“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า / แนวหน้าออนไลน์ สื่ออุดมการณ์ มั่นคงตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ทำความจริงให้ปรากฏ ให้สังคมไทย รู้เท่าทันเล่ห์ ทันเหลี่ยม นักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติติ่งแดงด้อมส้ม ส่ำสัตว์ติ่งสัมภเวสีที่หากินโกงชาติบ้านเมือง โกงกินเงินภาษีประชาชนอย่างเท่าเทียม”...

nn นโยบายแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล วอลเล็ต ที่ใช้งบประมาณสูงกว่า 5 แสนล้านบาทยังคงเคลื่อนไหวในมุมแคบๆ กับวาทกรรมเดิมๆ และเวลาที่เปลี่ยนแปลงไปล่าสุด “จุลพันธ์ออกมาแถลงข่าวความคืบหน้าที่มีแต่วาทกรรมเดิมๆ กับตุ๊กตาตัวใหม่ที่ชื่อ “คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กับเอกสารเสนอความเห็นในการตราพระราชบัญญัติเงินกู้เพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจที่ถูกบัญญัติพฤติกรรมน่าสังเวชว่า “กัดฟัน” ดันทุรังดำเนินนโยบาย/ ทั้งที่ควรใช้คำจำกัดความว่า “ดื้อด้านตะแบงเอาเสียให้ได้” เสียมากกว่า แถมยังปา “อุจจาระ” พร้อมข้อกล่าวหา“ตั้งธงขวาง” ใส่ “องค์กรของรัฐ” ที่ไม่ได้แสวงหาผลประโยชน์ใดๆตรงข้ามพยายามปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติประชาชนด้วยซ้ำ เพื่อแปลงสถานภาพให้องค์กรนั้นๆ ให้เป็น “กระโถน”รอการระบายอารมณ์ของ “ติ่งแดง–อุปกรณ์การเกษตร” ที่หูตายังไม่สว่าง หากต้องพับโครงการนี้หลีกเลี่ยงการติดคุกตะรางแบบ “อดีตเสนาบดีกระทรวงพาณิชย์” กับ “นโยบายโครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด”ของรัฐบาลเพื่อไทยยุค “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” นั่นปะไร...

nn ช่วงนี้ “ท่านตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ” งานชุกเป็นพิเศษ เพราะมีนักการเมือง พรรคการเมือง เรียงคิวมาให้เชือดกันถี่ยิบ ไม่ต่างไปจากศาลอาญาก็ว่าได้ เริ่มต้นจากมติคำวินิจฉัย 7 ต่อ 1 ให้ “ศักดิ์สยาม ชิดชอบ” สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย สิ้นสุดการเป็นรัฐมนตรี นับแต่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องของนักการเมืองพรรคฝ่ายค้าน(พรรคก้าวไกล) กรณีการปกปิดการถือหุ้นของ “ห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น”โดยไม่แจ้งในรายการบัญชีทรัพย์สินหนี้สินที่ต้องยื่นต่อป.ป.ช.เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สะเทือนถึง “พรรคภูมิใจไทย” ที่ต้องหาแม่บ้านคนใหม่จากการประกาศลาออกจากเก้าอี้เลขาธิการพรรคของ “เสี่ยโอ๋”...

nn ต่อด้วย “นิยายสงคราม” กรณี“พิธาคิโอ้–พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีถือหุ้นสื่อไอทีวี ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 (3) ให้สมาชิกภาพของ “พิธาคิโอ้” สิ้นสุดลงหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญเคยมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่สส.มาแล้วเมื่อรับคำร้องของกกต.ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งพ.ศ.2560 มาตรา 82 อนุมาตรา 4 ซึ่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยวันที่ 24 มกราคม 2567 จะได้ทราบกันเสียทีหลังชม ลีลาก้าวไกลการละคร ขอต่อเวลาการยื่นเอกสารชี้แจงอยู่นานสองนาน ถึงเวลาที่ “พิธาคิโอ้” นอกจากได้ดำรงตำแหน่ง “นายกฯทิพย์-นายกฯรถแห่” แล้ว ยังจะเป็นท่านผู้ทรงเกียรติที่ไม่มีสถานที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยหรือไม่แล้วค่อยไปรอดำเนินคดีตามมาตรา 151 ที่มีทั้งโทษจำและปรับต่อไป...1 , 2 , 3 , 4 , 5 คุก , คุก , คุก ,คุก

nnหลังจากนั้นถึงคิวตุลาการศาลรัฐธรรมนูญอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล เสนอนโยบายแก้ไข/ยกเลิกมาตรา 112 ที่ว่าด้วยการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์, เพื่อล้มล้างการปกครองตามมาตรา 49 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ซึ่งบัญญัติว่า “บุคคลจะใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมิได้”...

nn “ไม้หน้าสาม” ได้มีโอกาสเข้าชมการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันพุธที่ 17 มกราคม 2567 ตกใจนึกว่ามาผิดสถานที่ผิดประเทศ เพราะไม่เคยเห็นประธานในที่ประชุมแต่งกาย...เยี่ยงนี้ “อ๋อง หมอสัตว์–ปดิพัทธ์ สันติภาดา” รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ถูกพรรคก้าวไกลอัปเปหิจนต้องซมซานไปให้พรรคเป็นธรรมชุบเลี้ยงสวมใส่ “เสื้อลายมลายู”  ขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุมอย่างไม่แคร์ใดๆ เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่กับการขาดการอบรมสั่งสอนจากบุพการีจนไม่ใส่ใจคำว่า “กาลเทศะ” เลยแม้แต่น้อย ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก่อนหน้านี้ก็เคยโดนเพื่อนสมาชิกผู้ทรงเกียรติท้วงติงใส่เสื้อคอจีนขึ้นทำหน้าที่ประธานการประชุมมาแล้ว เหมือนไม่เคยอ่านไม่เคยศึกษาข้อบังคับการประชุมสภาว่าให้ชายแต่งกายอย่างไร หญิงแต่งกายอย่างไรเลยหรือ วุฒิภาวะ และสามัญสำนึก มีบ้างไหม ใครบอกว่า “พ่อแม่ไม่สั่งสอน” คงต้องเชื่อตามนั้นกันหรือไม่อย่างไร...

nn อายุขั้นต่ำการรับโทษทางอาญาของเด็กและเยาวชนในทวีปเอเชีย จีน 16 ปี, ไทย 15 ปี, เขมร 14 ปี, เกาหลีใต้ 13 ปี, อัฟกานิสถาน 12 ปี, ภูฏาน 10 ขวบ, บังกลาเทศ 9 ขวบ,อินโดนีเซีย 8 ขวบ, อินเดีย 7 ขวบ แล้วย้อนมองพฤติกรรมแก๊งอัปรีย์ชนที่ก่อกวนความสงบเรียบร้อยคุกคามเป็นภัยต่อสังคม ฆาตกรรมป้าบัวผัน สมควรจะใช้กฎหมายเด็กลงโทษอย่างนั้นหรือ เหลือขอปานนั้น แก้กฎหมายเพิ่มบทลงโทษให้สำนึกให้หลาบจำเป็นวรรคหนึ่ง, วรรคสอง... สาม...สี่วรรคท้ายก็น่าจะเป็นเรื่องดี... ดีกว่าให้ได้ช่องว่างกระทำคนไม่มีทางสู้สร้างตราบาปให้แก่ผู้อ่อนแอหรือไม่อย่างไร...

nn ทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองติ่งสัมภเวสีไม่รู้ไม่เห็นช่างปะไร ตุลาการศาลอาญาท่านผดุงความยุติธรรมอย่างที่สุด จึงสั่งยกฟ้องแกนนำกลุ่มพันธมิตรที่ชุมนุมเพื่อขับไล่ “โจรอุบาทว์” ให้ลงจากอำนาจพร้อมยุติการขยายกระจายอำนาจระบอบทักษิณ...

nn “ไม้หน้าสาม” ขอแสดงความยินดีแก่พี่ๆ ลุงๆ ที่พ้นข้อกล่าวหา “กบฏ” เสียทีหลังถูกเขียนป้ายแขวนคอสรรพนามนี้มานานนับสิบๆ ปี แต่ที่รู้สึกเสียดายคือ การนี้เลยไม่ได้เห็นกระบวนการยุติธรรมจะกระทำเหลื่อมล้ำต่างจากโจรอุบาทว์ที่หากินกับเงินภาษีประชาชน “ทุจริตคอร์รัปชั่น” มากมายจนต้องคำพิพากษาจำคุก 8 ปี แต่ด้วยพระมหากรุณาฯอย่างหาที่สุดมิได้ จึงได้รับพระราชทานอภัยลดโทษลงเหลือแค่ 1 ปี แต่กระนั้นจนวันนี้กว่า 150 วันแล้ว ยังเฉิดฉายฉลุยกายอยู่นอกทัณฑสถานยังไม่ต้องเข้าเรือนจำติดคุกเลยสักนิด...

nn “บิ๊กอ้วน-ภูมิธรรม เวชยชัย” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ที่มีเสียงสำรอกสำรากจากผู้ใหญ่ในรัฐบาลว่า ปฏิบัติหน้าที่ 4 เดือน 6 เดือนมีผลงานมากกว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาล “รปภ.โง่-ลุงตู่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” นายกรัฐมนตรีคนที่ 29 และองคมนตรี เสียอีก ผลงานแยะขนาดนั้นทราบไหมนมกล่องขยับปรับราคาเฉลี่ยกล่องละ 0.25 บาท จะให้เศรษฐกิจวิกฤตหรือเพิ่มภาระหนี้ครัวเรือนมากขึ้นรีบดำเนินการตรวจสอบแก้ไขเถอะ พ่อ-แม่ผู้ปกครองฝากมาบอกท่านเสนาบดีผลงานมากล้นที่เคารพ...nn