงพระราชนิพนธ์วรรณกรรมเรื่อง “โคลนติดล้อ” ซึ่งมีทั้งสิ้น 12 บทประกอบด้วย บทที่ 1.การเอาอย่างโดยไม่ตริตรอง - เอาอย่างชาวตะวันตกโดยไม่คิด ควรริเริ่มทำอะไรด้วยตัวเอง, 2.การทำตนให้ต่ำต้อย - ไม่นับถือตัวเอง อาศัยชาวตะวันตกมากไป, 3.การบูชาหนังสือจนเกินเหตุ - เชื่อหนังสือพิมพ์มากเกินไป จนอคติกับรัฐบาล, 4.ความนิยมเป็นเสมียน -คนหนุ่มสาวไม่คิดจะประกอบอาชีพอื่นนอกจากงานเสมียน,5.ความเห็นผิด - คิดว่าตามฝรั่งแล้วจะถูกต้องเสมอทั้งที่ผิดจริยธรรมก็เห็นว่าดี
บทความที่ 6.ถือเกียรติไม่มีมูล - มีบางคนคิดว่าคนมีความเสมอภาคกัน จึงไม่เคารพผู้ใหญ่ ผู้ที่เคารพคือพวกประจบ 7.ความจนไม่จริง - คนไทยจริงๆ ไม่ได้จนแต่ใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เป็นหนี้พนัน จึงจน, 8.แต่งงานชั่วคราว -ถูกคลุมถุงชน จึงเป็นปัญหาแก่ฝ่ายหญิง ยิ่งถ้ามีลูกยิ่งลำบาก 9.ความไม่รับผิดชอบของบิดามารดา - ชายหญิงแต่งงานกัน มีลูก เลิกกัน แล้วไม่รับผิดชอบลูก,10.การค้าสาว - ชายซื้อเมียน้อย เมื่อไม่ต้องการก็ทิ้งขว้าง,11.ความหยุมหยิม - นิสัยใจแคบ เห็นแก่ตัว ชอบจับผิดคนอื่น,12.หลักฐานไม่มั่นคง -ผู้มีหลักมีฐานไม่มั่นคง แต่ยังบกพร่องในหน้าที่ ชอบเล่นการพนัน
ท่านทั้งหลายที่เป็นฝ่ายการเมืองสมควรจะลืมตา เพื่อพิจารณาก้อนโคลนต่างๆที่ติดล้อแห่งความเจริญของชาติ จะตระหนักได้ว่าโคลนเหล่านั้นบางก้อนติดมานมนาน และเป็นการลำบากที่จะล้างออกให้เกลี้ยงได้ในคราวเดียว แต่ถ้าประกอบด้วย วิริยภาพและความบากบั่นเราก็สามารถที่จะชำระโคลนนั้นออกได้หมดในเวลาอันควรของย่อมมีอยู่ บางอย่างที่เราจะเปลี่ยนแปลงได้ทันตามความพอใจ เพราะไม่เกี่ยวข้องกับผู้ใดนอกจากตัวเรา แต่ก็มีของบางอย่างเช่นกันที่ยากจะแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ด้วยเหตุว่ามีผู้อื่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเราจึงควรพิจารณาในสิ่งที่เกี่ยวข้องกับตัวเองก่อน ซึ่งอาจทำให้เราเห็นอัศจรรย์ต่างๆมากมาย พระองค์สรุปในบทความบทที่ 12 ซึ่งเป็นบทสุดท้าย
เราเชื่อว่าบทความในพระราชนิพนธ์เหล่านี้น่าจะเตือนสติให้รัฐบาลหนูน้อยถุงเท้าแดงตั้งมั่นและฉุกคิดในแง่มุมต่างๆและสร้างผลงานให้เกิดประโยชน์นำพาความศิวิไลซ์แก่ประเทศชาติบ้านเมืองดังหวังของประชาชน ไม่ใช่ยิ่งคิดยิ่งทำยิ่งถ่วงความเจริญของชาติ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี