“เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย”ถอยเพื่อก้าวอย่างมั่งคั่ง มั่นคง และประกาศบทบาทใหม่ชุมนุมใหญ่ในวันศุกร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ 2567 และ/หรืออาจจะเป็นการชุมนุมกันทั่วประเทศอย่างที่เคยเกิดขึ้นเมื่อปี 2557 ด้วยฝีมือของ “กปปส. หรือ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข”จนสามารถยุติการแผ่อิทธิพลของระบอบทักษิณลงได้ เกิดความสงบสุขสันติภาพในช่วงเวลาหนึ่ง
แต่ที่น่าแปลกใจและน่ากังขายิ่งคือ ในเวลาที่สังคมไทยเรียกร้องหาข้อเท็จจริงในประเด็นข้อเท็จจริงที่ “โจรเทวดาโจรอุบาทว์โกงบ้านโกงแผ่นดินโกงเงินภาษีอากรประชาชน/นักโทษเด็ดขาดชายทักษิณ ชินวัตร”ไม่ถูกควบคุมตัวในทัณฑสถานเฉกเช่นผู้ต้องโทษคนอื่นๆ กลับปรากฏว่า“พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ดำเนินการให้โจรอุบาทว์รายนี้ไม่ถูกปฏิบัติภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกัน แต่มีพฤติกรรมราวกับว่าขยิบตานัดแนะเพื่อถีบนักโทษเด็ดขาดชายรรายนี้หลุดเข้าไปอยู่ในช่องว่างทางกฎหมาย
ด้วยวาทกรรมประดิษฐ์ “ราชทัณฑ์ไม่ใช่สถานที่ฆ่าคน ราชทัณฑ์ไม่ใช่สถานที่ทรมานคน ถ้าใครเจ็บป่วยก็ต้องไปรักษา ซึ่งการไปรักษาไม่ใช่แค่นายทักษิณเพียงคนเดียว แต่มีคนจำนวนมากไปรักษา ส่วนการรักษาของนายทักษิณนั้น เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ผมมองว่าท่านเป็นนักสร้างสันติภาพ…แม้ท่านจะไม่เห็นด้วยกับการยึดอำนาจ ทว่าวันนี้ต้องการให้บ้านเมืองมีสันติภาพ มีความปรองดองก็เข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรม จนเกิดป่วยก่อนรัฐบาลนี้เข้ามา” เนี่ยจิตสำนึก “เสนาบดีอีลิท”
เราไม่เห็นว่าสันติภาพของสังคมไทยไม่ได้เกิดขึ้นเพราะ “ทักษิณ” สำรอกสำรากยอมรับกระบวนการยุติธรรมตามคำพิพากษานั้นด้วยสามัญสำนึก เพราะข้อเท็จจริงนั้นสังคมไทยเห็นและรับรู้แล้ว เราเชื่อโดยสุจริตใจว่า หากรัฐบาลและกระบวนการยุติธรรมซื่อสัตย์ต่อหน้าที่นำโจรชั่วมาดำเนินการภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียมกันนั่นคือ สันติภาพในสังคมไทยมิใช่หรือ
การเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามคำพิพากษายอมรับข้อกล่าวหาว่าได้กระทำผิดจริงยังมิอาจคลายความเคลือบแคลงสงสัยว่า “โจรเทวดาอุบาทว์ชาติชั่วเยี่ยงนี้ ยอมรับข้อกล่าวหาด้วยสามัญสำนึกว่าได้กระทำการทุจริตบ่อนทำลายชาติอย่างร้ายแรงหรือไม่”
ความที่รัฐบาลมีท่าทีเมินเฉยต่อความเคลือบแคลงสงสัยของสังคมไทย โดยอ้างข้อบัญญัติในกฎหมายว่าด้วยการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นไปตามหลักสากล ย่อมชัดเจนว่า เจตนาของรัฐบาลนั้นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่และเลือกปฏิบัติอย่างมิอนาทรร้อนใจ
รัฐบาล และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งกรมราชทัณฑ์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ “อสัตย์ต่อจรรยาบรรณและหน้าที่ราชการ” ราวกับว่ามีการเตรียมการเรื่องนี้อย่างเป็นระบบเป็นขั้นตอนของกฎหมาย ที่คาดว่าลักษณะปฏิบัตินี้ จะครบกำหนด ที่ทักษิณถือว่าเข้าหลักเกณฑ์ การพักการลงโทษ เพราะถือว่าเข้ารับการรับโทษมาแล้ว 6 เดือน หลังพระราชทานอภัยลดโทษให้เหลือจำคุก 1 ปี ในวันที่ 22 ก.พ. 2567
กรณีเยี่ยงนี้จะทำให้ทักษิณได้รับการพักการลงโทษและจะทำให้ระเบียบกรมราชทัณฑ์ว่าด้วยการดำเนินการสำหรับการคุมขังในสถานที่คุมขัง พ.ศ.2566 หรือการคุมขังนอกเรือนจำ ที่ออกมาเมื่อ 6 ธ.ค.2566 โดยสามารถประกาศให้ “รพ.ตำรวจ” เป็นสถานที่คุมขังนอกเรือนจำ เพื่อควบคุมตัวทักษิณอย่างเป็นทางการ หรือจะประกาศให้ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เป็นพื้นที่คุมขังนอกเรือนจำก็ได้ตามระเบียบที่กล่าวมาข้างต้น
ที่เสนาบดีอีลิทมองว่าการถูกกักตัวในห้องสี่เหลี่ยมที่โรงพยาบาลก็เสมือนติดคุกไม่ต่างกันเยี่ยงนี้แล้วยังจะขึ้นชื่อว่า นักสร้างสันติภาพได้เยี่ยงนั้นหรือ
ในเมื่อสังคมไทยเห็นทนโท่อยู่ว่า ทั้ง “ขี้ข้าทั้งติ่งทาสสัมภเวสี” ยังปกป้องและปฏิบัติต่อโจรอุบาทว์ที่โกงบ้านโกงเงินแผ่นดินประดุจนายใหญ่ผู้มีพระคุณแล้วถ้าประชาชนที่อยากเห็นกระบวนการยุติธรรมศักดิ์สิทธิ์ หิ้วรองเท้าผ้าใบแบกเป้เสื้อผ้าร่วมชุมนุมใหญ่อย่างมิรู้เหน็จรู้เหนื่อย เรียกร้องให้นำตัว “โจรอุบาทว์ทุจริตคอร์รัปชั่น” ถูกควบคุมตัวดัดสันดานในทัณฑสถานภายใต้กฎหมายอย่างเท่าเทียม
สันติภาพยังจะมีในสังคมไทยอย่างที่ท่านเสนาบดีอีลิทสำเหนียกอย่างนั้นจริงหรือ??
ความสงบซึ่ง “รปภ.โง่,ลุงตู่ - พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” สู้อุตส่าห์สร้างและกำราบมาตลอด8-9 ปี จะกลายเป็นแค่ไฟไหม้ฟางเท่านั้น
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี